คุณแม่หลังคลอดต้องดูแลจัดการหลายด้าน ไม่ว่าจะปรับตัวทำความรู้จักกับเจ้าตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลก รวมถึงดูแลตัวเองให้ฟื้นตัวจากการคลอดกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็ววัน นอกจากนี้ การคุมกำเนิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่บางครั้งแม่หลังคลอดก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร เช่น คุณแม่หลังคลอดเริ่มกินยาคุมตอนไหน ทั้งที่จริงๆ แล้วการคุมกำเนิดก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะหากตั้งครรภ์ติดกันเร็วเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณแม่และลูกในครรภ์ได้ค่ะ บทความนี้ เราจึงรวมเรื่องคุมกำเนิดที่แม่อยากรู้มาฝาก
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ การคุมกำเนิดหลังคลอด
รู้ไหมคะว่า หลังคลอดลูกแล้ว คุณแม่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้แม้จะยังไม่มีประจำเดือนก็ตาม ดังนั้น การคุมกำเนิดหลังคลอด จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่ควรเตรียมพร้อม โดยทั่วไป คุณแม่สามารถเริ่มคุมกำเนิดได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอด อย่างไรก็ตาม หากคุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สม่ำเสมอ อาจต้องเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อการให้นมลูก
สำหรับวิธีคุมกำเนิดหลังคลอด ควรเลือกวิธีไหนดี คุณแม่หลังคลอดเริ่มกินยาคุมตอนไหน มีเรื่องที่ควรพิจารณาดังนี้
- คิดว่าจะตั้งครรภ์ครั้งต่อไปหรือไม่ หากต้องการ คุณแม่จะเว้นระยะจากครรภ์ล่าสุดนานแค่ไหน หากคุณแม่คิดว่าจะยังไม่มีลูกเพิ่มเร็วๆ นี้ ควรเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่ได้ผลในระยะยาว เช่นการใส่ห่วงคุมกำเนิด (IUD) แต่หากคุณแม่วางแผนจะมีลูกอีกเร็วๆ นี้ การคุมกำเนิดรายเดือนอาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า
- หากคุณแม่เลือกวิธีฉีดยาคุม ควรทราบว่า หลังจากฉีดเข็มสุดท้ายแล้ว มักใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าที่คุณแม่จะกลับมาไข่ตกและตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง เพราะฉะนั้นการฉีดยาคุมก็อาจไม่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่วางแผนมีลูกอายุไล่เรี่ยกัน
- การกินยาคุม เป็นวิธีที่ง่าย สะดวกและได้ผลเร็ว อีกทั้งยังเหมาะกับคุณแม่ที่วางแผนมีลูกคนต่อไปในระยะเวลาใกล้เคียงกับครรภ์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การกินยาคุม ก็มีความยุ่งยากเพราะต้องกินทุกวัน ซึ่งสำหรับแม่ลูกอ่อน อาจหลงลืมและทำให้พลาดตั้งครรภ์ได้
- หลังกินยาคุมแล้ว ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 7 วันแรกก่อน เพื่อให้ยาคุมได้เริ่มออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ในการทานยาคุมแผงแรกนี้ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพราะยายังอาจออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

คุณแม่หลังคลอดเริ่มกินยาคุมตอนไหน
คุณแม่หลังคลอด สามารถกินยาคุมได้หลังคลอดแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ ทั้งคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ และคุณแม่ผ่าคลอด โดยไม่ต้องรอให้มีประจำเดือน เพราะหากรอให้ประจำเดือนมาแล้วค่อยกินยาคุม อาจเสี่ยงตั้งครรภ์หากระหว่างนั้นมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
สำหรับยาคุมกำเนิดชนิดกินนั้น มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันคือ
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined hormonal contraceptives; CHCs) สามารถกินได้หลังคลอดประมาณ 42 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ร่างกายมีการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดกลับสู่ภาวะปกติโดยสมบูรณ์
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ( Progestin-only hormonal contraceptives; POCs) ยาชนิดนี้ควรรับประทาน 6 เดือนหลังคลอด
ยาคุมแม่ลูกอ่อน ยาคุมสำหรับให้นมลูก เลือกอย่างไร
