ในวันที่เหนื่อยล้า หรือเจอลูกที่เอาแต่ใจและดื้อไม่ฟังอะไรเลย คำพูดบางอย่างที่ดูเหมือนไม่รุนแรง กลับทำให้ลูกยิ่งต่อต้าน ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ ยิ่งไม่ให้ความร่วมมือ และถ้าพูดซ้ำบ่อย ๆ อาจกระทบต่อพัฒนาการทางอารมณ์และความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ในระยะยาว
คำพูดบางอย่างที่ดูเหมือนไม่รุนแรง กลับกระตุ้นให้เด็กต่อต้านโดยไม่รู้ตัว และเมื่อมันเกิดซ้ำ ๆ ทุกวัน ก็จะกลายเป็นพฤติกรรมฝังลึก ที่เรียกว่า “วงจรยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ” โดยไม่ตั้งใจเลยค่ะ
ปัญหาพฤติกรรม ดื้อ ต่อต้าน ไม่เชื่อฟัง ส่วนใหญ่มักไม่ได้มาจากนิสัยของเด็ก แต่มาจาก วิธีที่พ่อแม่สื่อสารกับลูก มาดูกันค่ะว่า คำพูดแบบไหนที่พ่อแม่ ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ
ทำไมพ่อแม่ยิ่งพูด ลูกยิ่งดื้อ?
พฤติกรรมดื้อของเด็กไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่คือ ภาษาทางอารมณ์อย่างหนึ่งที่เขากำลังสื่อสารความไม่เข้าใจ ความต้องการ หรือการเรียกร้องความสนใจ หากพ่อแม่ไม่เข้าใจและใช้คำพูดแรง ๆ ซ้ำ ๆ ยิ่งกลายเป็นว่ายิ่งพูดลูกยิ่งดื้อเข้าไปใหญ่
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington, 2014) พบว่า เด็กอายุ 3-6 ปีมีแนวโน้มจะไม่ให้ความร่วมมือเมื่อได้รับคำสั่งเชิงลบหรือไม่มีเหตุผล มากถึง 67% เพราะเด็กวัยนี้ยังพัฒนาทักษะการควบคุมตนเอง (self-regulation) ไม่สมบูรณ์ และต้องการการชี้นำที่เข้าใจง่าย อบอุ่น และปลอดภัยจากพ่อแม่
7 คำพูดสุดฮิตของพ่อแม่ ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ
1. “แม่บอกแล้วใช่ไหม ห้ามทำ!”
คำพูดนี้เต็มไปด้วยความคาดหวังและแรงกดดัน เด็กที่ยังพัฒนาเรื่องการควบคุมตนเองจะรู้สึกเหมือนโดนตำหนิมากกว่าการแนะนำ และหากใช้บ่อย ๆ ก็จะเข้าสู่วงจร ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ เพราะรู้สึกว่าทุกคำพูดของแม่คือคำตำหนิ ไม่ใช่การเข้าใจ
2. “อย่าดื้อได้ไหม!”
เมื่อพ่อแม่พูดแบบนี้ เด็กจะเริ่มตีความว่าตัวเองเป็น “เด็กดื้อ” จริง ๆ ซึ่งพอเขารู้สึกว่าเราไม่คาดหวังให้เขาเป็นอย่างอื่น เขาก็จะไม่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกต่อไป นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของ “การยอมรับตัวตนแบบดื้อ ๆ” เพราะรู้สึกว่าแม่เองก็ตัดสินเราไปแล้ว กลายเป็น ยิ่งพูดยิ่งดื้อ ยิ่งเตือนก็ยิ่งต่อต้าน

3. “จะเอาแบบนี้ใช่ไหม เดี๋ยวแม่ไม่รักนะ”
การใช้ความรักเป็นเครื่องมือควบคุมลูก ไม่ได้ช่วยให้เด็กเชื่อฟัง แต่กลับทำให้เขาไม่มั่นคงทางอารมณ์ เด็กที่กลัวจะเสียความรักของแม่ จะเริ่มต่อต้านหรือกลัวจนไม่กล้าแสดงออก ซึ่งระยะยาวส่งผลให้ ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ เพราะเขาไม่เชื่อใจความรักของเราแล้ว
4. “ทำไมถึงทำแบบนี้ ลูกคนอื่นเขายังไม่ทำเลย”
การเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำลายใจเด็กได้มากที่สุด แม้พ่อแม่จะตั้งใจดี แต่เด็กจะรับรู้ว่า “แม่ไม่เห็นค่าในตัวหนู” ความน้อยใจจะถูกกลบด้วยพฤติกรรมดื้อ ซึ่งสะสมไปเรื่อย ๆ และรู้สึกว่าแม่ไม่เข้าใจตัวตนที่แท้จริง
5. “รีบกินเดี๋ยวอด!” หรือ “เร็ว ๆ แม่ไม่มีเวลา!”
