ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บัตรทอง” หรือ “บัตร 30 บาท” เป็นสวัสดิการที่ช่วยให้แม่ท้องสามารถเข้าถึงการรักษาได้โดยไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสับสนเกี่ยวกับรายละเอียดการใช้สิทธิ หรือสงสัยว่า ใช้สิทธิบัตรทอง นอกพื้นที่ คลอดลูก ได้หรือไม่ บทความนี้จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจและใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์จะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและทั่วถึงที่สุด
สิทธิบัตรทอง ใครใช้ได้บ้าง
สิทธิบัตรทอง หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสิทธิ์นี้ครอบคลุมทั้งการตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และยังสามารถใช้ได้กับทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือกที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย โดยผู้ที่ได้รับสิทธิบัตรทอง ได้แก่
- ประชาชนชาวไทยทุกคน ที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลจากรัฐในระบบอื่น ๆ เช่น
- ไม่ได้เป็นข้าราชการและลูกจ้างภาครัฐ (ซึ่งมีสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ)
- ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม
- ไม่ได้เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ได้รับสวัสดิการจากหน่วยงานของตน
- แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้สูงอายุ ที่ไม่มีสิทธิประกันสังคมหรือสวัสดิการอื่น
ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ไม่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลจากรัฐในระบบอื่นๆ ก็จะได้รับสิทธิบัตรทองโดยอัตโนมัติ โดยผู้ที่เข้าเกณฑ์สามารถลงทะเบียนเลือกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลและบริการสุขภาพที่เหมาะสมค่ะ
สิทธิบัตรทอง คนท้อง ครอบคลุมอะไรบ้าง
สิทธิบัตรทอง ถือเป็นสวัสดิการที่ช่วยให้คุณแม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง ตั้งแต่การฝากครรภ์ ตรวจคัดกรองสุขภาพแม่และทารก รับวัคซีนที่จำเป็น ไปจนถึงการคลอดบุตร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำคัญ ปัจจุบันคุณแม่สามารถใช้ สิทธิบัตรทองรักษาได้ทุกที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ ศูนย์อนามัย หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยไม่ต้องขอใบส่งตัวเหมือนในอดีต ทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น สิทธิประโยชน์ที่คุณแม่สามารถใช้ได้ มีดังนี้
1. การฝากครรภ์และการดูแลระหว่างตั้งครรภ์
- ฝากครรภ์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
- ตรวจปัสสาวะทุกครั้งที่เข้ารับบริการดูแลครรภ์
- ตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยง เช่น ซิฟิลิส, ไวรัสเอชไอวี, ไวรัสตับอักเสบบี และภาวะโลหิตจางธาลัสซีเมีย
- การตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียและซิฟิลิส สามีของหญิงตั้งครรภ์สามารถรับการตรวจพร้อมกันได้
- การคัดกรองดาวน์ซินโดรมของทารกในครรภ์ ด้วยวิธี Quadruple test ซึ่งปัจจุบันให้บริการฟรีกับหญิงตั้งครรภ์ทุกช่วงอายุ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ข่าวดี! เพิ่มวงเงิน ตรวจ NIPT สิทธิบัตรทอง คัดกรองดาวน์ซินโดรม ไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำ
2. วัคซีนและการดูแลสุขภาพแม่และทารก
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ขึ้นไป
- วัคซีนป้องกันบาดทะยัก
- ยาบำรุงสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ ธาตุเหล็ก, โฟลิก, และไอโอดีน
- ยาต้านไวรัสเอชไอวี หากพบว่ามีการติดเชื้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาไตรเฟอร์ดีน คนท้อง กินตอนไหน กินแล้วอาเจียน ไม่กินได้ไหม

