วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน แม้คุณแม่มือใหม่จะเตรียมตัวมาดีแค่ไหน แต่มักยังนึกภาพไม่ออกหรอกว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง จากประสบการณ์จริงของแม่ จึงขอสรุปสิ่งที่หมอบอก และสิ่งที่แม่ต้องเรียนรู้เอง ไว้ให้เป็นข้อมูลสำหรับคุณแม่มือใหม่ค่ะ
สิ่งที่หมอบอกไว้ก่อนกลับบ้าน และจากคู่มือต่างๆ ที่แม่อ่านมา
- เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 70% วันละ 1-2 ครั้ง
- สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ
- ใช้คอตตอนบัดเช็ดซอกโคนสะดือหมุนไปทางเดียวกัน ไปเช็ดย้อนไปย้อนมา
- อย่าโรยแป้ง
- รอให้สายแห้งและหลุดไปเองใน 1-2 สัปดาห์
2. วิธีให้นม: ทุก 2-3 ชั่วโมง
- อย่าให้ลูกหลับเกิน 4 ชั่วโมงโดยไม่กินนม
- เช็กว่าเข้าเต้าได้ถูกหรือไม่ ลูกอมลึกถึงลานนมไหม
- ถ้าดูดไม่ดีให้ปรึกษานักโภชนาการนมแม่

3. วิธีสังเกตอาการตัวเหลือง
4. อาการที่ควรลูกไปพบแพทย์ด่วน
- ไข้สูงเกิน 38°C
- หายใจหอบ หรือหายใจเร็วเกิน 60 ครั้งต่อนาที
- ซึม ไม่ดูดนมเลย
- ตัวเขียว ปากเขียว
ดูเหมือนไม่ยาก และพร้อมรับมือกับลูกน้อยอย่างมั่นใจใช่ไหมคะ
แต่ในความจริง…วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย!
1. ลูกเอาแต่ร้อง แม่เดาไม่ถูกว่าทำไม
เสียงร้องของทารกที่เคยได้ยินไม่กี่ครั้งที่โรงพยาบาล กลายเป็นเสียงที่ร้องไม่หยุดที่บ้าน แม่แยกไม่ออกว่าลูกหิว? ง่วง? ตกใจ? ร้อน? หนาว? หรือ…อยากอึ?
คำแนะนำ แม่ต้องค่อย ๆ เรียนรู้เสียงร้องของลูกนะคะ เพราะแต่ละเสียงสื่อความต่างกัน ลองใช้เสียง white noise ช่วยปลอบลูกได้ดีในช่วง 3 เดือนแรกค่ะ

