X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ลูกสมาธิสั้น แก้ไขอย่างไร ไม่ให้กระทบพัฒนาการและการเรียนรู้

บทความ 8 นาที
ลูกสมาธิสั้น แก้ไขอย่างไร ไม่ให้กระทบพัฒนาการและการเรียนรู้

เมื่อ ลูกสมาธิสั้น วิธีการแก้ไขที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ ปรับพฤติกรรมค่ะ เพื่อไม่ให้ภาวะสมาธิสั้น กระทบพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกน้อย

ลูกน้อยในช่วงวัย 0-6 ปี อันเป็นช่วงเวลาทองของการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว พัฒนาการทางสมองและร่างกายพร้อมเปิดรับการเรียนรู้ตามธรรมชาติอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้น ไม่ว่าจะเห็นอะไรลูกก็จะสนใจไปทั้งหมด ซึ่งในยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งหมุนอย่างรวดเร็วเช่นในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิต และเป็นสิ่งดึงดูดทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ทำให้หากคุณพ่อคุณแม่หลุดโฟกัสไปจากลูกเพียงเสี้ยวเวลา รูปแบบและวิธีการเรียนรู้ของลูกก็อาจเปลี่ยนไป กลายเป็นการจดจ่ออยู่กับหน้าจอ ที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการเรียนรู้ รวมทั้งอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงทำให้ ลูกสมาธิสั้น อีกด้วย

 

สมาธิสั้น คืออะไร

สมาธิสั้น หรือ attention-deficit hyperactivity disorder (ADHD) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กค่ะ ในประเทศไทยพบประมาณ 3-5% ของเด็กในวัยเรียน โดยเฉพาะช่วงอายุระหว่าง 3-7 ปี

ภาวะสมาธิสั้นนี้เกิดจากความผิดปกติของสมอง ซึ่งจะทำให้ลูกน้อย ซนมากกว่าปกติ อยู่ไม่นิ่ง เสียงดัง ขาดสมาธิ ขี้ลืม ใจร้อน ฯลฯ อาจส่งผลกระทบต่อการเรียน การทำงาน และการเข้าสังคม เนื่องจากลูกน้อยจะไม่มีสมาธิในการทำงานหรือเล่น ไม่สามารถตั้งใจฟังสิ่งต่าง ๆ ได้นาน

 

ลูกสมาธิสั้น

Advertisement

สัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกสมาธิสั้น อาการ เป็นอย่างไร

อาการที่แสดงออกชัดว่า ลูกสมาธิสั้น ก็คือ ไม่มีสมาธิ วอกแวกง่าย อยู่ไม่นิ่ง ซน ควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้ยาก และหุนหันพลันแล่น รอคอยไม่ได้ หรือชอบพูดโพล่ง เด็กบางคนจะมีความผิดปกติของพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับอายุและระดับพัฒนาการ โดยมักมีอาการแสดงก่อนช่วงอายุ 7 ปี และมีอาการต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งคุณแม่สามารถสังเกตอาการลูกน้อยได้จาก 3 กลุ่มอาการหลัก คือ

1) สมาธิสั้น (Inattention)

  • วอกแวกง่าย ตั้งสมาธิลำบาก
  • ไม่ฟังเมื่อมีคนพูดด้วย
  • ทำตามคำสั่ง หรือทำกิจกรรมไม่สำเร็จ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้ความพยายาม
  • เลินเล่อ ทำของหายบ่อย ๆ
  • จัดระเบียบกิจกรรมไม่ได้ หรือทำได้ยากมาก
  • ลืมกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำสม่ำเสมอ

2) ซน ไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity)

  • อยู่นิ่งไม่ได้ ขยับตัวไปมาอยู่แทบจะตลอดเวลา นั่งไม่ติดที่ ต้องลุกเดินไปมา
  • ซนมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
  • มักจะวิ่งวุ่น หรือปีนป่ายในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม
  • ไม่สามารถเล่นเงียบ ๆ ได้
  • พูดมากเกินไป

3) หุนหันพลันแล่น (Impulsiveness) ไม่สามารถรอคอยได้ และชอบพูดโพล่ง พูดขัดจังหวะ หรือสอดแทรกผู้อื่นในวงสนทนา

 