3. บริการด้านทันตกรรมและสุขภาพจิต
- ตรวจสุขภาพช่องปาก และขัดทำความสะอาดฟัน
- ประเมินสุขภาพจิตหลังคลอด คัดกรองภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
4. สิทธิในการคลอดบุตร
5. การดูแลหลังคลอด
- ให้คำแนะนำด้านพัฒนาการเด็กและการวางแผนครอบครัว
- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
สิทธิประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับการดูแลสุขภาพที่ครบถ้วน ลดภาระค่าใช้จ่าย และทำให้มั่นใจได้ว่าสุขภาพของทั้งแม่และลูกน้อยได้รับการดูแลอย่างดี
มีบัตร 30 บาท ใช้แทนบัตรทองได้ไหม
จริงๆ แล้ว บัตรทอง กับ บัตร 30 บาท คือสิทธิเดียวกันค่ะ เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียกไปตามนโยบายของรัฐในแต่ละช่วงเวลา
- บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นชื่อที่คนไทยคุ้นเคยมาตั้งแต่ช่วงปี 2544 เมื่อโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเริ่มต้นขึ้น ตอนนั้นประชาชนต้องจ่าย 30 บาทต่อครั้ง เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตามสิทธิของตัวเอง
- ต่อมาในปี 2550 นโยบายได้มีการปรับปรุง และยกเลิกการเก็บเงิน 30 บาท ทำให้สามารถเข้ารับบริการได้ฟรี และเริ่มใช้ชื่อว่า “บัตรทอง” หรือ “สิทธิบัตรทอง” อย่างเป็นทางการ
- ดังนั้น บัตรทองก็คือบัตร 30 บาทในอดีต ที่ปัจจุบันไม่ต้องจ่าย 30 บาทแล้ว และยังครอบคลุมสิทธิการรักษาพยาบาลที่หลากหลายขึ้น เช่น การรักษาโรคทั่วไป ซึ่งรวมถึง การฝากครรภ์ คลอดบุตร สำหรับหญิงตั้งครรภ์ด้วย

ใช้สิทธิบัตรทอง นอกพื้นที่ คลอดลูก ได้ไหม
ก่อนหน้านี้ ถ้าจะใช้ สิทธิบัตรทอง คลอดลูกที่โรงพยาบาลอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ต้องไปขอใบส่งตัวก่อน ไม่อย่างนั้นอาจต้องจ่ายเงินเอง แต่ตอนนี้ กฎเปลี่ยนไปแล้ว โดยตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา แม่ท้องสามารถใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยไม่ต้องขอใบส่งตัว อีกต่อไป
กรณีต้องคลอดฉุกเฉินนอกพื้นที่ ก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะหากต้องคลอดที่โรงพยาบาลอื่น ก็ยังสามารถ ใช้สิทธิบัตรทอง นอกพื้นที่ คลอดลูก ได้ โดยโรงพยาบาลจะให้การรักษาโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
กรณีที่รู้ล่วงหน้าว่าจะ ใช้สิทธิบัตรทอง นอกพื้นที่ คลอดลูก เช่น ระหว่างตั้งครรภ์อาจย้ายที่อยู่ หรือเปลี่ยนงานใหม่ ทำให้ไม่สะดวกคลอดในโรงพยาบาลที่มีสิทธิอยู่เดิม แนะนำให้ย้ายสิทธิ์ล่วงหน้า ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนเมื่อก่อน แต่ถ้าเลือกผ่าคลอดเอง (โดยไม่มีเหตุผลทางการแพทย์) อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ
สรุปง่ายๆ คือ คลอดฉุกเฉิน ใช้สิทธิได้เลย ส่วน คลอดแบบวางแผน แนะนำให้ย้ายสิทธิก่อน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
สุดท้ายนี้ สิทธิบัตรทองเป็น สิทธิของทุกคน ที่ช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยได้รับการดูแลที่ดีตั้งแต่วันแรก หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือหน่วยบริการใกล้บ้าน เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เพราะสุขภาพของคุณแม่ที่แข็งแรง คือจุดเริ่มต้นของลูกน้อยที่เติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
ที่ม HealthSmile , Kapook , exta
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ฝากครรภ์ฟรี 2568 มีที่ไหนบ้าง? เงื่อนไขที่แม่ต้องรู้ ก่อนใช้สิทธิ์
แม่ท้อง ลาคลอดได้กี่วัน รวมทุกเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับการลาคลอด ปี 2568
เงินสงเคราะห์บุตร 2568 เดือนละ 1,000 บาท เข้าเมื่อไหร่ สมัครยังไง?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!