คลอดธรรมชาติ เป็นวิธีหนึ่งของการคลอดตามแบบวิธีปกติของมนุษย์ที่ยึดถือปฏิบัติกันมาเป็นเวลานานหลายพันปี และมีการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน มาดูกันดีกว่าว่าวิธีคลอดลูกแบบธรรมชาติอย่างไรให้ปลอดภัย ไปดูกัน
การคลอดธรรมชาติ (Natural birth) หรือเรียกอีกอย่างว่า Active birth เป็นการคลอดลูกด้วยวิธีการเบ่งคลอดเองผ่านทางช่องคลอด ซึ่งอายุครรภ์ที่คลอดจะอยู่ที่ 37 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 42 สัปดาห์ การคลอดลูกแบบธรรมชาตินั้นมักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ของผู้หญิงที่เจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ โดยอาการเริ่มต้นของการคลอดแบบธรรมชาติคือการอาการเจ็บท้องคลอด ซึ่งความเจ็บปวดของผู้หญิงแต่ละคนนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไป
สำหรับคุณแม่บางท่านอาจมีอาการเหมือนกับปวดท้องประจำเดือน สำหรับบางคนอาจมีอาการปวดแบบรุนแรงเหมือนกับเป็นตะคริว หรือท้องเสียอย่างรุนแรง โดยอาการเจ็บปวดนั้นคุณแม่บางท่านอาจใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง และสำหรับคุณแม่บางท่านอาจต้องใช้ระยะเวลาเป็นวันก่อนที่ทารกจะคลอด ซึ่งหลังจากการคลอดบุตรแล้วคุณแม่จะมีอาการดังต่อไปนี้
- หมดแรง การใช้แรงเบ่ง และการรวบรวมพลังงานทั้งหมดเพื่อคลอดบุตรให้ออกมานั้นจะทำให้คุณแม่หมดแรงหลังจากการคลอด และต้องการการพักผ่อนมากที่สุดหลังจากที่ทารกลืมตามาดูโลก
- ตัวสั่น หรือตัวเย็น เป็นปฏิกิริยาทางธรรมชาติหลังคลอด ซึ่งคุณแม่หลายท่านเป็น
- เจ็บบริเวณช่องคลอด คุณแม่อาจรู้สึกเหมือนกับเป็นตะคริวในมดลูก หรือมดลูกกำลังบีบรัด
วิธีคลอดธรรมชาติอย่างปลอดภัย
ถ้าคุณแม่ตัดสินใจว่าจะคลอดธรรมชาติแล้ว การเตรียมพร้อมที่ดี จะนำไปสู่การคลอดธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
- เลือกโรงพยาบาลที่มีผู้เชี่ยวชาญในการทำคลอดแบบธรรมชาติ
- ปรึกษาและเตรียมวางแผนการคลอดกับแพทย์
- ปรึกษาความจำเป็นในการใช้ยา หรืออุปกรณ์ใดช่วยในการทำคลอดบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดอาการตระหนก ตื่นกลัว
- ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการคลอดลูก และควรศึกษาทั้งการคลอดแบบธรรมชาติ และการผ่าคลอด
- ทำความเข้าใจวิธีการบรรเทาอาการเจ็บขณะคลอดธรรมชาติ
- ฝึกปฏิบัติระหว่างเตรียมคลอด เพื่อลดความเครียด และความวิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวคุณแม่จะมีการเตรียมพร้อมกับการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติมากพอ แต่เมื่อการคลอดมาถึง อาจจะมีเหตุจำเป็นที่ทำให้คุณแม่ไม่สามารถคลอดได้เอง คุณหมออาจเลือกที่จะใช้วิธีการผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก ดังนั้น การศึกษาการคลอดทั้งสองแบบ จึงมีความสำคัญอย่างมาก
การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาตินั้นถือเป็นการคลอดที่ใช้เทคโนโลยีน้อยมาก โดยการทำคลอดของแพทย์นั้นเป็นการปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามวิถีของธรรมชาติ แต่อาจมีการช่วยเหลือคุณแม่เพื่อให้สามารถคลอดได้ง่ายขึ้น ดังต่อไปนี้
- หากคุณแม่มีอาการปวดหลังมาก แพทย์อาจเปลี่ยนวิธีการทำคลอดเป็นการบล็อกหลัง หรือให้ยาแก้ปวดเพื่อระงับอาการปวดให้ลดน้อยลง
- การแทรกแซงทางการแพทย์เพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือให้คุณแม่คลอดบุตรได้ง่ายมากขึ้น โดยคุณหมอจะเฝ้าสังเกตการณ์ทารกในครรภ์อย่างต่อเนื่อง หรือมีการทำหัตถการ เมื่อบริเวณระหว่างช่องคลอดและทวารหนัก ที่เรียกว่า ฝีเย็บ (perineum) ถูกตัดออก เพื่อให้มีช่องว่างสำหรับการคลอดทารก
