กลุ่มผู้ปกครองแห่วิจารณ์ คลิปที่เด็ก ๆ ทำกิจกรรม เด็กเข้าค่ายลูกเสือ แต่ระหว่างที่เด็ก ๆ ดึงเชือกล่องแพไปยังกลางบ่อน้ำปรากฏภาพที่ เด็กเข้าค่ายลูกเสือ กลับไม่ได้สวมเสื้อชูชีพเลยแม้แต่คนเดียว ผู้คนที่เห็นคลิปวิดีโอนี้ต่างก็พากันหวั่นว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 66 จากกรณีที่เพจดังอยากดังเดียวจัดให้รีเทิร์น part 6 แชร์เรื่องราว ค่ายแห่งหนึ่ง ใน.สุรินทร์ นำคลิปครูนำนักเรียนเข้าค่ายลูกเสือ โดยจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ดึงเชือกล่องแพ ไปยังกลางน้ำ แต่ถ้ามองดูให้ดี ๆ จะเห็นว่าเด็ก ๆ ทั้งหมด ไม่มีใครสวมใส่เสื้อชูชีพอยู่เลย เป็นที่น่าหวาดเสียว จนกลุ่มผู้ปกครองตั้งคำถามกันว่า กิจกรรมนี้ นั้นเหมาะสมหรือไม่ หรือพาเด็ก ๆ ไปเสี่ยงเกินความจำเป็นหรือไม่

จากการตรวจสอบของทีมข่าวพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิป เป็นการทำกิจกรรม เข้าค่ายลูกเสือ อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ทางทีมได้สอบถามผู้ดูแลทางค่ายลูกเสือ ได้ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะว่าเป็นพื้นที่เอกชน จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่า โรงเรียนใดบ้างที่เข้ามาใช้บริการ เพราะนอกจากโรงเรียนในจังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนในจังหวัดใกล้เคียงก็เข้ามาใช้บริการที่นี่เช่นกันหลังคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ใช้งานในโซเชียลต่างเข้ามาโจมตี การจัดกิจกรรมครั้งนี้อย่างมาก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางโรงเรียนที่กิจกรรมลูกเสือดังกล่าว ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

ต่อมาค่ายลูกเสือดังแจงคลิปให้นักเรียนข้ามแพโดยไม่มีชูชีพ ยืนยันระดับน้ำลึกเพียง 80 ซม.และมีเจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้บริหารค่ายดังกล่าว ขอชี้แจงว่าตามแต่ละฐานกิจกรรม ก็มีทางเจ้าหน้าที่ของค่ายคอยดูแลกำกับในทุกฐานกิจกรรม และก็เป็นครูอีกส่วนหนึ่งที่เดินทางมากับนักเรียนลูกเสือ เนตรนารี ภาพที่ปรากฏออกไปทำให้หลายคนเป็นห่วงเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับเด็กนั้น
ยืนยันว่า ระดับน้ำความลึกระดับน้ำเพียง 80 เซนติเมตร ซึ่งในค่ายจะนึกถึงความปลอดภัยของเด็ก ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อจากนี้ ก็จะเพิ่มความเข้มงวดในด้านความปลอดภัยเข้าไปอีก เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองและครู และในทุกกิจกรรมจะถามความสมัครใจของเด็ก ๆ หากไม่สมัครใจก็จะให้ข้ามไปยังฐานอื่น ๆ จะไม่มีการบังคับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : สลด เด็กจมน้ำตาย จากการไปพายเรือเล่น กับเพื่อน ๆ พ่อแม่ต้องดูแลลูกให้ดี!
10 เหตุผลที่ควรสวมเสื้อชูชีพ
1. เสื้อชูชีพสามารถช่วยชีวิตได้
ทุก ๆ ปี หน่วยยามชายฝั่งสหรัฐจะรวบรวมรายงานอุบัติเหตุ ของเรือที่ใช้เพื่อการท่องเที่ยว โดยได้เก็บสถิติจากอุบัติเหตุทางเรือที่ผู้สวมเสื้อชูชีพสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุทางเรือได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยอุบัติเหตุทางเรือที่เกิดขึ้นนั้นมีทั้ง คนจมน้ำ, การได้รับบาดเจ็บ, หัวใจหยุดเต้น, ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ, พิษจากคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นต้น
2. อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกสภาพอากาศ
หากคิดว่าวันนี้อากาศดี ฟ้าฝนเป็นใจ และไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้นได้ แต่สภาพอากาศไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่สุด ที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้ เพราะจริง ๆ แล้วปัจจัย 5 อันดับแรกที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุนั้นก็คือ อันดับแรกเลยคือ ความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน การขาดประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงาน การเตรียมการที่ไม่เหมาะสม เครื่องจักรขัดข้อง และ ความเร็วที่มากเกินไปทำให้เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้