การเร่งเร้าทำให้เด็กเกิดแรงกดดันและต่อต้านโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องใช้เวลาในการประมวลคำสั่ง หากพ่อแม่พูดแบบเร่ง ๆ ซ้ำ ๆ จะยิ่งไปกระตุ้นสมองส่วน “Fight or Flight” ให้ต่อต้านโดยไม่รู้ตัว
6. “ไม่ต้องร้อง! เด็กดีไม่ร้องไห้”
คำพูดแบบนี้ทำให้เด็กรู้สึกว่า “อารมณ์ไม่ดีของหนูไม่ถูกยอมรับ” ซึ่งอันตรายมากในระยะยาว เพราะเด็กจะไม่เรียนรู้การจัดการอารมณ์ เมื่อเขาถูกกดอารมณ์ไว้บ่อย ๆ ก็อาจระเบิดออกเป็นพฤติกรรมรุนแรง เมื่อไหร่ก็ตามที่เขารู้สึกไม่สามารถพูดความรู้สึกกับพ่อแม่ได้
7. “แม่ไม่อยากคุยกับหนูแล้ว”
แม้จะพูดออกไปเพราะเหนื่อยใจ แต่สำหรับเด็กเล็ก คำนี้คือการ “ถูกทอดทิ้ง” ความรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่อยู่เคียงข้าง อาจทำให้เขาสร้างกำแพจและเลือกต่อต้านทุกอย่างที่เราพูด เพราะลึก ๆ แล้วเขารู้สึกไม่ปลอดภัย ยิ่งถ้าคำพูดนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็จะทำให้ลูกยิ่งดื้อรุนแรงมากขึ้น

แล้วจะพูดยังไงให้ลูกฟัง? ไม่ต้องเสียงดัง ไม่ต้องขู่ลูก
-
เปลี่ยน “คำสั่ง” เป็น “คำเชิญชวน”
“อย่าเล่นน้ำอีกนะ” เปลี่ยนเป็น “เล่นน้ำเสร็จแล้ว เรามาเช็ดตัวให้แห้งกันนะคะ”
เมื่อเปลี่ยนโทนเสียงและคำพูดให้เป็นมิตร เด็กจะไม่รู้สึกต่อต้าน และพฤติกรรมดื้อ ก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
-
เทคนิคให้ลูกเลือกในกรอบที่เรากำหนด
“ลูกอยากเก็บของเล่นก่อน หรือแปรงฟันก่อนดีคะ?”
การให้ทางเลือกที่ปลอดภัยทำให้เด็กมีส่วนร่วม ไม่รู้สึกว่าถูกควบคุม จึงลดภาวะต่อต้านได้
-
รับฟังความรู้สึกลูกก่อนแก้พฤติกรรม
“หนูหงุดหงิดเพราะอยากเล่นต่อใช่ไหม แม่เข้าใจนะ”
“เราจะเล่นต่ออีก 5 นาที แล้วไปกินข้าวดีไหม?”
การเริ่มต้นจากความเข้าใจ จะช่วยให้ลูกเปิดรับคำพูดของเรา และไม่ต่อต้านอีกต่อไป
หยุดวงจร “ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ” ด้วยการพูดใหม่ ฟังใหม่ และเข้าใจลูกมากขึ้น
พฤติกรรมของลูกคือกระจกสะท้อนคำพูดและอารมณ์ของพ่อแม่ในทุกวัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้ ด้วยการเปลี่ยนวิธีพูด ฟังลูกด้วยใจ และเข้าใจพัฒนาการของเขา เพราะเด็กไม่ได้ “ดื้อ” เพื่อจะทำให้พ่อแม่เหนื่อย แต่เขา “ดื้อ” เพื่อบอกบางสิ่งที่เขายังพูดออกมาไม่เป็นต่างหาก
ที่มา : Yale Child Study Center , University of Washington , Harvard University , simplypsychology , Positive Discipline
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูกดื้อมาก ไม่เชื่อฟัง ทำไงดี? เทคนิคปรับพฤติกรรมเด็กดื้อ อย่างเหมาะสม
10 วิธีเด็ดรับมือ วัยต่อต้าน ปราบลูกดื้อด้วยความเข้าใจ
หยุด! คำพูดทำร้ายจิตใจเด็ก คำพูดที่แม่คิดว่าล้อเล่น คือมีดที่กรีดใจลูกทุกวัน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!