ในมุมมองของสังคมทั่วไปนั้น การเป็น “แม่” น่าจะต้องมาพร้อมกับความสุขอย่างที่สุดในชีวิต แต่รู้ไหมคะว่าในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการเป็นแม่ ทั้งทางร่างกาย ฮอร์โมน และบทบาทหลังคลอดลูกน้อย อาจทำให้คุณแม่บางคนต้องเผชิญกับความรู้สึกที่ต่างออกไปจากคำว่า “ความสุข” อย่างสิ้นเชิง นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า “ซึมเศร้าหลังคลอด” ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และไม่ใช่ความผิดของใคร แต่เป็นสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลและเอาใจใส่อย่างถูกต้อง เป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรู้ บทความนี้จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจสาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อค้นพบวิธีรับมืออย่างเหมาะสม

ซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression) คือความรู้สึกที่คุณแม่รู้สึกว่าในการดูแลเด็กคนหนึ่งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างช่างท่วมท้น รับมือไม่ไหว จึงอาจเกิดอารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล นอนไม่หลับ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดตั้งแต่ 2-3 วันแรกและยาวไปจน 2 สัปดาห์ หากอาการไม่หายและรุนแรงมากขึ้น อาจมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดต่อเนื่อง หรือภาวะโรคจิตหลังคลอด ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่รุนแรงแต่พบได้น้อย
ทั้งนี้ โดยสถิติแล้ว ผู้หญิง 1 คน ใน 10 คนเลยค่ะที่จะทุกข์ทรมานจากอาการ ซึมเศร้าหลังคลอด หรือประมาณ 10-20% ของหญิงหลังคลอด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับสารเคมีในสมองที่ลดลง ส่วนใหญ่มีอาการในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอด และอาการรุนแรงสุดในช่วง 3 เดือนแรก โดยมีความเสี่ยงทำร้ายตัวเอง รวมถึงการฆ่าตัวตายด้วย ซึ่งเมื่อไม่กี่วันนี้เอง มีกรณีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวท่านหนึ่ง หลังคลอดลูกแฝดไม่นานนัก ได้กระโดดจากชั้น 18 ของโรงพยาบาลเสียชีวิต โดยจากการสันนิษฐานในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากความเครียด วิตกกังวล และอารมณ์เศร้าหลังการคลอด
อย่างไรก็ตาม ภาวะซึมเศร้าไม่ได้ส่งผลแง่ลบต่อคุณแม่เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อลูกน้อยที่เพิ่งเกิดมาด้วย ซึ่งภาวะแทรกซ้อนของอาการซึมเศร้าหลังคลอด อาจมีดังนี้
- คุณแม่ที่ ซึมเศร้าหลังคลอด มีความคิดทำร้ายลูกตัวเองสูงถึง 41%
- คุณแม่อาจไม่มีความรู้สึกผูกพันกับลูก อาจทำให้เกิดปัญหาครอบครัวในภายหลัง
- คุณแม่บางคนอาจมีภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง หรือเป็นโรคซึมเศร้าได้ในอนาคต หากไม่ได้รับการรักษา
- คุณพ่อบางคนมักมีแนวโน้มที่จะมีภาวะซึมเศร้า ไม่ว่าคุณแม่จะมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดหรือไม่ก็ตาม หากคุณแม่มีภาวะซึมเศร้า ความเสี่ยงที่คุณพ่อจะมีอาการซึมเศร้าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
- ลูกน้อยวัยแรกเกิดที่อยู่ในความดูแลของคุณแม่ที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และไม่ได้รับการรักษา มักเป็นเด็กงอแงง่าย นอนหลับยาก กินยาก ร้องไห้ไม่หยุด และอาจมีปัญหาเรื่องพัฒนาการทางด้านภาษาด้วย
|
สัญญาณอันตราย ซึมเศร้าหลังคลอด อาการที่แม่ต้องสังเกต
|
อารมณ์เศร้า |
รู้สึกเศร้า หดหู่ สิ้นหวัง ร้องไห้บ่อย หรือร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ |
วิตกกังวล |
กังวลมากเกินไปเกี่ยวกับลูก หรือเรื่องต่างๆ |
อ่อนไหว |
หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน |
เหนื่อยล้า |
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แม้จะได้พักผ่อนเพียงพอ |
นอนไม่หลับ |
นอนหลับยาก หลับๆ ตื่นๆ หรือตื่นเร็วกว่าปกติ หรือบางคนนอนต่อเนื่องยาวนาน |
เบื่ออาหาร |
กินได้น้อยลง หรือไม่มีความอยากอาหาร |
ไม่มีสมาธิ |
จดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้ยาก หลงลืมง่าย |
รู้สึกไร้ค่า |
รู้สึกผิด โทษตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ดีพอ |
สูญเสียความสนใจ |
หมดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ |
คิดทำร้ายตัวเองหรือลูก |
ในกรณีรุนแรง อาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายลูก |

ทำไม? แม่จึงมีภาวะ ซึมเศร้าหลังคลอด
การดูแลลูกน้อยให้เติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดี เป็นเด็กที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ล้วนเป็นหน้าที่รับผิดชอบอันใหญ่หลวงของคุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องปรับตัวอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจของตัวเอง ตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด การต้องดูแลลูกที่ยังเป็นทารกอย่างใกล้ชิดจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คุณแม่หลังคลอดมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไปมากถึง 3 เท่า ซึ่งสาเหตุของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดนั้นยังไม่แน่ชัด แต่อาจเป็นไปได้ดังนี้
หลังคลอด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน จะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อสารเคมีในสมอง และอารมณ์ อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด รวมทั้งระดับฮอร์โมนไทรอยด์ที่ลดลงจะทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเฉื่อยชา เศร้าซึม
ความกังวลในการดูแลทารกแรกเกิด เมื่อพักผ่อนหรือนอนหลับไม่เพียงพอ จะทำให้ความสามารถในการทำกิจวัตรต่าง ๆ ที่อาจดูว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นลดลง ผู้ป่วยอาจรู้สึกไม่มีอำนาจควบคุมหรือไม่เห็นคุณค่าในตนเอง รวมไปถึงความเครียดเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว และปัญหาการเงินที่อาจเกิดขึ้นด้วย
คุณแม่ต้องปรับตัวกับบทบาทใหม่ การดูแลลูก การนอนน้อย ความรับผิดชอบที่มากขึ้น ทัศนคติ และความคาดหวังต่อการตั้งครรภ์
เช่น สถานภาพการสมรส ความสัมพันธ์กับคนรัก เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือไม่ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมถึงฐานะทางการเงิน เป็นต้น
-
มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
- มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด หรือโรคอารมณ์สองขั้ว
- การตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อมหรือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
- ผ่านเหตุการณ์ตึงเครียดในชีวิต เช่น ตกงาน ป่วย หรือมีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
- ให้กำเนิดบุตรหลายคน เช่น แฝดสอง แฝดสาม
- มีปัญหาเรื่องการให้นมลูกน้อย
- มีปัญหาการเงินหรือปัญหาชีวิตคู่
- ที่บ้านไม่มีใครที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้

|
ซึมเศร้าหลังคลอด รับมือยังไง? เมื่อเป็นแม่แล้วไม่แฮปปี้!
|
ยอมรับความรู้สึก |
ยอมรับว่าตัวเองกำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และไม่โทษตัวเอง |
พักผ่อนให้เพียงพอ |
พยายามหาเวลาพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ แม้จะเป็นเรื่องยาก |
ดูแลตัวเอง |
กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบาๆ อาบน้ำอุ่น ผ่อนคลาย ทำกิจกรรมที่ชอบ |
ขอความช่วยเหลือ |
อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เช่น สามี ครอบครัว เพื่อน |
พูดคุย |
ระบายความรู้สึกกับคนใกล้ชิด หรือเข้าร่วมกลุ่มคุณแม่หลังคลอด |
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ |
หากอาการไม่ดีขึ้น หรือรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต |

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เมื่อไรควรพบแพทย์?
คุณแม่ที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดควรพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการข้างต้น หรือว่ามีอาการต่อไปนี้ โดยไม่ควรผัดผ่อนหรือเลื่อนนัดแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้
- มีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวันหรือดูแลบุตร
- คิดเรื่องการทำร้ายตัวเองและลูก
- อาการไม่ดีขึ้นหลังผ่านไป 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ การรักษาภาวะซึมเศร้าหลังคลอด แพทย์อาจใช้วิธี “จิตบำบัด” ซึ่งการได้พูดคุยกับแพทย์หรือนักวิชาการสุขภาพจิต จะช่วยให้คุณแม่ได้ระบาย และผ่อนคลายความวิตกกังวล สามารถร่วมกันหาวิธีเพื่อรับมือกับสถานการณ์และอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม

เมื่อรู้ปัญหาและสาเหตุแล้ว เชื่อว่าคุณแม่จะสามารถป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยต้องอาศัยการวางแผน ความร่วมมือจากครอบครัว การดูแลซึ่งกันและกัน เพราะการเป็น “แม่” ไม่จำเป็นต้อง “แฮปปี้” ตลอดเวลา และการยอมรับความรู้สึก พร้อมขอความช่วยเหลือ คือจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพใจที่ดี เพื่อให้คุณแม่ ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และกลับมามีความสุขกับการเลี้ยงลูกน้อยได้อีกครั้งค่ะ
ที่มา : th.rajanukul.go.th , www.samitivejhospitals.com , www.medparkhospital.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เรื่องควรรู้! เซ็กส์หลังคลอด ประจำเดือนไม่มา มีอะไรกับแฟน จะท้องไหม?
ฉีดยาคุมแล้วผิวคล้ำขึ้น จริงไหม ? 8 วิธีจัดการปัญหาผิว แม่หลังคลอด
ทารกมองเห็นตอนไหน จะรู้ได้ยังไงว่าลูกมองเห็น พัฒนาการสายตาแบบไหนผิดปกติ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!