วัคซีนไข้หวัดใหญ่กับแม่ตั้งครรภ์ ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายกับคนท้องมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นแล้วจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อีกทั้งยังส่งผลอันตรายต่อลูกน้อยภายในครรภ์อีกด้วย หากเมื่อมีโอกาสคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรจะหาเวลาไปฉีดวัคซีนชนิดนี้ไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด
รู้จักกับโรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่อันตรายแค่ไหน
โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A และชนิด B โดยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แพร่ระบาดได้ง่ายผ่านการไอ จาม รวมไปถึงการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจากผู้ป่วย โดยผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย และสำหรับในประเทศไทยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการแพร่กระจายได้ตลอดทั้งปี แต่มักพบได้บ่อยในฤดูฝนและฤดูหนาว โดยประเทศไทยพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ต่อปีเป็นจำนวนหลายแสนคน และผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะมีภาวะแทรกซ้อน และอาจทำให้เสียชีวิตได้โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
บทความที่น่าสนใจ : ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และโควิดในเด็ก ที่พ่อแม่ควรแยกให้ออก
อาการของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
อาการโดยทั่วไปของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่นั้น มักมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีอาการหวัด รวมถึงอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยภาวะแทรกซ้อนที่มักพบบ่อยคือ ภาวะแทรกซ้อนทางปอด หัวใจ และสมอง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจนำพามาซึ่งการเสียชีวิตได้ โดยผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน ของโรคไข้หวัดใหญ่ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กอายุไม่เกิน 3 ปี ผู้สูงวัยที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
บทความที่น่าสนใจ : อาการไข้หวัดใหญ่ 2021 Influenza วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่กับคุณแม่ตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ จะมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าคนทั่วไป เพราะต้องเดินทางไปฝากครรภ์ ซึ่งอาจจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคชนิดนี้ อีกทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ ยังมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต่ำกว่าคนทั่วไปอีกด้วย สำหรับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น มักมีอาการไข้สูง และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเช่นเดียวกับผู้ป่วย ไข้หวัดใหญ่ทั่วไป แต่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนทางปอด หัวใจ และสมอง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ซึ่งอาจรุนแรงจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิต และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้ จนอาจส่งผลทำให้แท้งบุตร หรือทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ได้
ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ อาจมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากมีความจำเป็นที่ต้องไปฝากครรภ์ ในสถานพยาบาลซึ่งมีผู้ป่วยอยู่เป็นประจำ อีกทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ ยังมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต่ำกว่าคนทั่วไปอีกด้วย ซึ่งถ้าหากติดเชื้อเข้าไป อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย เป็นที่มาให้แม่และทารกในครรภ์เสียชีวิตได้
ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น เป็นการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด โดยสามารถป้องกันการติดเชื้อทั้งในคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ด้วย อีกทั้งทารกที่คุณแม่ได้ฉีดวัคซีนยังมีภูมิต้านทานโรคที่ผ่านมาทางรก ซึ่งช่วยลดการติดเชื้อในช่วง 6 เดือนแรกอีกด้วย นอกจากนี้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังมีความปลอดภัยสูง และเนื่องจากเป็นวัคซีนเชื้อตาย จึงไม่มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์ หรือต่อทารกในครรภ์ อีกทั้งยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ และช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์อีกด้วย
ซึ่งการที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทำการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หญิงตั้งครรภ์ที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ภูมิคุ้มกันก็จะส่งผ่านไปยังทารก และภูมิคุ้มกันยังคงอยู่และช่วยปกป้องทารกตั้งแต่หลังคลอดจนถึงอายุ 6 เดือน อีกด้วย
ความปลอดภัยของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนเชื้อตาย จึงมีความปลอดภัยสูง คุณแม่ตั้งครรภ์หรือทารกในครรภ์จึงไม่เกิดการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ ซึ่งจะพบเพียงแค่อาการข้างเคียง หลังฉีดวัคซีนซึ่งพบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็น เพียงอาการไข้ต่ำ ๆ ผื่น และอาการปวดบวมแดงเฉพาะตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน อีกทั้งยังไม่เคยพบการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง หรือ อันตรายถึงชีวิต
บทความที่น่าสนใจ : วัคซีนพิษสุนัขบ้า จำเป็นต้องฉีดหรือไม่ ต้องฉีดอย่างไร แม้ท้องฉีดได้หรือเปล่า!?
ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน
หลังจากได้รับวัคซีนแล้ว คุณแม่บางคนอาจได้รับผลกระทบต่อร่างกาย แต่อาการเหล่านี้ก็มีเพียงเล็กน้อยมาก เช่น
- ไข้ต่ำ ๆ
- วิงเวียนศีรษะ
- คลื่นไส้
- ปวด เมื่อยกล้ามเนื้อ บริเวณที่ฉีด
- เป็นผื่น
อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้จะสามารถหายไปหลังจากฉีดวัคซีน 1-2 วัน ในระหว่างนั้นควรทำการประคบเย็นบริเวณที่ฉีดวัคซีน หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือคลึงตรงบริเวณนั้น รวมทั้งการรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดค่ะ
คำแนะนำสำหรับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่กับแม่ตั้งครรภ์
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถฉีดได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป แต่ควรเน้นการฉีดวัคซีนในคนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะหญิง ตั้งครรภ์ เด็กอายุ 6 เดือนถึงเด็กอายุไม่เกิน 3 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี และสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีน คุณแม่ควรจะฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป หรือในช่วงไตรมาสที่ 3 หลัง 28 สัปดาห์ เพื่อลดอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์จากโรค โดยสำหรับข้อห้ามสำหรับการฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่นั้น มีน้อยมาก ๆ เช่น ห้ามฉีดในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งตรงนี้ หากคุณแม่ได้มีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ ก็จะเป็นการส่งต่อภูมิคุ้มกันมายังทารก ซึ่งช่วยป้องกันทารกหลังคลอดไม่ให้ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่เป็นเวลาถึง 6 เดือน นอกจากนี้ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ โดยเฉพาะหากเป็นอาการแพ้ไข่ชนิดรุนแรง ควรให้ความระมัดระวังในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนอื่น ๆ ที่แม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ
1) วัคซีนบาดทะยัก
หนึ่งในวัคซีนที่ทางองค์การอนามัยโลกได้จัดให้เป็นวัคซีนที่คุณแม่ควรฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อบาดทะยักในเด็กแรกเกิด ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคบาดทะยักในแม่ รวมไปถึงทารกที่จะเกิดมาอีกด้วยด้วย การฉีดวัคซีนชนิดนี้ แนะนำให้ฉีดในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์
2) วัคซีนคอตีบ
เป็นวัคซีนตัวตายประกอบไปด้วยทอกซอยด์คอตีบซึ่งไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อตัวแม่ท้อง จึงแนะนำให้ฉีดเพื่อป้องกันโรคคอตีบในแม่และป้องกันคอตีบในลูกที่คลอดมา
3) วัคซีนไอกรน
โรคไอกรนนับว่าเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หากเป็นมากอาจทำให้ระบบหายใจถึงขั้นล้มเหลวและถึงแก่ชีวิตได้ วัคซีนไอกรนเป็นวัคซีนตัวตายสามารถฉีดในคนท้องได้ ช่วยป้องกันโรคไอกรนในแม่และลูกที่คลอดมา ในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ ค่ะ
4) วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรฉีด โดยเฉพาะแม่ ๆ ที่มีความเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนนี้เป็นวัคซีนตัวตายซึ่งไม่มีอันตรายต่อแม่หรือลูก
5) วัคซีนป้องกัน Covid-19
ปัจจุบันนี้แพทย์มักจะแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ซึ่งสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโควิด สามารถทำให้เกิดอาการทางระบบทางเดินหายใจ และเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย คุณแม่ควรที่จะได้รับวัคซีนทั้งหมดนี้ในระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี รวบไปถึง วัคซีน โควิด-19 ค่ะ เพื่อให้ตัวคุณแม่และลูกน้อยปลอดภัยจากโรคร้ายค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีหญิงตั้งครรภ์ ฉีดก่อนลูกน้อยในครรภ์ติดเชื้อ
ไข้หวัดใหญ่ สังเกตอาการไข้หวัดใหญ่ พร้อมวิธีป้องกัน ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลโรค
แม่ท้องฉีดวัคซีน หรือยัง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ ป้องกันภาวะปอดอักเสบ
ที่มา : , facebook, Paolo Hospital, Petcharavej, Paolo Hospital
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!