X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญแค่ไหน?

บทความ 8 นาที
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญแค่ไหน?

ถ้าให้จะพูดถึง วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ คุณคิดว่าสำคัญแค่ไหน แล้วจำเป็นจะต้องฉีดทุกครั้งในการตั้งครรภ์หรือไม่ เรามีคำตอบให้กับคุณค่ะ

สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เราควรจะให้ความใส่ใจในเรื่องของวัคซีนมากเป็นพิเศษ โดยมากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มักจะได้รับวัคซีนตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ แต่ก็ยังมีคุณแม่หลายราย ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์ จึงเป็นต้นเหตุการณ์เสี่ยงให้เกิดอาการป่วยต่าง ๆ ทั้งตัวคุณแม่เอง และตัวของลูกที่อยู่ในครรภ์มารดาด้วยเช่นกัน และวัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไม่ควรมองข้ามก็คือ วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ที่นอกจากจะช่วยป้องกันเรื่องของการติดเชื้อต่าง ๆ ระหว่างการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยป้องกันเหตุติดเชื้อที่เกิดจากการคลอดบุตรอีกด้วย

วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์

วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก นับว่าเป็นวัคซีนที่จำเป็นมากสำหรับคุณแม่ที่มีครรภ์ ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับการฉีดวัคซีนเหล่านี้มาก่อนที่จะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม แต่เมื่อคุณมีอายุครรภ์ในช่วย 27 – 36 สัปดาห์ คุณจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนชนิดนี้ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

โดยวัคซีนนี้ จะเป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคได้ทั้ง 3 ชนิดในเข็มเดียว จึงนับว่าเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันที่สร้างความปลอดภัย และสะดวกสบายให้กับคุณแม่ และบุตรในครรภ์ได้เป็นอย่างดี

โดยมากการได้รับการฉีดวัคซีน จะมีการกำหนดอย่างชัดเจน หากคุณแม่ มีการฝากครรภ์ และได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้ดูแล เพราะวัคซีนชนิดนี้ มักจะถูกกำหนดอยู่ในแพ็คเกจหลักอยู่แล้ว และทางคุณหมอ จะทำการกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อการรับวัคซีนดังกล่าว

ในขณะที่คุณแม่บางคน เลือกที่จะฝากครรภ์ในช่วงระยะเวลาใกล้คลอด ทำให้เกิดความเสี่ยงหลาย ๆ อย่าง จึงอยากแนะนำให้คุณแม่ที่รู้ตัวว่าตนเองตั้งครรภ์นั้น รีบไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เมื่อตนเองทราบ เพื่อการเฝ้าระวัง และติดตามผลการเจริญเติบโตของเด็ก และเพื่อการเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างปลอดภัยในทุก ๆ ด้าน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : คอตีบคืออะไร โรคคอตีบมีอาการเป็นอย่างไร มีสาเหตุเกิดมาจากอะไร มีวิธีรักษาหรือไม่

 

วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญแค่ไหน?

 

ลักษณะของ 3 โรคติดต่อ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

โรคคอตีบ

โรคคอตีบเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งเชื้อมักจะพบอยู่ในน้ำลาย เสมหะ หรือน้ำมูก และสามารถติดต่อได้ง่ายทางลมหายใจ การไอ หรือการจามรดกัน รวมถึงการใช้สิ่งของร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นช้อนส้อม เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ก็สามารถทำให้ติดเชื้อกันได้เช่นกัน

เชื้อคอตีบนี้ จะมีระยะการฟักตัวอยู่ที่ 1 – 7 วัน หากติดเชื้อนี้เข้าไป จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน จนส่งผลให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเส้นประสาทอักเสบได้

หากมีการติดเชื้อนี้ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ต่ำ ปวดศีรษะ เจ็บคอ คลื่นไส้อาเจียน ครั่นเนื้อครั่นตัว มักจะมีอาการอ่อนเพลีย และอาจส่งผลให้เกิดการอักเสบของกล่องเสียง มีเสียงแหบ หายใจลำบาก หัวใจล้มเหลว เป็นอัมพาต และถึงแก่ชีวิตได้

 

โรคไอกรน

โรคไอกรน เป็นโรคติดต่อทางระบบการหายใจเช่นเดียวกันกับโรคคอตีบ โดยมากเชื้อโรคไอกรน จะเกิด และฟักตัวอยู่ในบริเวณลำคอของผู้ป่วย โดยมีระยะเวลาฟักตัวประมาณ 7 – 14 วัน สามารถแพร่กระจายได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งโดยตรงจากผู้ป่วย

อาการที่จะสังเกตได้จะใกล้เคียงกับอาการไข้หวัดทั่วไป คือ มีน้ำมูก จาม ไอเล็กน้อย มีไข้ต่ำ แต่อาการไอจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ และต่อเนื่อง จนส่งผลถึงการรับประทานอาหาร การดื่ม และการหายใจ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนติดเชื้อเข้าสู่ปอด จนทำให้ระบบหายใจมีปัญหา เมื่อเชื้อสะสมไปเรื่อย ๆ ก็จะส่งผลให้เชื้อสามารถเข้าไปทำลายตามเซลล์สมองได้ในที่สุด

 

โรคบาดทะยัก

เป็นเชื้อที่มีอยู่ตามสิ่งแวดล้อมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นพื้นดิน พื้นหญ้า มูลสัตว์ และมักจะเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่ไม่มีออกซิเจน เรามักจะพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อโรคบาดทะยักนั้น มักจะเกิดจากบาดแผลตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตะปูตำ หนามตำ หรือสัตว์กัด เป็นต้น

ผู้ที่ติดเชื้อบาดทะยัก โดยมากจะมีระยะเวลาการฟักตัวของเชื้ออยู่ที่ 3 – 21 วัน หรืออาจจะนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละบุคคล แต่โดยเฉลี่ยมักจะพบเจออาการในช่วง 10 – 14 วัน โดยเชื้อบาดทะยักนี้ จะเป็นเชื้อที่สามารถทำลายระบบประสาท ทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดอาการกระตุก ขากรรไกรแข็ง อ้าปากไม่ได้ คอแข็ง ชักกระตุก หายใจติดขัด หากเป็นมาก ๆ ก็ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตได้เช่นกัน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : วัคซีนป้องกันโรคไอกรน คล้ายหวัดควรระวัง 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

 

วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญแค่ไหน?

 

การฉีดวัคซีนสำคัญอย่างไร กับหญิงตั้งครรภ์

1. การฉีดวัคซีนนั้น ไม่ได้เป็นการป้องกันเพียงแค่ตัวของคุณแม่เอง แต่ยังสามารถปกป้องไปถึงบุตรที่อยู่ในครรภ์ด้วยเช่นกัน เพราะในระยะที่บุตรยังอยู่ในครรภ์นั้น เขาจะยังไม่สามารถรับวัคซีนได้ด้วยตัวเอง แต่การได้รับภูมิคุ้มกันผ่านมารดาสู่ทารก จึงทำให้สุขภาพของลูก ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี

2. การฉีดวัคซีนในขณะตั้งครรภ์ มีงานวิจัยรับรองแล้วว่า ปลอดภัยทั้งตัวแม่ และทารกในครรภ์ ดังนั้น คุณแม่สามารถไว้วางใจได้เต็มที่

3. โรคไอกรน อาจจะแสดงอาการในผู้ใหญ่ไม่มาก แต่เป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี การที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ จะรับวัคซีนชนิดนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในครรภ์ จึงมีความจำเป็นอย่างมาก

4. ระยะเวลาในการรับวัคซีน สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน แบบไร้เซลล์ Tdap คุณหมอมักจะแนะนำให้ในหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่อายุครรภ์ 27 – 36 สัปดาห์ เพราะจะช่วยให้มีภูมิคุ้มกัน ช่วยปกป้องทารกหลังคลอดจากโรคได้ดีที่สุด

5. หญิงตั้งครรภ์ จะมีภาวะอ่อนแอกว่าปกติเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเสี่ยงกับการป่วย และเกิดอาการแทรกซ้อน ดังนั้น การได้รับวัคซีน จึงมีความสำคัญอย่างมาก ตลอดช่วงอายุครรภ์

6. นอกจากหญิงตั้งครรภ์แล้ว ผู้คนที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ พี่ น้อง หรือคนสนิท ที่จะต้องใกล้ชิดกับตัวของคุณแม่ ก็ควรที่จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ เช่นกัน เพราะเขาเหล่านั้น อาจจะเป็นพาหะที่นำเชื้อที่ไม่ปรารถนามาให้กับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ หรือทารกที่พึ่งคลอดออกมาก็เป็นได้

7. แม้ว่าตัวคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ไปแล้ว แต่หากตัวคุณแม่ ได้มีการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้ง ก็จำเป็นจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนนี้ซ้ำใหม่อีกครั้ง เพราะภูมิคุ้มกันนั้น ๆ จะลดลงไปตามระยะเวลา