3. ว่ายน้ำเป็น ก็สามารถจมน้ำได้
เป็นความคิดที่ประมาทอย่างมาก หากคิดว่าว่ายน้ำเป็นและเลือกที่จะออกไปโดยไม่สวมเสื้อชูชีพ ไม่ว่าจะว่ายน้ำเก่งแค่ไหนก็ตาม เมื่อเผชิญกับความกลัวจะทำให้ไม่มีสติ ตกใจและไม่สามารถว่ายน้ำได้ สำลักน้ำ หากเกิดเหตุการณ์ตกน้ำแบบไม่ทันตั้งตัว หรือ ถูกคนว่ายน้ำไม่เป็นฉุดรั้ง จากการศึกษาพบว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่จมน้ำคือคนที่ว่ายน้ำเก่ง แต่ไม่ได้สวมใส่อะไรเพื่อป้องกันตัวเมื่ออยู่ในน้ำค่ะ
4. เสื้อชูชีพช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น
เสื้อชูชีพในปัจจุบันถูกออกแบบมา เพื่อทำให้อุณหภูมิของร่างกายอบอุ่นขึ้นขณะอยู่ในน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำร่างกายของจะเย็นลงจากอุณหภูมิของน้ำ หากใส่เสื้อชูชีพก็จะช่วยลดความเสี่ยง การช็อกจากอุณหภูมิเย็นจัด (cold shock) ที่จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสัมผัสกับน้ำเย็น โดยไม่ได้เตรียมตัว หรือให้ร่างกายปรับตัวก่อน ระบบประสาทอัตโนมัติ จึงตอบสนองอย่างฉับพลัน ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก นอกจากนี้ ความเย็นจัดอย่างฉับพลันจะทำให้เส้นเลือดหดตัวอย่างรวดเร็ว เกิดการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญไม่เพียงพอ อาจทำให้หมดสติได้ ส่วนใหญ่มักเป็นชั่วครู่ เมื่อร่างกายปรับตัวได้ หรือได้รับความอบอุ่นแล้วก็จะทำให้ดีขึ้นได้ค่ะ
5. เสื้อชูชีพไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น
จาก 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำเป็นเด็กอายุไม่เกิน 14 ปี แต่อีก 4 คนคือคนที่อายุมากกว่านั้น สิ่งสำคัญคือไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ควรละเลยที่จะสวมใส่เสื้อชูชีพ เพราะอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่ได้เลือก เกิดกับเฉพาะเด็กเท่านั้น เราจึงควรกันไว้ดีกว่าแก้นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 ห่วงยาง สำหรับเด็กเล็ก ดีไซน์น่ารักน่าใช้ ให้ลูกน้อยเล่นน้ำได้ปลอดภัย !!

6. ช่วยให้รอดได้หากเมา
ดูเหมือนว่าห้ามได้ยาก สำหรับอยู่บนเรือภายใต้บรรยากาศดี ๆ จิบแอลกอฮอล์เบา ๆ แม้จะดื่มเพียงน้อยนิดแต่ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ มีรายงานว่า พบคนที่ตกจากเรือเนื่องจากอาการมึนเมาอยู่บ่อยครั้ง การสวมเสื้อชูชีพจะช่วยพยุงให้ลอยตัวได้ แม้เมาอยู่ก็ตาม แต่ความจริงแล้วไม่ควรจะเมาขณะอยู่บนเรือ เพราะจะช่วยให้มีโอกาสรอดได้มากกว่านะคะ
7. เสื้อชูชีพสามารถเปลี่ยนทิศทางของการลอยตัวได้
หากว่าเกิดสลบหมดสติ ใบหน้าคว่ำอยู่ในน้ำ และนี่คงจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้มีเสื้อชูชีพที่จะสามารถทำให้สามารถหงายหน้าเมื่ออยู่ในน้ำได้ นี่จึงเป็นอีกข้อ ที่จะช่วยให้รอดได้ หากสวมเสื้อชูชีพ
8. เป็นตัวอย่างให้คนอื่น
ผู้คนมักจะชอบปฏิบัติตัวตามกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ทำกัน ดั่งเช่นสุภาษิตที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม และถ้าหากมีคนจำนวนมากสวมเสื้อชูชีพ ก็จะช่วยให้ชีวิตปลอดภัยมากขึ้น มาช่วยกันเป็นคนที่เริ่มเทรนด์ที่ปลอดภัย ด้วยการสวมเสื้อชูชีพกันนะคะ

9. อุบัติเหตุเกิดขึ้นใกล้กับชายฝั่ง
ไม่สำคัญว่าจะอยู่ตรงจุดไหน บนท่าเรือ เรือ เจ็ตสกี หรือแค่ว่ายน้ำเล่น อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ในทุกที่ ในทุกระดับความสูงของน้ำ ควรที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับทุกสิ่งหากลูกอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
10. เช็กให้แน่ใจว่าเสื้อชูชีพพอดีกับตัว
การเลือกเสื้อชูชีพที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เสื้อชูชีพที่ใหญ่เกินไปจะทำให้ชุดที่ช่วยในการลอยน้ำ ดันขึ้นมาบริเวณใบหน้าซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะอาจจะทำให้ไม่สามารถหายใจได้อย่างสะดวก เสื้อชูชีพที่เล็กเกินไป ก็จะไม่สามารถช่วยพยุงตัวให้ลอยน้ำได้ค่ะ
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมต้องสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งเมื่อลงเรือ หรือทำกิจกรรมทางน้ำ เพราะการใส่เสื้อชูชีพนั้นจะเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตมากขึ้น ทั้งสภาพอากาศยังไม่ใช่สาเหตุเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้และการว่ายน้ำเป็น ก็มีสิทธิ์ที่จะจมน้ำได้เช่นกัน เสื้อชูชีพยังไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ทำให้ลอยตัวได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และเปลี่ยนทิศทางของการลอยตัวได้อีกด้วย และอย่าลืมที่จะเช็กให้แน่ใจว่า เสื้อชูชีพนั้นมีความเหมาะสมกับขนาดของตัวหรือไม่ เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงสุดนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
นั่งเรือลุยโคลน ปลูกป่าชายเลน สัมผัส ชีวิตชาวประมงที่คลองโคน
เด็กจมน้ำ วิธีป้องกันเด็กไม่ให้จมน้ำ และขั้นตอนการช่วยเหลือ
ประสบการณ์ลูกจมน้ำ วิธีปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำ แบบไหนที่ห้ามทำเด็ดขาด
ที่มา :
https://www.beyondthetent.com
https://www.ch7.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!