สัญญาณ และสาเหตุที่ ลูกสมาธิสั้น

สาเหตุที่ทำให้ ลูกสมาธิสั้น 

อาการสมาธิสั้นสามารถแสดงออกตั้งแต่ในวัยเด็ก และส่วนใหญ่มักเป็นต่อเนื่องไปจนถึงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ ซึ่งในทางกายภาพนั้นพบว่า สมองส่วนที่มีหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับสมาธิและความยับยั้งชั่งใจของเด็กสมาธิสั้น มักจะมีขนาดเล็กกว่าปกติ หรือทำงานได้น้อยกว่าปกติ รวมถึงมีสารสื่อประสาท เช่น Dopamine และ Epinephrine ที่น้อยกว่าปกติ โดยสาเหตุของการเกิดโรคสมาธิสั้นในเด็กนั้น คือ

  • การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นโรคสมาธิสั้น มีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้มากกว่าเด็กคนอื่น ๆ ถึง 4 เท่า
  • กรณีคุณพ่อคุณแม่ติดบุหรี่ เหล้า สารเสพติด หรือป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคสมาธิสั้นได้
  • การที่คุณแม่ขาดสารอาหาร หรือถูกสารพิษบางชนิด เช่น ตะกั่ว ในระหว่างตั้งครรภ์ ก็จะมีโอกาสทำให้ลูกเป็นโรคสมาธิสั้นสูงขึ้น

ทั้งนี้ 30-40% ของเด็กสมาธิสั้นจะพบความบกพร่องในทักษะการเรียน (learning Disorders) ร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดูไม่ได้ทำให้ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น เป็นเพียงปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาการดีขึ้นหรือแย่ลง แต่จะส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นเทียมได้ เช่น หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกน้อยอยู่กับหน้าจอ (ทีวี โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต) มากจนเกินไป จะส่งผลให้พัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ของลูกถูกจำกัดได้ ไม่ได้นำออกมาใช้ในการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ อาจนำไปสู่ อาการสมาธิสั้น หรือ โรคสมาธิสั้นเทียม (Pseudo-Attention deficit / Hyperactivity disorder) (Pseudo-ADHD) ซึ่งเป็นภาวะที่คล้ายกับโรคสมาธิสั้นค่ะ

 

ลูกสมาธิสั้น แก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบพัฒนาการและการเรียนรู้

เนื่องจากการที่ ลูกสมาธิสั้น จะทำให้เขามีปัญหาในการควบคุมพฤติกรรมของตนเอง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการเรียนและการเข้าสังคมกับผู้อื่น ทั้งนี้ เด็กสมาธิสั้นมักถูกทำโทษหรือถูกตำหนิบ่อย ๆ มีผลการเรียนที่ไม่ดี มีปัญหาในการเข้ากับเพื่อน รู้สึกโดดเดี่ยว ไร้ค่า ขาดความภูมิใจในตนเอง มีความเสี่ยงที่จะซึมเศร้า ก้าวร้าว รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติด ดังนั้น ลูกสมาธิสั้น จึงเป็น ปัญหาที่ต้องแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบพัฒนาการลูกนะคะ 

 

ปรับพฤติกรรม ลูกสมาธิสั้น

 

วิธีแก้เด็กสมาธิสั้น ไม่ให้โรคสมาธิสั้นปิดกั้นพัฒนาการลูก

เมื่อลูกสมาธิสั้น ทำไงดี ต้องบอกว่า โดยปกติแล้ว ประมาณ 20-30% ของเด็กสมาธิสั้น มีโอกาสจะหายได้เองเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น สามารถเรียนหนังสือหรือทำงานได้ตามปกติโดยไม่ต้องใช้ยา แต่ส่วนใหญ่จะยังคงมีความบกพร่องของสมาธิอยู่ แม้จะซนน้อยลง ก็ยังส่งผลต่อการศึกษา การทำงาน และการเข้าสังคมกับผู้อื่น จึงควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งในทางการแพทย์ระบุชัดเจนว่า โรคสมาธิสั้นสามารถรักษาได้ ทั้งด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการรักษาด้วยยาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย คือ

  • กลุ่มยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นสมองและประสาทส่วนกลาง เช่น Methylphenidate
  • กลุ่มยาที่ไม่ออกฤทธิ์กระตุ้นสมองหรือประสาทส่วนกลาง เช่น Atomoxetine, Clonidine และยารักษาอาการซึมเศร้า

ดังนั้น กรณีที่คุณพ่อคุณแม่ว่าลูกสมาธิสั้น ก็สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมได้ค่ะ