- การปล่อยให้คุณแม่เป็นผู้นำในการในการคลอดบุตร และการออกแรง แต่ในบางครั้งแพทย์และพยายามอาจต้องพูด และคอยส่งกำลังใจให้กับคุณแม่ที่กำลังกำหนดลมหายใจ เพื่อทำการเบ่งคลอด
บทความที่เกี่ยวข้อง : บล็อคหลัง ปลอดภัยแค่ไหน มีข้อดี ข้อเสีย ของการบล็อกหลังมีอะไรบ้าง
เจ็บท้องคลอด สัญญาณของการคลอด
สำหรับการคลอดแบบธรรมชาตินั้น แม้ว่าเราไม่สามารถควบคุมวัน และเวลาในการคลอดได้ แต่ธรรมชาติของร่างกายจะมีการเตือนเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้กับคุณแม่ทราบว่า ใกล้ถึงเวลาคลอดเจ้าตัวน้อยแล้ว ซึ่งเราเรียกสัญญาณนี้ว่า “อาการเจ็บท้องเตือน”
ในระยะเริ่มต้นคุณแม่อาจรู้สึกไม่สบายตัว รู้สึกปวดหน่วงท้องคล้ายช่วงปวดประจำเดือน ซึ่งนั่นเป็นเพียงสัญญาณเตือนเริ่มต้น หรือที่เรียกว่าอาการเจ็บท้องเตือน และอาการนี้อาจจะเกิดยาวนานข้ามวันข้ามคืนเลยก็เป็นได้
และเมื่อคุณแม่รู้สึกถึงอาการบีบรัดตัวที่รุนแรง และเกิดขึ้นเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง นั่นคืออาการ “เจ็บท้องคลอดลูก” และอาการนี้จะหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อคุณคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาแล้วนั่นเอง
การคลอดบุตรตามธรรมชาติ มีประโยชน์อย่างไร?
ผลดีต่อคุณแม่
- สร้างความภาคภูมิใจ และความเข้มแข็งให้กับคุณแม่ เพราะการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดก่อนคลอด และความพยายามในการคลอดบุตรโดยไม่ใช้ยา ทำให้คุณแม่บางท่านรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จ และเป็นคุณแม่อย่างเต็มตัว
- คุณแม่สามารถขยับตัว และกำหนดท่าทางการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเพื่อให้รู้สึกสบายตัว เพื่อสามารถเบ่งคลอดได้อย่างสะดวกที่สุด
- ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็ว และมีอาการเจ็บแผลน้อย ไม่เกิดแผลที่มดลูก
- ความเสี่ยงในการติดเชื้อจากบาดแผลมีน้อย เมื่อเทียบกับการผ่าคลอด
ผลดีต่อลูกน้อย
- ทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตเต็มที่ และมีอวัยวะที่สมบูรณ์ เพราะอยู่ในครรภ์จนครบกำหนดเวลาทางธรรมชาติ เมื่อคลอดออกมาเด็กคนนี้จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
- ในระหว่างคลอดลูก ผนังมดลูกของคุณแม่จะรีดน้ำคร่ำออกมาจากท้องของทารก ทำให้ทารกสามารถหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทารกได้รับภูมิต้านทานจากแบคทีเรียโพรไบโอติกที่ช่วยในระบบขับถ่าย ผ่านทางปากมดลูก ทำให้ลูกน้อยไม่ประสบปัญหาท้องอืด
แม้การคลอดแบบธรรมชาติจะเป็นวิธีที่พบได้บ่อยแต่ถ้าคุณแม่เกิดมีภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้ไม่สามารถคลอดแบบธรรมชาติได้ หรือระหว่างการคลอดอาจเกิดภาวะฉุกเฉินที่ทำให้ต้องผ่าแทนได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทารกคลอดธรรมชาติแข็งแรงด้วย ภูมิคุ้มกันโพรไบโอติก
ข้อเสียของการคลอดแบบธรรมชาติคืออะไร?
-
ไม่สามารถกำหนดวันคลอดได้อย่างชัดเจน
ในบางครั้งการที่คุณหมอคาดการณ์เกี่ยวกับกำหนดคลอดของคุณแม่บางท่านอาจไม่เป็นไปตามวันที่แพทย์กำหนด อาจมีการคลาดเคลื่อนออกไป หรือเลื่อนเข้ามาเร็วกว่าปกติ
การคลอดบุตรแบบธรรมชาตินั้นไม่สามารถคลอดได้ทันทีหลังจากที่คุณแม่มีอาการเจ็บท้อง หรือภาวะน้ำเดิน แต่จะต้องรอปากมดลูกเปิดให้ถึงระยะ 10 เซนติเมตรก่อนถึงจะทำการคลอดบุตรได้ คุณแม่บางท่านอาจใช้เวลานานจนกว่าที่จะสามารถคลอดบุตรได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณแม่จะต้องทนอยู่กับอาการเจ็บปวดจนกว่าปากมดลูกจะเปิดเต็มที่นั่นเอง
ความเสี่ยงของการ คลอดธรรมชาติ คืออะไร?
ความเสี่ยงในการคลอดลูกแบบธรรมชาติของคุณแม่แต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่แน่นอนสำหรับการคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาตินั้นคือความเจ็บปวดระหว่างคลอด
การคลอดลูกทุกครั้ง ไม่ว่าคุณแม่จะใช้ยาแก้ปวดหรือไม่ก็ตาม นั้นอาจเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ อาทิ การสูญเสียเลือดจำนวนมาก หรือปัญหาเกี่ยวกับสายสะดือ และจะยิ่งยาก และอาจรุนแรงมากยิ่งขึ้นหากคุณแม่คลอดบุตรโดยไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์
คลอดธรรมชาติ ไม่เหมาะสมกับใคร?
แพทย์มักจะมีการประเมิน และพูดคุยกับคุณแม่ตั้งครรภ์ในเรื่องของการคลอดบุตร โดยคุณแม่บางท่านจะมีการแนะนำเกี่ยวกับการคลอดที่เหมาะสมให้กับคุณแม่แต่ละท่าน ซึ่งจะมีคุณแม่บางประเภทที่ไม่สามารถคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติได้ ดังนี้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
- ขณะตั้งครรภ์คุณแม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยา
- คุณแม่ที่เคยผ่าท้องคลอดมาก่อน (C-section)
- คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือมีปัญหาการแข็งตัวของเลือด
- ตั้งครรภ์แฝด หรือการตั้งครรภ์ทารกมากกว่า 1 คนในครรภ์
- มีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างในช่วงระหว่างของการตั้งครรภ์ เช่น การจำกัดการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ หรือปัญหาเกี่ยวกับรก
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการคลอดธรรมชาติ
การคลอดบุตรนั้นเปรียบเสมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนกับช่วงแรกของการตั้งครรภ์ โดยสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย โดยส่วนใหญ่แล้วคุณแม่หลังตลอด จะมีอาการแทรกซ้อนหลังคลอดบุตร ดังต่อไปนี้
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
- มีไข้
- เวียนศีรษะ หรือเป็นลม
- ปวดหัวอย่างรุนแรง
- เจ็บอวัยวะเพศเมื่อปัสสาวะ
- มีอาการปวดบวมที่ขา
- ปวดท้อง
ทั้งนี้อาการที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้เป็นกับคุณแม่ทุกท่าน หรือทุกอาการ แต่ถ้าหากพบอาการหลังการคลอดบุตรที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันให้เข้าพบแพทย์ในทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง : การเตรียมตัวก่อนคลอดธรรมชาติ คลอดเองเตรียมตัวอย่างไร คลอดธรรมชาติอันตรายไหม
การฟื้นตัวของคุณแม่หลังคลอดแบบธรรมชาติ
การฟื้นตัวหลังคลอดบุตรนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณแม่แต่ละคน คุณแม่หลายท่านอาจรู้สึกว่าตนเองสามารถฟื้นตัวและกลับมาเป็นปกติได้เต็มที่หลังจากการคลอดแล้วภายในเวลา 6 – 8 สัปดาห์หลังคลอด แต่สำหรับบางท่านอาจใช้เวลานานหลายเดือน ทั้งนี้การฟื้นตัวของคุณแม่ที่คลอดธรรมชาตินั้นเหมือนกับการคลอดแบบการคลอดโดยวิธีอื่น ๆ เพราะอาจมีการเจ็บอย่างน้อย 2-3 วันในช่วงแรก ซึ่งในช่วงแรกนี้คุณแม่สามารถอยู่ไฟ เพื่อขับน้ำคาวปลา และให้มดลูกเข้าอู่ได้
การคลอดบุตรแบบธรรมชาติไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณแม่หลายท่านคิด แต่สิ่งที่ยากลำบากของการคลอดแบบธรรมชาติคืออาการเจ็บปวดก่อนคลอด เพื่อรอเวลาที่ทารกจะสามารถออกมาลืมตาดูโลกได้นั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
13 เทคนิค ลูกคลอดง่าย ลูกออกมาปลอดภัยคุณแม่หายห่วง
อาหารบำรุงก่อนคลอด กินอะไรให้ได้สุขภาพดี มีน้ำนมมา
5 สารอาหารที่คนท้องควรได้รับก่อนคลอด สำคัญอย่างไร มีสารอาหารอะไรบ้าง
ที่มา : healthline, kidshealth, babycenter, mamastory
แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการคลอดธรรมชาติ ได้ที่นี่!
คลอดธรรมชาติ เจ็บมากไหมคะ แล้วจะทำไงให้ปลอดภัยคะ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!