X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ไขข้อข้องใจ ! ภาวะตัวเหลือง ในเด็กแรกเกิด อันตรายหรือไม่ ป้องกันอย่างไร​ ?

บทความ 5 นาที
ไขข้อข้องใจ ! ภาวะตัวเหลือง ในเด็กแรกเกิด อันตรายหรือไม่ ป้องกันอย่างไร​ ?

ภาวะตัวเหลือง เป็นอาการที่พบเห็นได้ทั่วไปในเด็กแรกเกิด โดยทารกจะมีลักษณะ มีผิวและตาขาวที่เหลืองกว่าปกติ ถึงแม้อาการตัวเหลืองในทารก จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา หรือหากทำการรักษาเองโดยไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาได้ วันนี้ theAsianparent จะมานำเสนอ สาเหตุของอาการ ทารกตัวเหลือง วิธีดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลือง เบื้องต้น และด้วยข้อมูล และการดูแลที่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่าทารกแรกเกิดจะปลอดภัย มีสุขภาพที่ดี ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

สลด! เด็กทารกวัย 5 วัน เสียชีวิตหลังหมอสั่งอาบแดดรักษาดีซ่าน ครอบครัวจี้หาคนรับผิดชอบ

เหตุการณ์ที่น่าสลดใจ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งได้สูญเสียลูกสาววัย 5 ขวบไปอย่างน่าสลดใจหลังแพทย์แนะนำให้พาเด็กไปอาบแดดเพื่อรักษาโรคดีซ่าน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเมนปุรี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย 

ตามรายงานของ India Today คู่สามีภรรยาพาลูกสาววัย 5 ขวบไปพบแพทย์หลังจากสังเกตเห็นว่าเด็กมีอาการตัวเหลือง แพทย์วินิจฉัยว่าเด็กเป็นโรคดีซ่านและแนะนำให้พาไปอาบแดดบนดาดฟ้าของโรงพยาบาลเพื่อช่วยเพิ่มระดับวิตามินดี โดยทางครอบครัวเล่าว่า พวกเขาทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยการพาลูกสาวขึ้นไปอาบแดดบนดาดฟ้าของโรงพยาบาลในเวลา 11.10 น. ซึ่งพวกเขาอยู่บนดาดฟ้านานถึง 30 นาที สุดท้ายเด็กก็เสียชีวิตด้วยโรคลมแดด หลังจากเกิดเหตุ แพทย์ที่แนะนำให้พาลูกไปอาบแดดก็ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว 

ซึ่งทางครอบครัวของเด็กหญิงกล่าวหาว่าแพทย์ไม่ได้ให้คำแนะนำที่เพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงและระยะเวลาที่เหมาะสมในการตากแดด นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังบังคับให้ครอบครัวของเด็กหญิงออกจากโรงพยาบาลอีกด้วย

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นสร้างความโกรธเคืองให้กับประชาชนในพื้นที่ หลายคนเรียกร้องให้ทางการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและปิดโรงพยาบาล ซึ่งทางนายแพทย์ RC Gupta หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์โรงพยาบาลเมนปุรี ออกมาชี้แจงกรณีทารกวัย 5 ขวบเสียชีวิตหลังแพทย์แนะนำให้อาบแดดเพื่อรักษาโรคดีซ่าน โดยระบุว่า การอาบแดดเป็นวิธีการรักษาโรคดีซ่านแบบดั้งเดิมที่พบได้ทั่วไปในหลายท้องถิ่น แต่ทว่าต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่มีอุณหภูมิสูง ไม่ควรให้อาบแดดเด็ดขาด

 

ภาวะตัวเหลือง

 

สาเหตุของโรคตัวเหลืองในทารก

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า อาการตัวเหลืองในทารก เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในช่วงที่ทารกพึ่งคลอดใหม่ ๆ สามารถเห็นได้ 3 ใน 4 คน หรือ 70 % เลยทีเดียว  มีอาการตัวเหลืองในช่วงในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด เลยทีเดียว โดยหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการตัวเหลืองในทารก คืออาการที่เรียกว่า ดีซ่าน (Jaundice) สาเหตุของดีซ่าน เกิดจากตับที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ของทารกแรกเกิด จึงไม่สามารถกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirbin) ซึ่งเป็นสารประกอบสีเหลืองที่พบในน้ำดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภายในเลือดของทารก มีสารบิลิรูบินมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของดีซ่านนั่นเอง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการดีซ่าน มักเกิดขึ้นภายในสองหรือสามวันแรกหลังจากการคลอด และมักจะหายไปเองภายในสองสัปดาห์

