ไม่ใช่แค่ฤดูฝน แต่ทุกคนควรปลอดโรคภัยในทุกฤดู โดยเฉพาะกับไวรัสที่มาทักทายอยู่เสมออย่า “ไข้หวัดใหญ่” ดังนั้น มาเตรียมพร้อมรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ วัคซีนที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันคุณจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดถึง 4 สายพันธุ์ เสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกายของคุณและคนที่คุณรัก เผชิญหน้ากับหน้าฝนได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล

ทำความรู้จัก ไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
“ไข้หวัดใหญ่” คือ โรคที่เกิดจาก “เชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา” (influenza virus) เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจ โดยมีสายพันธุ์หลักอยู่ 3 ชนิด คือ influenza A influenza B และ influenza C แต่ที่เฝ้าระวังอย่างจริงจังจะมีแค่ชนิด A และ B เนื่องจากชนิด C พบได้น้อย อาการไม่รุนแรง และไม่เกิดการแพร่ระบาดได้มากเท่ากับ 2 ประเภทแรก
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง จะแบ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B ซึ่งแต่ละชนิดแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยรวม 4 ชนิดด้วยกัน
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ฟลู A” แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ย่อย คือ H1N1 และ H3N2 จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีความรุนแรงที่สุด เนื่องจากสามารถก่อให้เกิดการแพร่ระบาดได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก เช่น ไข้หวัดสุกร ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มักระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B
หรือ “ฟลู B” แยกย่อยได้เป็น สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria และ สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata เป็นไวรัสที่จะพบเชื้อได้ในคนเท่านั้น อาการไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ A มักเกิดการแพร่ระบาดในช่วงฤดูหนาว เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้ชอบสภาพแวดล้อมที่มีอากาศเย็นและแห้ง
ความร้าย! ของโรคไข้หวัดใหญ่
แม้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการคล้ายป่วยเป็นไข้หวัดทั่วไป แต่ต้องบอกว่า “รุนแรงมากกว่า” ค่ะ เพราะอาการมักจะปรากฏทันทีในลักษณะของไข้สูง 38.5 – 40 องศาเซลเซียส รู้สึกหนาว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดรอบกระบอกตา หรือปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก นอกจากนี้อาจมีอาการคัดจมูก เบื่ออาหาร มีน้ำมูกใสๆ และไอแห้งๆ ร่วมด้วย
ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงอย่างเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด และเบาหวาน ให้สังเกตอาการตัวเอง หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์
ส่วนผู้ป่วยทั่วไปควรพบแพทย์เช่นกันหากมีอาการต่อไปนี้
- มีไข้สูงและเป็นมานาน
- ให้ยาลดไข้แล้ว ไข้ยังเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
- หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก
- แน่นหรือเจ็บหน้าอก
- หน้ามืดเป็นลม
- มีอาการสับสน
- อาเจียน กินอาหารไม่ได้
ทั้งนี้ ความร้ายของไข้หวัดใหญ่อยู่ที่การเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ที่พบได้บ่อยคือ “ปอดอักเสบ” รวมถึงระบบทางเดินประสาท และระบบกล้ามเนื้อด้วยค่ะ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ อะไรบ้าง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่พบบ่อยที่สุดคือ วัคซีนสี่สายพันธุ์ (Quadrivalent Vaccine) ช่วยป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ 4 สายพันธุ์ โดยปกติจะเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ A 2 สายพันธุ์ และเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ B 2 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่รวมอยู่ในวัคซีนจะเปลี่ยนแปลงไปทุกปี ขึ้นอยู่กับเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดและคาดว่าจะพบมากที่สุด องค์การอนามัยโลก (WHO) จะเป็นผู้แนะนำสายพันธุ์ที่ควรใส่ในวัคซีนประจำปี และ4 สายพันธุ์ที่มักจะรวมอยู่ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีดังต่อไปนี้
- ไข้หวัดใหญ่ A (H1N1)
- ไข้หวัดใหญ่ A (H3N2)
- ไข้หวัดใหญ่ B (สายพันธุ์วิคตอเรีย)
- ไข้หวัดใหญ่ B (สายพันธุ์ยามากาตะ)
ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ หรือที่เรียกว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ มีข้อดีหลายประการเหนือวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ซึ่งเรามาคำตอบของเหตุผลที่ว่าทำไมการฉีดวัคซีน 4 สายพันธุ์จึงเป็นความคิดที่ดี
วัคซีน 4 สายพันธุ์ ป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ A สองสายพันธุ์และไวรัสไข้หวัดใหญ่ B สองสายพันธุ์ ในขณะที่วัคซีน 3 สายพันธุ์ ครอบคลุมเฉพาะไวรัส B เพียงสายพันธุ์เดียว ซึ่งหมายความว่า วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่อาจแพร่ระบาดในแต่ละฤดูกาลได้หลากหลายสายพันธุ์
แม้ว่าคุณจะติดไข้หวัดใหญ่หลังจากได้รับวัคซีน 4 สายพันธุ์แล้วก็ตาม งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า คุณอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยและหายป่วยเร็วกว่าคนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
-
เป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มเสี่ยง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แนะนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์สำหรับทุกคนที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยเน้นให้ความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่สูง เช่น เด็กเล็ก สตรีตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
บทความที่น่าสนใจ: ไขข้อสงสัย ! เลือก ยาแก้หวัดเด็ก อย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย ?

ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เมื่อไหร่ ฉีดถี่แค่ไหน?
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ไม่สามารถทำให้ก่อเกิดโรคได้ เป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายจากการเกิดโรค และลดความรุนแรงของโรคเมื่อเจ็บป่วยได้ด้วย
โดยสามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่ผู้ที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป และจำเป็นต้องได้รับวัคซีน “ทุกปี” ปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโรคตลอดเวลา เพราะไข้หวัดใหญ่แต่ละสายพันธุ์จะแตกต่างกันในแต่ละปี ซึ่งสามารถแบ่งตามช่วงอายุของผู้เข้ารับการฉีด ดังนี้
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 8 ขวบ ฉีด 2 เข็มในปีแรก โดยเว้นระยะห่างการฉีดครั้งละ 1 เดือนหากในปีแรกได้ฉีดเพียงครั้งเดียว ให้ฉีด 2 ครั้งในปีถัดมา หลังจากนั้นค่อยฉีดปีละครั้งได้
- บุคคลทั่วไป ฉีด 1 เข็ม และต้องฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกปี
ใครบ้างที่ควรฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
- เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือวางแผนตั้งครรภ์
- ผู้สูงอายุที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่ต้องใช้ยาแอสไพรินระยะยาว เนื่องจากยาแอสไพรินอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและลดความสามารถในการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกิดเลือดออกได้ง่าย ดังนั้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานประกอบการหรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานที่จัดงานรื่นเริง เป็นต้น
- บุคคลที่ทำงานด้านบริการ เช่น พนักงานขาย พนักงานแคชเชียร์ พนักงานบริการขนส่งสาธารณะ
- บุคคลที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง
ทำไมเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปีต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปีควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยเหตุผลหลายประการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่
ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กในช่วงอายุนั้นยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่และเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบ
2. ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในเด็กอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน การคายน้ำ (dehydration) และในบางกรณีอาจนำไปสู่การรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือแม้กระทั่งการเสียชีวิต
3. ลดการแพร่เชื้อ
เด็กมักจะมีการสัมผัสใกล้ชิดกับคนอื่นทั้งในบ้านและที่โรงเรียน การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไปยังเด็กคนอื่นและผู้ใหญ่รอบตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัว
4. ลดการขาดเรียนและการขาดงานของผู้ปกครอง
การป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ช่วยลดโอกาสที่เด็กจะต้องหยุดเรียน และลดภาระของผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กที่ป่วย ทำให้ไม่ต้องขาดงาน
5. ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีการทดสอบและวิจัยอย่างกว้างขวางเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก การฉีดวัคซีนเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
โดยทั่วไป วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ การได้รับวัคซีนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- ปวดบริเวณที่ฉีด: อาจรู้สึกปวด บวม แดง หรือระคายเคืองบริเวณที่ฉีดวัคซีน
- อาการไข้: อาจมีไข้ต่ำๆ มักเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังการฉีด
- ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ: รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ มักหายเองได้ภายในเวลาไม่นาน
- อ่อนเพลีย: รู้สึกอ่อนเพลียหรือไม่มีแรง อาจเกิดขึ้น 1-2 วันหลังการฉีด
- ปวดหัว: อาจมีอาการปวดหัวเล็กน้อยถึงปานกลาง
ผลข้างเคียงที่ไม่พบบ่อยแต่รุนแรง
- ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis): แม้จะพบได้ยาก แต่บางรายอาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น ผื่นคัน หายใจลำบาก หรือลมพิษ ควรรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเหล่านี้
- กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré syndrome, GBS): พบได้ยากมาก และยังไม่แน่ชัดว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุโดยตรง แต่ผู้ที่มีประวัติ GBS มาก่อนอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังการฉีด
บทความที่น่าสนใจ: อะดีโนไวรัส (Adenovirus) ทำลูกไข้สูง เป็นหวัด ตาแดง พ่อแม่ต้องระวัง!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ อยู่ได้กี่ปี ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผลของวัคซีนจะมีระยะเวลาคุ้มครองประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ดังนั้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงจำเป็นต้องฉีดทุกปี เพื่อให้ได้รับการป้องกันจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในฤดูกาลนั้น ๆ
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ราคา
ราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ได้รับบริการและประเภทของวัคซีนที่ใช้ โดยปกติแล้ว ราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจมีช่วงราคาอยู่ประมาณ 300-1,500 บาทต่อเข็ม
ที่มา: immunizebc.ca, ddc.moph.go.th, nhso.go.th , www.praram9.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ระบาดหนัก! ไวรัส hMPV ทำปอดอักเสบ คล้ายไข้หวัดใหญ่ เด็ก-ผู้สูงอายุต้องระวัง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่กับแม่ตั้งครรภ์ วัคซีนสำคัญกับเหตุผลที่ว่าทำไมจึงควรฉีด
อาการไข้หวัดใหญ่ อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ระวัง อาการเป็นอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!