ความรู้สึกที่แม่ทุกคนเข้าใจ แค่ได้ยินเสียงลูกร้อง เราก็ใจหายวาบ รีบพุ่งตัวออกไปหาลูกโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย สิ่งนี้ ไม่ใช่แค่ความรัก ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่มันคือ “ชีววิทยา” ที่อยู่ในตัวแม่ทุกคนเพราะ สมองของแม่ เปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่มีลูก
วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความรู้สึกแม่ ไม่ใช่แค่ใจ…แต่มาจากสมอง
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากแม่ได้ยินเสียงลูก สมองของแม่ จะมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณ ความรัก และการปกป้อง โดยไม่ต้องใช้เหตุผลเลยแม้แต่นิดเดียว
ในปี 1999 นักประสาทวิทยา Lorberbaum และคณะ ใช้การสแกนสมองด้วย fMRI กับกลุ่มคุณแม่ขณะฟังเสียงลูกร้อง พบว่าสมองหลายส่วนสว่างวาบทันที โดยเฉพาะ
- Anterior Cingulate Cortex – เกี่ยวกับความเจ็บปวดทางอารมณ์
- Auditory Cortex – ประมวลเสียงร้องได้อย่างไว
- Limbic System – เกี่ยวข้องกับความรัก สัญชาตญาณ และความกลัว
- Motor Cortex – สั่งให้ร่างกายรีบ “ขยับตัว” ไปหาลูก เพื่อปกป้องลูกทันที
ในปี 2017 นักวิจัยจากหลายประเทศนำโดย Bornstein et al. ศึกษาคุณแม่จาก 11 ประเทศ พบว่า สมองแม่ทั่วโลกตอบสนองต่อเสียงร้องลูกเหมือนกันเกือบหมด

สัญชาตญาณแม่ = ปฏิกิริยาอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้เหตุผล
ถ้าใครเคยคิดว่าแม่ “ใจร้อนเกินไป” เวลาได้ยินลูกร้อง บอกเลยค่ะว่า ไม่ใช่! เพราะระบบประสาทของแม่ออกแบบมาให้ “ลุกไปหาลูกทันที” โดยไม่ต้องผ่านการคิดไตร่ตรองก่อน
งานของ Noriuchi et al. (2008) แสดงให้เห็นว่า สมองของแม่ ตอบสนองรุนแรงกว่าปกติต่อเสียงร้องของลูก โดยเฉพาะเมื่อลูกของตนเองร้อง มากกว่าเสียงร้องของเด็กคนอื่น เสียงร้องของลูกจึงเหมือนเป็นการเปิดระบบการปกป้องของแม่โดยอัตโนมัติ
แม่เปลี่ยนไปจริง ๆ สมองแม่หลังคลอดเปลี่ยนโครงสร้าง
หลายคนอาจเคยรู้สึกว่า “ตั้งแต่มีลูก เราไม่เหมือนเดิม” ใช่ค่ะ เพราะ สมองของแม่เปลี่ยนไปจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องคิดไปเอง
ในปี 2016 ทีมนักวิจัยจากสเปนและเนเธอร์แลนด์ นำโดย Elseline Hoekzema และ Oscar Vilarroya ค้นพบว่า สมองแม่มีการ “ลดปริมาณ gray matter” บางส่วน โดยเฉพาะบริเวณที่เกี่ยวกับ การรับรู้สังคม (Social cognition) การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้แม่สามารถ “เข้าใจความต้องการของลูก” ได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงนี้อยู่ได้นาน มากกว่า 2 ปีหลังคลอด

เสียงร้องที่เปลี่ยนชีวิต จุดเริ่มต้นสายใยแม่ลูก
เสียงร้องของลูก คือภาษาการสื่อสารแรกสุดที่ลูกใช้ ไม่ใช่เสียงกรีดร้องธรรมดา แต่คือเสียงเรียกแม่ จากระดับ DNA
ทฤษฎีที่เรียกว่า Infant Cry Theory โดย Joseph Soltis (2004) อธิบายว่า เสียงร้องของทารกออกแบบมาให้กระตุ้นการดูแลจากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ “แม่”
เมื่อแม่ได้ยินเสียงนั้น ร่างกายจะหลั่ง ฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกอยากกอดลูก ลดความเครียด และทำให้แม่เชื่อมโยงกับลูกมากขึ้น
ไม่ใช่แค่แม่! พ่อก็เปลี่ยน (แต่ไม่เท่าแม่)
คุณพ่ออย่าเพิ่งน้อยใจ งานวิจัยของ Abraham et al. (2014) พบว่า พ่อที่มีส่วนร่วมในการดูแลลูก ก็มีการเปลี่ยนแปลงของสมองเช่นกัน โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ การวางแผน การคิดล่วงหน้า สมองของพ่ออาจไม่ได้ตอบสนองทางอารมณ์ทันทีเท่าแม่ แต่จะค่อย ๆ ปรับตัวตามเวลาและประสบการณ์ค่ะ
ความเข้าใจนี้สำคัญอย่างไร?
การรู้ว่า สมองของแม่ เปลี่ยนไปเพราะเสียงลูกร้อง ช่วยให้เรา
- หยุดโทษตัวเองเวลารู้สึก “ไวเกินไป”
- เข้าใจว่าความรู้สึกเหล่านั้นคือ “ธรรมชาติ”
- ส่งเสริมให้คนรอบข้างสนับสนุนแม่ ไม่ใช่ตัดสิน
ความรักของแม่ไม่ใช่เรื่องอารมณ์ แต่คือเรื่องชีววิทยา ไม่ใช่เรื่องคิดมาก คุณไม่ได้เป็นแม่ขี้กังวล แต่เป็นเรื่องที่สมองสั่งให้ทำ
เพราะสำหรับแม่… ความรัก คือ วิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูกนอนผวา ร้องไห้ เรื่องที่คุณแม่ต้องเข้าใจ และรับมืออย่างเหมาะสม
ชีวิตที่มีลูก เข้าแล้วออกไม่ได้ : บริหารเวลายังไง ให้ชีวิตแม่มีความสุข
20 เรื่องที่ถ้าไม่มาเป็นแม่ ไม่มีวันรู้ ความจริงที่ไม่มีใครบอก จนกระทั่งคุณได้เป็นแม่คน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!