แต่ก็มีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ทารกตัวเหลือง ได้เหมือนกัน อย่างเช่น การติดเชื้อภายในร่างกาย การรับประทานยาบางชนิด และภาวะทางพันธุกรรมบางอย่าง ดังนั้นในระยะเวลานี้ จะต้องทำการดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลืองอย่างใกล้ชิด เพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด เด็กแรกเกิดตัวเหลือง เด็กตัวเหลืองอันตรายไหม

 

สัญญาณและอาการทั่วไปของโรคดีซ่านในทารก

อาการและสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของดีซ่านในทารก คือผิวหนังและดวงตาเป็นสีเหลือง และอาจรวมถึงการที่ลูกน้อยปัสสาวะออกมาเป็นสีเข้มกว่าปกติ อุจจาระสีซีด หรืออาการกระสับกระส่าย แต่สีเหลืองของผิวหนังและดวงตาอาจมองไม่เห็นในทันที และอาจใช้เวลาหลายวันกว่าจะมองเห็นได้ ดังนั้นในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องทำการสังเกตลูกน้อยอย่างใกล้ชิดด้วยนะ

วิธีสังเกต ภาวะตัวเหลือง ในลูกน้อยง่าย ๆ

  • อยู่ในห้องที่โปร่ง แสงภายในห้องค่อนข้างสว่าง
  • ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ กดที่บริเวณผิวหนัง พร้อมกับแยกออกจากกัน เพื่อทำการรีดเลือดออกจากหลอดเลือดฝอย ทำให้สามารถมองเห็นสีที่ชัดเจนของลูกน้อยได้
  • ถ้าหากลูกน้อยไม่ได้มี ภาวะตัวเหลือง สีที่สามารถสังเกตเห็นได้ จะเป็นสีขาว แต่ถ้าเกิดความผิดปกติผิวบริเวณนั้นจะมีสีเหลือง

ความรุนแรงของ ภาวะตัวเหลือง ในทารก

โดยปกติแล้วอาการตัวเหลืองของทารก ไม่ได้ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมากนัก แต่ถ้าระดับบิลิรูบินในเลือดมากเกินไป จะผ่านเข้าสู่สมองทำให้สมองมีความผิดปกติเรียกว่า เคอร์นิกเทอรัส (Kernicterus) ซึ่งในช่วงแรกทารกจะมีอาการซึม ตัวอ่อนลง และดูดนมได้ไม่ดี ต่อมาอาการเหล่านี้จะเริ่มหนักขึ้น เกิดขึ้นร่วมกับอาการกระสับกระส่ายจากไข้ ตัวเกร็ง และเสียงร้องผิดปกติ และหากไม่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดโดยเร็ว อาจส่งผลรุนแรงต่อสมอง ทำให้สมองพิการ หรือเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ในที่สุด

 

ระยะเวลาเฉลี่ยของโรคดีซ่านในทารก

ระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ทารกจะมีอาการตัวเหลือง อยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แต่ระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคดีซ่านและวิธีการรักษา ทารกที่มีอาการตัวเหลืองรุนแรงอาจใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่า ในขณะเดียวกันเด็กที่มีอาการตัวเหลืองเล็กน้อยก็จะใช้เวลาสั้นกว่า และในทารกบางคน อาการตัวเหลืองสามารถอยู่ได้นานหลายเดือน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ควรจะหมั่นสังเกตอาการตัวเหลืองของทารก อีกทั้งลูกน้อย ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าอาการตัวเหลืองจะไม่เกิดขึ้นนานจนเกินไป

 

แนวทางการรักษา

ทางการรักษา ภาวะตัวเหลือง ในทารกจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง

 

ภาวะตัวเหลือง

 

  • หากโรคดีซ่านมีสาเหตุมาจากโรคประจำตัว เช่น การติดเชื้อหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม ควรได้รับการรักษาตามอาการ
  • หากโรคดีซ่านเกิดจากการผลิตบิลิรูบินเพิ่มขึ้น การรักษามักจะมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณบิลิรูบินในเลือด ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการส่องไฟ (Phototherapy) เพื่อให้ทารกสัมผัสกับแสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์ความเข้มข้นสูง เพื่อให้สารบิลิรูบิน ขับออกทางปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
  • ในบางกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องถ่ายเลือด (Exchange transfusion) เพื่อลดปริมาณบิลิรูบินในเลือด สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากุมารแพทย์เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกตัวเหลือง ทารกตาเหลือง แบบไหนเรียกว่ารุนแรง พร้อมวิธีสังเกตและการรักษา