 

ปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษา ลูกสมาธิสั้น

 

รักษา ลูกสมาธิสั้น ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ในกรณีที่ลูกน้อยอยู่ในวัยก่อนวัยเรียน และคุณพ่อคุณแม่สังเกตรวมถึงประเมินแล้วว่าลูกมีความเสี่ยงจะมีภาวะสมาธิสั้น ลองเริ่มการปรับพฤติกรรมลูกจากการทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและสมาธิของเขาสิคะ

  • ชวนลูกเล่นเกม เช่น ต่อจิ๊กซอว์ จับคู่ภาพ ปริศนาอักษรไขว้ (Crossword) โดยเริ่มต้นจำนวนชิ้น จำนวนภาพ หรือจำนวนคำที่ใช้จากน้อยไปมาก จากใช้เวลา 5-10 นาทีต่อครั้ง ก็ค่อย ๆ เพิ่มไปจนเขาสามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังเล่นอย่างสนุกได้สัก 30 นาที-1 ชั่วโมง
  • ส่งเสริมให้ลูกได้ทำกิจกรรมเสริมทักษะด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างสมาธิ อาทิ เล่นดนตรี ร้องเพลง วาดภาพระบายสี หรือทำงานประดิษฐ์อย่างการร้อยลูกปัดง่าย ๆ เป็นต้น

 

 

วิธีดูแล แก้ไข ลูกสมาธิสั้น

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

 

ส่วนในกรณีที่ ลูกเข้าสู่วัยเรียน และมีพฤติกรรมที่แสดงชัดว่ามีภาวะสมาธิสั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มจาก

  • กำหนดกิจวัตรประจำวันให้เป็นระเบียบแบบแผน โดยจัดทำตารางเวลาให้ชัดเจนว่ากิจกรรมในแต่ละวันที่ลูกน้อยต้องทำมีอะไรบ้าง ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน เช่น ตื่นเช้า อาบน้ำ แต่งตัวไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนต้องทำการบ้าน กินข้าว อาบน้ำ แล้วจึงจะได้ดูทีวี จนกระทั่งเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม
  • โฟกัสเฉพาะจุด เช่น ช่วงเวลาของการทำการบ้าน จะต้องไม่มีสิ่งอื่นมารบกวนสมาธิหรือดึงดูดความสนใจลูกน้อยออกไปจากการบ้าน ไม่เปิดทีวี ไม่มี IPad แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้ ๆ มีเพียงความเงียบสงบเหมาะกับการสร้างสมาธิเท่านั้น
  • แบ่งสิ่งที่ลูกต้องทำให้เขาทำทีละน้อย เป็นขั้นตอน และคอยอยู่กำกับให้ทำจนเสร็จ แล้วจึงเริ่มให้ทำงานใหม่ หรือสิ่งใหม่ เช่น ให้ลูกเก็บของเล่นลงกล่อง เสร็จแล้วจึงให้ยกกล่องของเล่นไปเก็บในตู้
  • พูดในขณะที่ลูกพร้อมที่จะฟัง โดยรอจังหวะที่เหมาะสม ไม่พูดขณะที่เขากำลังเล่นสนุก หรือบอกก่อนว่าให้ลูกตั้งใจฟัง โดยใช้คำพูดที่สั้น กระชับ ได้ใจความมากที่สุด ไม่เยิ่นเย้อ หรือใส่อารมณ์ด้านลบ
  • บอกลูกล่วงหน้าว่ามีอะไรที่อยากให้เขาทำ และเมื่อเขาทำได้อย่าลืมมอบคำชมเป็นกำลังใจให้ลูกน้อยทันที อาจเป็นคำพูดสั้น ๆ หรือการยกนิ้วโป้ง รวมถึงการโอบกอดลูกด้วยความรัก จะทำให้ลูกภูมิใจและอยากทำพฤติกรรมที่ดีนั้นอีกครั้ง และอีกครั้ง แต่หากลูกยังทำไม่ได้ อย่าตำหนินะคะ ค่อย ๆ ประคับประคองและปรับกันไปจนกว่าเขาจะทำได้สำเร็จก็พอค่ะ
  • เมื่อไรก็ตามที่ลูกทำความผิด หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากสมาธิสั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องสงบอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธ หงุดหงิด หรือแสดงความไม่พอใจนะคะ แต่ควรใช้ท่าทีจริงจังในการจัดการ โดยอาจแยกให้ลูกอยู่ในมุมสงบตามลำพังชั่วคราว หรือลงโทษด้วยวิธีที่ไม่รุนแรงและเป็นไปตามข้อตกลง เช่น ลดเวลาดูทีวี จำนวนชั่วโมงการเล่น ไม่ควรลงโทษทางกายรุนแรง ตวาด หรือต่อว่าลูกด้วยอารมณ์
  • ลูกที่มีภาวะสมาธิสั้นอาจดูเหมือนมีพลังงานเหลือล้นค่ะ ดังนั้น ลองให้เขาได้ใช้พลังงานและการไม่ชอบอยู่นิ่งให้เป็นประโยชน์ เช่น ชวนเขาทำงานบ้านที่สามารถช่วยกันทั้งครอบครัวได้ อาทิ ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ หรือเล่นโยนบอล รับ-ส่งบอล ฯลฯ