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร เนื่องจากมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ไม่มีผลต่อปริมาณหรือคุณภาพของน้ำนม ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของทารก คุณแม่สามารถเลือกใช้ได้อย่างปลอดภัย บางกรณีพบว่ายาคุมฮอร์โมนเดี่ยวยังอาจช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ด้วย
ยาคุมสำหรับให้นมลูกมี มี 3 ยี่ห้อ ได้แก่ สลินดา(Slinda), เอ็กซ์ลูตอน(Exluton), ซีราเซท(Cerazette) อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวอาจด้อยกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ดังนั้นเพื่อให้การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงควรกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอของทุกวัน กรณีลืมกินยาหรือกินยาช้าไม่สม่ำเสมอ ยาจะมีประสิทธิภาพลดลงและมีโอกาสท้องได้ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง

รวมคำถามที่แม่หลังคลอดสงสัยเกี่ยวกับยาคุม
นอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว แม่หลังคลอดหลายคนยังคงมีหลายคำถามเกี่ยวกับการคุมกำเนิด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คุณแม่จึงอยากแน่ใจว่าเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยาคุมหลังคลอดที่น่าจะช่วยให้คุณแม่หลังคลอดคลายความกังวลใจได้ไม่มากก็น้อยค่ะ
Q: หลังคลอดกินยาคุมฉุกเฉินได้ไหม
A: หลังคลอดหากไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คุมกำเนิด คุณแม่สามารถกินยาคุมฉุกเฉินได้ โดยกินให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้มีผลกระทบต่อการหลั่งน้ำนม แต่หลังจากนี้ ก็ควรเริ่มหาวิธีคุมกำเนิดโดยเร็ว โดยอาจเลือกฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 3 เดือน ฝังยาคุมกำเนิด หรือทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก
Q: หลังคลอดฉีดยาคุมได้ตอนไหน
A: การฉีดยาคุมหลังคลอดสามารถทำได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอด หรือภายใน 7 วันหลังมีรอบเดือน
Q: ผ่าคลอดฉีดยาคุมได้ตอนไหน
A: ไม่ว่าจะผ่าคลอด หรือ คลอดธรรมชาติ หากต้องการคุมกำเนิดไม่ว่าจะด้วยวิธีฉีดยาคุมหรือกินยาคุมกำเนิด สามารถทำได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอด หรือภายใน 7 วันหลังจากประจำเดือนมาก็ได้เช่นกัน
Q: วิธีคุมกำเนิดหลังคลอด โดยไม่ใช้ฮอร์โมนมีอะไรบ้าง
A: ถุงยางอนามัย – ใช้ง่าย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ต้องใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดง – มีประสิทธิภาพสูง คุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี ไม่มีฮอร์โมน จึงไม่กระทบต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่อาจทำให้ประจำเดือนมามากขึ้นในช่วงแรก
ทำหมันหญิง – คุณแม่ที่มีลูกเพียงพอแล้ว สามารถทำได้ทันทีหลังคลอดภายใน 24-48 ชั่วโมง หรือในระหว่างการผ่าคลอด
Q: การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยคุมกำเนิดได้จริงหรือเปล่า
A: การให้นมลูกจะช่วยชะลอการตกไข่และเป็นการคุมกำเนิดตามธรรมชาติในช่วง 6 เดือนแรกได้ อย่างไรก็ตาม แม่ต้องให้นมอย่างสม่ำเสมอ และประจำเดือนต้องยังไม่กลับมา จึงจะสามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในทางปฏิบัติอาจทำได้ยาก ดังนั้น จึงแนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอดเป็นต้นไป
สุดท้ายแล้ว การเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมหลังคลอดไม่ใช่แค่เรื่องของคุณแม่ แต่เป็นการดูแลทั้งตัวเองและครอบครัวให้พร้อมสำหรับอนาคต การหาข้อมูลเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นการวางแผนอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่สบายใจและสามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่
ที่มา: Healthline, อย.
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เรื่องควรรู้! เซ็กส์หลังคลอด ประจำเดือนไม่มา มีอะไรกับแฟน จะท้องไหม?
ซึมเศร้าหลังคลอด สัญญาณอันตรายที่ต้องรู้ จะรับมือยังไง? เมื่อเป็นแม่แล้วไม่แฮปปี้!
14 วิตามินหลังคลอด สุดยอดอาหารเสริมของคุณแม่มือใหม่ ปี 2025
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!