2. ลูกตื่นกลางคืน นอนกลางวัน
แม่หลายคนงงมากเมื่อลูกนอนกลางวัน 3 ชม.รวด แต่พอค่ำปุ๊บตื่นตาแป๋ว เพราะลูกยังปรับนาฬิกาชีวิตไม่ได้ อีกทั้งตอนอยู่ในท้องแม่ ลูกเคย “คึกกลางคืน” เพราะแม่ขยับน้อย
คำแนะนำ ให้คุณแม่เปิดไฟหรือรับแสงแดดในช่วงกลางวัน แล้วกล่อมเบา ๆ ในตอนกลางคืน พยายามไม่กระตุ้นมาก และอย่ารีบเปิดไฟหรือพูดคุยเสียงดังเวลาลูกตื่นกลางดึกค่ะ
3. หัวนมแม่เจ็บมาก!
แม้คุณแม่จะได้เรียนรู้วิธีอุ้มลูกเข้าเต้าจากพยาบาลแล้ว แต่พอกลับมาทำเอง มันไม่ง่ายเลย มันเจ็บจี๊ดจนแม่ต้องกัดฟัน แถมบางคนอาจมีหัวนมแตก เลือดซิบ
คำแนะนำ สามารถบรรเทาอาการโดยใช้น้ำนมแม่ทาที่หัวนมหลังให้นม นมแม่มีสรรพคุณลดการอักเสบ สมานแผลได้สุดยอดมากค่ะ
ถ้าคุณแม่เจ็บมาก ควรพักหัวนมโดยใช้เครื่องปั๊มนม และให้นมจากขวดชั่วคราว
4. ลูกอึสีแปลก แม่ตกใจ!
วันแรกเจอ “อึดำเหนียว” หรือที่เรียกว่า ขี้เทา ทำให้แม่หลายคนคิดว่าลูกท้องผูก แต่ในความจริง
- อึดำ 1-2 วันแรก คือ ปกติ
- วันที่ 3-5 สีเขียว ถือว่า ปกติ
- วันที่ 5-6 จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง (หากกินนมแม่)
บทความที่เกี่ยวข้อง ทารกถ่ายวันละกี่ครั้ง เด็กทารกไม่ถ่ายได้กี่วัน สีอุจจาระของทารกบ่งบอกอะไร
5. น้ำนมแม่ยังไม่มา!
กลับบ้านวันแรก แม่หลายคนยังไม่มีน้ำนม ลูกหิว ร้องไม่หยุด แม่ยิ่งเครียดหนัก บางคนลังเลว่าจะให้เสริมนมผงหรือไม่
คำแนะนำ เคล็ดลับกระตุ้นน้ำนมให้มาเร็วๆ คุณแม่ควรให้ดูดกระตุ้นบ่อย ๆ ทุก 2 ชม. ปั๊มนมช่วยกระตุ้นระหว่างรอลูกตื่น ดื่มน้ำ พักผ่อน และกอดลูกเยอะ ๆ ถ้าต้องการเสริมนมผง ควรปรึกษาหมอหรือนักโภชนาการนมแม่ก่อนนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง สมุนไพรบำรุงน้ำนม เห็นผลทันใจ แถมให้ประโยชน์ทั้งแม่และลูก
6. แม่ไม่ได้หลับเลยทั้งคืน
แม่ต้องตื่นมาให้ลูกนมทุก 2-3 ชั่วโมง และปั๊มนมเพิ่มระหว่างลูกหลับ แล้วก็ยังต้องซักผ้าอ้อม ล้างขวด ปลอบลูกวนไป
คำแนะนำ วิธีอยู่รอด คุณแม่ควรนอนพร้อมลูก โดยขอให้คนในบ้านช่วยช่วงกลางคืนบ้าง และไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ เพราะการพักผ่อนของแม่ก็สำคัญพอ ๆ กับดูแลลูกเช่นกัน

7. มือเท้าเย็น แต่ตัวลูกอุ่น แปลว่า ลูกหนาวไหม?
แม่มักสับสน เพราะลูกมือเย็น แต่ตัวไม่ได้หนาว วิธีวัดอุณหภูมิที่ถูกต้อง ให้สัมผัสบริเวณท้ายทอยของลูก ไม่ใช่มือหรือเท้า ถ้าท้ายทอยอุ่น แสดงว่า ปกติ ถ้าท้ายทอยเย็น ควรห่มผ้าเพิ่มให้ลูกน้อยค่ะ
เรื่องบางอย่างคุณหมอไม่ได้บอก เพราะแม่ต้องใช้ “ประสบการณ์” ถึงจะเข้าใจ แต่เชื่อเถอะค่ะว่า คุณแม่ทุกคนมีศักยภาพในการเรียนรู้จากลูกของตัวเอง วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน จึงเป็นวันเริ่มต้นการเป็นแม่อย่างแท้จริงและแม่จะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ในวันต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน
วันแรกที่พาลูกกลับบ้าน ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ แต่ทุกคนคือแม่ที่ดีพอ
แม้ว่าคุณหมอจะบอกพื้นฐานทั้งหมด และในอินเทอร์เน็ตก็มีคำแนะนำมากมาย แต่สิ่งที่แม่ต้องเรียนรู้เองคือ… เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใคร เราจะเป็นแม่ที่ดีที่สุดในเวอร์ชั่นของเรา และถ้าเหนื่อยมาก ก็ร้องไห้ออกมาเถอะค่ะ แม่ทุกคนเข้าใจ
ที่มา: โรงพยาบาลศิครินทร์ , โรงพยาบาลกรุงเทพ , โรงพยาบาลสินแพทย์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
12 สิ่งที่จะเปลี่ยนไปหลังจากมีลูก เรื่องที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเป็นแม่คน
พ่อช่วยเลี้ยงลูก ดีต่อสมองลูกมากกว่าที่คิด! พ่อช่วยอะไรได้บ้าง? มาดูเลย
ข่าวดี! ไฟเขียว เพิ่มวัน “ลาคลอด” เป็น 120 วัน คุณพ่อก็ลาช่วยเลี้ยงลูกได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!