ชวนลูกทำกิจกรรม จัดการโรคสมาธิสั้น

Role Model สำคัญมาก 

ในการปรับพฤติกรรมทุกอย่าง ของลูกน้อยทุกช่วงวัย สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ การเป็นแบบอย่าง (Role Model) ให้ลูกค่ะ เพราะลูกในช่วงก่อนวัยเรียนตั้งแต่ 2 ขวบ มีพัฒนาการด้านการเลียนแบบที่โดดเด่นมาก คุณพ่อคุณแม่ทำอะไร เป็นแบบไหน เขาพร้อมสวมบทบาทเดียวกันทันที ดังนั้น หากต้องการปรับพฤติกรรม สร้างสมาธิให้ลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี และช่วยฝึกลูกให้มีวินัย อดทนรอคอย บริหารเวลา และจัดระเบียบในการทำกิจกรรมอย่างเป็นระบบนะคะ

และใช่ค่ะ… หากกลัวว่า “หน้าจอ” ต่าง ๆ จะดึงความสนใจของลูกน้อยไป จนเขาไม่สามารถโฟกัสกิจกรรมที่ตั้งใจให้ทำได้ นอกจากจะต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบ สงบ เหมาะกับการสร้างสมาธิแล้ว ในบรรยากาศ ณ ขณะนั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเก็บออกไปเช่นกันค่ะ เพราะถ้า Role Model ที่เอ่ยปากให้ลูกทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ กำลังก้มหน้าก้มตาเลื่อนหน้าจอมือถือดูไปเรื่อย ๆ ลูกก็จะคิดว่าพ่อแม่ทำได้ เขาก็ทำได้เช่นกัน ดังนั้น ให้ช่วงทำกิจกกรรมของลูก เป็นเวลาคุณภาพของครอบครัวกันนะคะ

พ่อแม่คือแบบอย่างสำคัญของลูก

อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคสมาธิสั้น มีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องใช้การปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการใช้ยา ดังนั้น หากมีความกังวลใจ ไม่มั่นใจ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ปรึกษาแพทย์หรือกุมารแพทย์ก่อนดีที่สุดนะคะ เพื่อจะได้ตั้งเป้าหมายการรักษาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และสัมฤทธิ์ผลค่ะ

 

ที่มา : www.sosthailand.org , www.nakornthon.com , www.sikarin.com/health , www.samitivejhospitals.com , pharmacy.mahidol.ac.th

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

16 เกมส์สำหรับเด็ก กิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการเด็กเล็ก ที่พ่อแม่ทำเองได้ง่าย ๆ

20 คำถามหลังเลิกเรียน ที่ควรถามลูกหลังกลับจากโรงเรียน

พฤติกรรมเลียนแบบของลูก ตัวอย่างที่ดีที่สุดของลูกคือพ่อแม่

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • ช่วงวัยของเด็ก
  • /
  • ลูกสมาธิสั้น แก้ไขอย่างไร ไม่ให้กระทบพัฒนาการและการเรียนรู้
แชร์ :
  • แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

    แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

  • ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

    ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

  • “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

    “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

  • แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

    แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

  • ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

    ลูกยังไม่พูด ต้องพาไปหาหมอไหม? 3 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด ทำเลยได้ผลจริง!

  • “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

    “คลิปสั้น” อันตรายนะรู้ไหม? ผลกระทบลึกถึงระดับโครงสร้างสมอง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว