ในช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้น อาจทำให้แม่ท้องหลายคนรู้สึกร้อนวูบวาบ และมีโอกาสเกิดอาการร้อนใน เป็นแผลในปาก ได้ง่ายกว่าปกติ แล้วจะทำไงดี? มีผลกระทบต่อสุขภาพครรภ์ไหม คนท้องเป็นร้อนใน ใช้ยาอะไรได้บ้าง บทความนี้จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีรับมือกับร้อนในอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณแม่สบายใจ ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงค่ะ
ร้อนใน…ในปาก คืออะไร?
“ร้อนใน” หรือการเกิดแผลในปาก (Aphthous Ulcer) คือ แผลที่เกิดขึ้นซ้ำๆ บริเวณเนื้อเยื่อบุผิวช่องปาก มักพบบริเวณที่กระพุ้งแก้มและริมฝีปากด้านใน เป็นแผลเดียวหรือหลายแผลก็ได้ โดยจะเริ่มจากเป็นจุดแดงหรือตุ่มเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยกลายเป็นแผลเปิดที่มีลักษณะรูปวงรี มีสีขาวหรือออกเหลือง และรอบรอยแผลเป็นสีแดงนูนออกมา มักมีขนาดเล็กประมาณ 1 มิลลิเมตร หรืออาจใหญ่ได้ถึง 0.5 – 1 นิ้ว ทำให้เกิดอาการเจ็บ แสบ และระคายเคืองภายในปากเวลากินอาหาร เครื่องดื่ม หรือระหว่างการพูดคุยกับคนอื่น
|
ชนิดของแผลร้อนใน
|
1. แผลเล็ก (Minor type) |
พบได้บ่อยที่สุด ลักษณะสีขาว รูปวงรี ขนาดประมาณ 0.5 ซม. หายได้ภายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น |
2. แผลใหญ่ (Major type) |
ลักษณะเหมือนชนิดแผลเล็ก แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า 0.5 ซม. แต่ใช้เวลาในการรักษานานกว่า และอาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา |
3. แผลคล้ายเริม (Herpetiform type) |
แผลมีลักษณะคล้ายกับหัวเข็มหมุด เกิดขึ้นหลายๆ แผล ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมาก สามารถหายได้เองภายในเวลา 1 – 2 สัปดาห์ โดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น |

ทำไม? คนท้องเป็นร้อนใน ง่ายกว่าปกติ
คนท้องเป็นร้อนใน มักมีสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์นั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 จะมีฮอร์โมนจากรกเพิ่มสูงขึ้นอย่างอัตโนมัติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่างๆ นี้เองจะส่งผลต่อร่างกายที่ต่างกัน แม่บางคนผมร่วง บางคนผิวคล้ำเป็นจุด มีสิวขึ้นมาก และบางคนก็มีอาการร้อนในนั่นเอง นอกจากนี้อาจมีสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ
- การเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้น คนท้องต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการสร้างและดูแลทารกในครรภ์ ทำให้ร่างกายร้อนขึ้น
- ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ในช่วงตั้งครรภ์ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจอ่อนแอลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการร้อนใน
- การขาดน้ำ ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้นในขณะตั้งครรภ์ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดร้อนในได้
สำหรับอาการ คนท้องเป็นร้อนใน นอกเหนือไปจากการมีแผลในปาก และรู้สึกเจ็บขณะกินอาหารแล้ว อาจมีไข้ต่ำๆ ร่วมด้วยรวมถึงรู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีแรงได้
คนท้องเป็นร้อนใน ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ไหม?
คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์จำเป็นต้องดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นพิเศษค่ะ เนื่องจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดปัญหาของอาการเหงือกบวมและมีเลือดออก บางคนอาจมีอาการปากแห้งแตก หรือมีแผลร้อนใน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลอย่างมากต่อการทำให้เหงือกอักเสบ
ทั้งนี้ มีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าปัญหาโรคในช่องปากมีผลต่อสุขภาพร่างกายอื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองแตก หรืออุดตัน โรคระบบทางเดินหายใจ และมีผลเสียต่อการตั้งครรภ์ คือ ทำให้มีความเสี่ยงที่ทารกคลอดก่อนกำหนดและมีน้ำหนักตัวน้อย เนื่องจากโรคเหงือกอาจทำให้เกิดการเพิ่มของระดับสารคัดหลั่งและกระตุ้นให้เกิดการคลอดนั่นเอง
นอกจากนี้ การปล่อยให้มีปัญหาเรื่องเหงือกอักเสบและฟันผุในระหว่างตั้งครรภ์ จะมีโอกาสส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับเหงือกและฟันของลูกได้ เนื่องจากฟันน้ำนมของลูกเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์เพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น หากคุณแม่ไม่ได้สารอาหารครบถ้วนก็จะทำให้ฟันของลูกมีการสร้างหน่อฟันที่ผิดปกติ การสร้างต่อมน้ำลายไม่สมบูรณ์ ผลิตน้ำลายได้น้อย ลูกก็จะฟันผุง่ายด้วยค่ะ

วิธีรับมือ คนท้องเป็นร้อนใน ให้หายไวและครรภ์ปลอดภัย
เริ่มต้นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลใสใจสุขภาพช่องปากของตัวเองในทุกๆ วัน ดังนี้ค่ะ
- ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ
- แปรงฟันให้สะอาดด้วยวิธี 222 คือ แปรงฟันวันละ 2 ครั้งหลังอาหารเช้าและก่อนนอน แปรงนาน 2 นาที และไม่กินอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- หมั่นตรวจสุขภาพฟันของตัวเองอย่างสส่ำเสมอ เมื่อพบรอย หรือโรคในช่องปาก เช่น มีฟันผุ หรือหินน้ำลาย ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาและป้องกันก่อนที่โรคจะลุกลาม
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ เพื่อช่วยสมานแผล
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด รสเผ็ด เปรี้ยว หรือเค็มจัด เพราะอาจทำให้แผลร้อนในระคายเคืองมากขึ้น
- ดื่มน้ำขิงหรือน้ำมะนาว เนื่องจากขิงมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยปรับสมดุลกรดในร่างกายและลดอาการร้อนในได้
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ โดยผสมเกลือ 1/2 ช้อนชา ในน้ำอุ่น 1 แก้ว แล้วบ้วนปาก 2-3 ครั้งต่อวัน
- หากอาการร้อนในไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง ปวดบวมมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

คนท้องเป็นร้อนใน ใช้ยาอะไรได้บ้าง?
โดยส่วนใหญ่หากอาการร้อนในของคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่รุนแรง ก็มักจะหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยาค่ะ แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงจนรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็อาจจำเป็นต้องพิจารณาใช้ยาบรรเทาอาการอักเสบบางชนิด ซึ่งควรเป็นยาที่มีความแรงต่ำ ใช้ทาบริเวณแผล 2-4 ครั้งต่อวัน และโดยทั่วไปยาใช้ภายนอกสามารถใช้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากยาจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อย แต่ควรใช้ในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดตามความจำเป็น
สำหรับยาทาช่องปากที่มีส่วนประกอบของสมุนไพร หากไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจว่าจะเกิดความเสี่ยงกับทารกในครรภ์หรือไม่ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงยานั้นๆ ค่ะ อย่างไรก็ตาม หากอาการรุนแรงหรือใช้ยาทาภายนอกเบื้องต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อประเมินหาสาเหตุและให้การรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกใช้ยาบรรเทาอาการร้อนในของคุณแม่ คือ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์นะคะ
การรักษาอาการร้อนในของแม่ท้องควรใช้วิธีที่ปลอดภัยและไม่เสี่ยงต่อการทำร้ายทารกในครรภ์นะคะ การเลือกใช้ยา และการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นสาเหตุของร้อนในจะช่วยให้คุณแม่หายจากอาการนี้ได้เร็วขึ้นและมีความปลอดภัยค่ะ
ที่มา : pharmacy.mahidol.ac.th , www.thantakit.com , dental.anamai.moph.go.th , www.medparkhospital.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คนท้องเท้าบวม ตอนไหน? คนท้องเท้าบวมนวดได้มั้ย มีวิธีรับมือยังไง?
มูกเลือดก่อนคลอดเป็นแบบไหน หนึ่งในสัญญาณใกล้คลอดที่คุณแม่ต้องรู้!
คนท้องปวดก้นกบ ทำยังไงดี? 6 วิธีบรรเทาอาการปวดก้นกบแม่ตั้งครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!