บทความจากพันธมิตร
ว่าด้วยเรื่อง ลูกเป็นภูมิแพ้ กับ ฝุ่น PM2.5 อันตรายใกล้ตัว ที่พ่อแม่ต้องระวัง
ว่าด้วยเรื่อง ลูกเป็นภูมิแพ้ กับ ฝุ่น PM2.5 อันตรายใกล้ตัว ที่พ่อแม่ต้องระวัง
รู้หรือไม่? มลพิษทางอากาศ และ ฝุ่น PM 2.5 เข้าปอดลูกได้แม้อยู่ในครรภ์แม่
รู้หรือไม่? มลพิษทางอากาศ และ ฝุ่น PM 2.5 เข้าปอดลูกได้แม้อยู่ในครรภ์แม่
5 วิธี เสริมภูมิคุ้มกัน กุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกรักแข็งแรง พร้อมเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
5 วิธี เสริมภูมิคุ้มกัน กุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกรักแข็งแรง พร้อมเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
ป้องกัน ลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ฉบับคุณแม่มือโปร ด้วย Breeze Baby
ป้องกัน ลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ฉบับคุณแม่มือโปร ด้วย Breeze Baby

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : บาดทะยัก อาการ สาเหตุ รวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับบาดทะยัก

 

ผลข้างเคียงหลังรับวัคซีน

หลังรับวัคซีนสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ แม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็ไม่ควรละเลย โดยอาจจะมีอาการปวด บวม แดง ในบริเวณที่ฉีดวัคซีน ให้รีบประคบเย็น โดยทันที ผู้รับวัคซีนอาจมีไข้อ่อน ๆ อาเจียน ปวดเมื่อย หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก หรือหัวใจเต้นเร็ว ซึ่งอาการเหล่านี้มักหายเองภายใน 1 – 2 วัน แต่หากมีอาการผิดปกติอื่น หรืออาการไม่ดีขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์โดยทันที

 

วัคซีนที่ห้ามฉีดระหว่างตั้งครรภ์

แม้ว่าจะมีวัคซีนจำนวนมากที่ผู้ตั้งครรภ์จำเป็นจะต้องได้รับการฉีด แต่ก็ยังคงมีวัคซีนที่ผู้ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน ซึ่งวัคซีนที่ไม่ควรฉีดขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ งูสวัด (Zoster) วัคซีนคางทูม หัด หัดเยอรมัน ( Measles, mumps, rubella ) และวัคซีนป้องกันโรคสุกใส (Varicella)

เนื่องจากเป็นวัคซีนเชื้อเป็น อาจทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อ และเกิดความพิการที่อวัยวะต่าง ๆ เช่น หู ตา หัวใจ แขน ขา และสมอง ดังนั้นหากต้องการวางแผนที่จะมีบุตรก็ควรฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนตั้งครรภ์ โดยหากต้องการฉีดวัคซีน หัดเยอรมัน (Rubella vaccine) นั้น แนะนำให้ฉีดก่อนตั้งครรภ์มากกว่า 1 เดือนหรือฉีดหลังคลอดทันที 1 เข็ม และฉีดเข็มที่สองห่างจากเข็มแรกหนึ่งเดือน เป็นต้น

ดังนั้นการวางแผนการตั้งครรภ์ จึงมีความสำคัญอย่างมาก >>>สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญแค่ไหน?

 

วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก มีกี่ชนิด

วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน และบาดทะยัก เป็นการผลิตจากเชื้อ และพิษของเชื้อที่ผ่านกระบวนการทําให้หมดความสามารถในการเกิดโรค และไม่มีเชื้อโรคที่มีชีวิตผสมอยู่ จึงมีความปลอดภัย และสามารถนำไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก มีหลายชนิด แยกออกไปได้ดังนี้

1. วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก คอตีบ

เป็นวัคซีนที่จำเป็นจะต้องฉีดให้กับเด็กทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ชุดแรก 3 ครั้ง มีระยะห่าง 0, 1 และ 6 เดือน หลังจากนั้นให้ฉีดกระตุ้นซ้ำทุก ๆ 10 ปี รวมถึงตัวคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ที่มีความเสี่ยงในการมีบาดแผลสกปรก ที่อาจจะมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อบาดทะยักระหว่างคลอด

2. วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ชนิดทั้งเซลล์

เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ด้วยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นขาด้านหน้าทั้งสิ้น 5 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 2, 4, 6, 18 เดือน และ ครั้งที่ 5 เมื่ออายุประมาณ 4 -6 ปี นอกจากนี้ยังมีวัคซีนชนิดรวมกับวัคซีนป้องกันตับอักเสบบี โปลิโอ และฮิบในเข็มเดียวกัน อย่างไรก็ตามวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ชนิดทั้งเซลล์ ไม่เหมาะสำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 7 ปี และผู้ใหญ่ แต่ควรแทนด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก (ไม่มีไอกรน)

3. วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ชนิดไร้เซลล์ (รวมอยู่ใน 1 เข็ม)

ทําจากพิษของเชื้อคอตีบ และบาดทะยักที่ผ่านขั้นตอนทําให้ไม่ก่อโรคในคน มีส่วนประกอบบางส่วนของเชื้อไอกรนที่แยกบริสุทธิ์ โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 5 ครั้ง ตามอายุเช่นเดียวกับชนิดทั้งเซลล์ อีกทั้งยังสามารถใช้ทดแทนกันได้ทุกครั้ง อย่างไรก็ตามผู้ที่เคยได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนชนิดทั้งเซลล์ เช่น มีไข้สูง ชัก ควรพิจารณาใช้วัคซีนชนิดไร้เซลล์ในการฉีดครั้งต่อไป เนื่องจากวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ชนิดไร้เซลล์มีผลข้างเคียงต่ำกว่า

4. วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ชนิดไร้เซลล์ สูตรสำหรับเด็กโต และผู้ใหญ่ (รวมอยู่ใน 1 เข็ม)

การนําวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยักชนิดไร้เซลล์ชนิดสูตรสําหรับเด็กโต และผู้ใหญ่มาใช้ทดแทน โดยดัดแปลงวัคซีนไอกรนให้มีความบริสุทธิ์ และมีปริมาณเชื้อไอกรนลดลง นอกจากนี้ยังสามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่น ๆ ได้ในวันเดียวกัน แต่ต้องแยกเข็มฉีด

 

วัคซีนอะไรบ้าง ที่คนท้องควรฉีด?

ณ ปัจจุบัน วัคซีนหลัก ๆ ที่คนตั้งครรภ์ จำเป็นจะต้องฉีด มีอยู่ด้วยกันประมาณ 3 ชนิด ได้แก่

1. วัคซีนป้องกัน Covid-19

2. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

3. วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน และบาดทะยัก

วัคซีนเหล่านี้ จะทำหน้าที่ป้องกันโรคเสริมสร้างให้ตัวคุณแม่แข็งแรง และสามารถส่งภูมิคุ้มกันไปให้กับบุตรในครรภ์ได้ด้วย ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดนั้น จะต้องคำนึงถึงอายุครรภ์ของตัวคุณแม่ด้วย ดังนั้น จำเป็นจะต้องวางแผนการฉีดวัคซีนเป็นอย่างดี และควรอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ที่มา : A , B , C , D

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วัคซีนไข้หวัดใหญ่กับแม่ตั้งครรภ์ วัคซีนสำคัญกับเหตุผลที่ว่าทำไมจึงควรฉีด

วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีหญิงตั้งครรภ์ ฉีดก่อนลูกน้อยในครรภ์ติดเชื้อ

วัคซีนพิษสุนัขบ้า จำเป็นต้องฉีดหรือไม่ ต้องฉีดอย่างไร แม้ท้องฉีดได้หรือเปล่า!?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Arunsri Karnmana

  • หน้าแรก
  • /
  • วัคซีน
  • /
  • วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญแค่ไหน?
แชร์ :
  • สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

    สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

  • ยาระงับปวดระหว่างตั้งครรภ์ คนท้องกินยาพาราแก้ปวดได้ไหม อันตรายหรือเปล่า?

    ยาระงับปวดระหว่างตั้งครรภ์ คนท้องกินยาพาราแก้ปวดได้ไหม อันตรายหรือเปล่า?

  • ว่าด้วยเรื่อง ลูกเป็นภูมิแพ้ กับ ฝุ่น PM2.5 อันตรายใกล้ตัว ที่พ่อแม่ต้องระวัง
    บทความจากพันธมิตร

    ว่าด้วยเรื่อง ลูกเป็นภูมิแพ้ กับ ฝุ่น PM2.5 อันตรายใกล้ตัว ที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

    สัญญาณเตือนออทิสติก มีอะไรบ้าง สังเกตได้จากเพลงกล่อมเด็กจริงไหม?

  • ยาระงับปวดระหว่างตั้งครรภ์ คนท้องกินยาพาราแก้ปวดได้ไหม อันตรายหรือเปล่า?

    ยาระงับปวดระหว่างตั้งครรภ์ คนท้องกินยาพาราแก้ปวดได้ไหม อันตรายหรือเปล่า?

  • ว่าด้วยเรื่อง ลูกเป็นภูมิแพ้ กับ ฝุ่น PM2.5 อันตรายใกล้ตัว ที่พ่อแม่ต้องระวัง
    บทความจากพันธมิตร

    ว่าด้วยเรื่อง ลูกเป็นภูมิแพ้ กับ ฝุ่น PM2.5 อันตรายใกล้ตัว ที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