คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างว่ามีความเชื่อเกี่ยวกับการที่แม่ท้องไม่ควรไปงานศพ หรืองานอวมงคล แต่ทราบไหมคะว่า ความเชื่อที่ว่า คนท้องห้ามไปงานแต่ง ก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน และยังคงถูกนำไปปฏิบัติตามในหลายครอบครัว แล้วความเชื่อนี้มีที่มาอย่างไร มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือศาสตร์อื่นใดสนับสนุนข้อห้ามนี้บ้าง มาทำความเข้าใจและพิจารณาอย่างมีเหตุผลไปพร้อมกันค่ะ

ที่มาของความเชื่อ คนท้องห้ามไปงานแต่ง
การสืบค้นถึงที่มาของความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง นั้นค่อนข้างยากที่จะระบุจุดเริ่มต้นได้อย่างชัดเจนค่ะ แต่ก็อาจสันนิษฐานถึงปัจจัยหลายประการที่น่าจะเป็นรากฐานของความเชื่อดังกล่าว คือ
-
ความเชื่อเรื่องพลังงานและสิ่งอัปมงคล
ในสมัยโบราณ ผู้คนมีความเชื่ออย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องของพลังงานและสิ่งอัปมงคล ซึ่งงานแต่งงานเป็นพิธีมงคลที่มีความสุขและความยินดี ในขณะที่คนท้องอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ การไปร่วมงานที่มีผู้คนพลุกพล่านและอาจมีกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ อาจถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์
นอกจากนี้ บางความเชื่ออาจมองว่าการที่คนท้องซึ่งมี “พลังชีวิต” อีกหนึ่งชีวิตอยู่ในตัว ไปร่วมงานที่มี “พลังแห่งความสุข” อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของพลังงาน หรืออาจนำพาสิ่งอัปมงคลจากภายนอกเข้าสู่ครรภ์ได้
-
ความกังวลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย
ในอดีต การแพทย์และสุขอนามัยยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่าปัจจุบัน คุณแม่ตั้งครรภ์จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป การเดินทางไปยังสถานที่จัดงานแต่งงาน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือการกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์ได้ ความเชื่อนี้จึงอาจเป็นกุศโลบายเพื่อให้คนท้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจเป็นความเสี่ยงนั่นเองค่ะ
ในบางครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน มีความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง เนื่องจากกังวลว่าคนที่มาร่วมงานอาจจะเป็นปีชงกับทารกในครรภ์ที่กำลังจะเกิดมา อย่างไรก็ตาม อาจเป็นกุศโลบายให้แม่ตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการอยู่ในบรรยากาศที่คนเยอะ เสี่ยงต่อการชน การกระแทก จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบกับลูกน้อยมากกว่าค่ะ

คนท้องห้ามไปงานแต่ง ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์
ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าการที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไปร่วมงานแต่งงานจะเป็นอันตรายโดยตรงต่อตนเองหรือทารกในครรภ์นะคะ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณแม่ควรพิจารณาในการไปร่วมงาน คือ
- ร่างกายของแม่ท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกันค่ะ บางคนอาจมีอาการแพ้ท้อง อ่อนเพลีย หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ การเดินทางและเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมากอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายและเหนื่อยล้าได้
- สภาพแวดล้อมภายในงาน งานแต่งบางแห่งอาจมีเสียงดัง แสงสว่างจ้า หรือมีการเบียดเสียด ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับคนท้องที่ต้องการความสงบและการพักผ่อนนะคะ
- ความเสี่ยงในการติดเชื้อ การอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากย่อมเพิ่มความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่ท้องที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าปกติ
ความเชื่อเกี่ยวกับการห้ามคนท้องเข้าร่วมพิธีกรรมบางอย่างไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่งานแต่งเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่ออื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ เช่น ห้ามคนท้องไปงานศพ หรือห้ามเยี่ยมผู้ป่วยหนัก ซึ่งมีรากฐานมาจากความกังวลเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย และอิทธิพลของพลังงานต่างๆ เช่นกัน ดังนั้น หากแม่ท้องมีความจำเป็นต้องไปร่วมงานต่างๆ เหล่านี้ ควรพิจารณาสภาพร่างกายของตนเอง คาดการณ์สภาพแวดล้อมของงาน และปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนนะคะ

8 ข้อห้ามคนท้อง ที่คุณแม่ต้องใส่ใจจริงๆ
ความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง น่าจะพอช่วยให้คุณแม่ระมัดระวังตัวเองได้ในกรณีที่ต้องออกไปทำธุระหรือร่วมงานพิธีต่างๆ นอกบ้าน อย่างไรก็ตาม มี ข้อห้ามคนท้อง อีกหลายข้อที่คุณแม่ต้องใส่ใจจริงๆ เพื่อการดูแลร่างกายตัวเองให้ดีในขณะที่ตั้งครรภ์ ให้ทารกคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย มาดูกันค่ะว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างที่คนท้องไม่ควรทำ
-
ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
คุณแม่ไม่ควรสูบบุหรี่ในระหว่างที่ตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด รวมถึงไม่ควรใช้สารเสพติดอื่นๆ ด้วย เพราะสามารถทำอันตรายต่อเด็กในครรภ์ ทำให้การเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้แม่ท้องไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วย เพราะอาจทำให้ทารกมีพัฒนาการการเจริญเติบโตในท้องที่ไม่สมบูรณ์เช่นกัน โดยอาจทำให้มีพัฒนาการช้า คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด หรือเด็กที่เกิดมาอาจพิการและรักษาไม่หายได้
-
แม่ท้องห้ามเครียด
เมื่อคุณแม่มีความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามาก ทำให้หลอดเลือดบริเวณมดลูกหดตัว ออกซิเจนไปเลี้ยงลูกในครรภ์ได้น้อยลง เด็กเจริญเติบโตในครรภ์ได้ช้าลง ทำให้คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้ยังอาจทำให้เด็กเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเมื่อเกิดมา มีความดันเลือดสูง เป็นเบาหวาน เรียนรู้ได้ช้า สมาธิสั้น และเป็นออทิสติก
-
กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์
คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สารอาหารไปเลี้ยงลูกน้อย แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่คุณแม่ควรเลี่ยง เช่น อาหารที่เผ็ดจัด อาหารหวาน มัน ปรุงไม่สุก เพราะอาจทำให้คุณแม่ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายท้องได้ รวมถึงไม่ควรกินอาหารกระป๋อง อาหารที่มีผงชูรส เนื่องจากอาจมีสารเคมีที่อาจทำอันตรายต่อเด็กได้
-
แม่ท้องไม่ควรดื่มนมมากกว่าวันละ 1 แก้ว
คุณแม่ควรกินนมวันละ 1 แก้วเท่านั้น โดยเน้นกินนมวัว นมถั่วเหลือง ควบคู่กับการกินปลา ผักใบเขียว งาดำ และอัลมอนด์ ซึ่งหากกินนมในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เด็กแพ้โปรตีนในนมได้ ดังนั้นจึงควรกินแต่พอดี
-
ห้ามกินยาพร่ำเพรื่อ
คุณแม่ที่กำลังท้องควรระมัดระวังเรื่องการกินยาให้มาก โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก หรือไตรมาสที่ 3 ซึ่งในไตรมาสแรก จะเป็นช่วงที่อวัยวะของเด็กเริ่มงอกออกมา และเริ่มมีพัฒนาการด้านระบบประสาท หากกินยาที่มีส่วนผสมที่ทำอันตรายอาจทำให้เติบโตได้ช้า เกิดมาพิการ หรือเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ได้ โดยคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนกินยาทุกชนิด

-
ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายแต่พอดี ไม่ออกแรงเยอะ หรือหักโหมเกินไป และไม่ควรออกกำลังกายนานเกิน 30 นาที เพราะอาจทำให้ตัวเองเหนื่อย และทำให้เด็กขาดออกซิเจน จนส่งผลต่อการเจริญเติบโต และในระหว่างที่ออกกำลังกายควรดื่มน้ำทุกๆ 10-15 นาที เพื่อไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำเยอะเกินไป และช่วยให้ร่างกายระบายความร้อน
-
อย่ายืนและนอนเป็นเวลานาน
คุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายไม่ควรยืนเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ขาและเท้าบวม จนเกิดเส้นเลือดขอดที่ขา และปวดหลัง รวมทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้อีกด้วย นอกจากนี้ คุณแม่ไม่ควรนอนนานเกินไป เพราะน้ำหนักที่ท้อง อาจจะกดทับกระเพาะอาหารและลำไส้ จนทำให้จุกเสียด แน่นท้อง เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีพอ จนอาจหน้ามืด หรือเป็นลมได้ แนะนำให้เปลี่ยนท่านอนทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และเปลี่ยนท่านั่งบ่อยๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
-
อบไอน้ำ อบซาวน่า
คนท้องไม่ควรเข้าอบไอน้ำหรือซาวน่าเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แท้งลูกได้ เนื่องจากความร้อนจากไอน้ำจะทำให้คุณแม่ขาดน้ำและเกลือแร่ จนเลือดข้นขึ้นและเส้นเลือดอุดตัน เลือดไปเลี้ยงร่างกายเด็กไม่เพียงพอและเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
ความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง เป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย สุขภาพ และอิทธิพลของพลังงานต่างๆ แม้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนความเชื่อนี้โดยตรง แต่การตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาอย่างรอบคอบและมีเหตุผล โดยคำนึงถึงสุขภาพและความสบายของทั้งแม่และเด็กเป็นสำคัญ และการเปิดใจพูดคุยและทำความเข้าใจกับผู้ที่มีความเชื่อแตกต่างกันก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อให้เกิดความราบรื่นและความเข้าใจที่ดีในครอบครัวนะคะ
ที่มา : www.samitivejhospitals.com , bangpo-hospital.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คนท้องกินแคนตาลูปได้ไหม ? ประโยชน์ vs โทษแฝง ที่ต้องใส่ใจ
อย่าละเลย! 9 อาการระหว่างตั้งครรภ์ ลูกอาจเสี่ยงอันตรายถ้าไม่เช็ก
คนท้องเป็นร้อนใน ส่งผลต่อครรภ์ไหม? ใช้ยาอะไรได้บ้าง รับมือยังไงให้หายไว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!