 

5 วิธี ลดอาการตัวเหลืองในทารกเองที่บ้าน

 

ภาวะตัวเหลือง

 

1. เพิ่มปริมาณการให้นม : การดูแลให้ลูกน้อยของคุณได้รับนมแม่ที่เพียงพอจะช่วยลดอาการตัวเหลือง ให้สารที่ทำให้ทารกตัวเหลืองนั้น ขับออกมาทางปัสสาวะ และอุจจาระให้ได้มากที่สุด และนมแม่คือตัวเลือกดีที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่ทารกควรได้รับ และมีสารที่กระตุ้นให้ทารกขับถ่ายอีกด้วย

2. การสัมผัสแสงแดด : แม้ว่าแสงแดดจะมีผลในการลดอาการตัวเหลือง ช่วยลดระดับบิลิรูบินในเลือดของทารกได้ดีกว่าการใช้อุปกรณ์มาก แต่แสงแดดก็มีรังสีอินฟราเรดและอัลตราไวโอเลตด้วย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้หากสัมผัสเป็นเวลานาน ดังนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ  ทางที่ดีควรให้ลูกโดนแดดตอนเช้าเป็นเวลา 15-30 นาทีต่อวัน

3. การนวด : การนวดลูกน้อยในน้ำอุ่น ๆ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดอาการตัวเหลืองได้

4. การใช้ฟองน้ำ : คุณสามารถทำให้ร่างกายของทารกเป็นฟองน้ำด้วยการแช่ลูกน้อยในน้ำอุ่นและใช้สบู่อ่อนลูบตามลำตัว ๆ สิ่งนี้จะช่วยกำจัดบิลิรูบินบนผิวหนังได้ระดับหนึ่ง

5. อาหาร : การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กและกรดโฟลิกสามารถช่วยลดอาการตัวเหลืองในทารกได้ การทานอาหาร เช่น ผักใบเขียว ผักโขม และถั่วเลนทิลสามารถช่วยได้

 

อาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกที่มี ภาวะตัวเหลือง

โภชนาการที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยรักษาโรคดีซ่านในเด็กแรกเกิด ได้แก่ น้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่เป็นแหล่งโภชนาการที่ดีที่สุด ช่วยลดระดับบิลิรูบิน แต่ถ้าหากมารดาไม่สามารถให้นมบุตรได้ สามารถใช้นมผงสูตรหนึ่ง สำหรับทารกได้เช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าทารกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากสูตรและให้อาหารทารกตามคำแนะนำ พยายามแบ่งมื้อ ให้ทารกกินนมบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดระดับบิลิรูบิน หลีกเลี่ยงการให้นมมากจนเกินไป นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามการเพิ่มน้ำหนักของทารก ถ้าหากน้ำหนักตัวของลูกน้อย น้อยจนเกินไป ให้พาลูกน้อยไปพบคุณหมอโดยทันที

 

ดูแลลูกน้อยตัวเหลืองอย่างไร ให้สบายตัว

การดูแลทารกตัวเหลืองที่บ้าน อาจเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ท้าทายและกดดันคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เรามีขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้านเพื่อให้ลูกน้อยสบายตัวและช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่

  • ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับสารอาหารและน้ำเพียงพอเพื่อช่วยในการฟื้นตัว
  • นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และพยายามอยู่กับลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย และสบายตัวมากยิ่งขึ้น
  • นอกจากนี้ ควรดูแลให้ลูกน้อยของคุณอยู่ในที่เย็นและไม่โดนแสงแดดโดยตรง ให้ลูกน้อยใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ และให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทสะดวก สามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายตัว และช่วยให้อาการตัวเหลืองของพวกเขาบรรเทาลงได้เร็วขึ้น
  • สุดท้าย พยายามหลีกเลี่ยงการให้ยาที่หาซื้อได้ทั่วไปกับลูกน้อยของคุณ เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากแพทย์

 

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

หากลูกน้อยของคุณอายุน้อยกว่าหนึ่งเดือน และมีอาการตัวเหลืองนานกว่าสองสัปดาห์ คุณควรติดต่อแพทย์ทันที อาการตัวเหลืองในทารกอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ หากลูกน้อยของคุณมีอาการตัวเหลืองและมีอายุน้อยกว่าสองสัปดาห์ หรือหากลูกน้อยของคุณมีอาการตัวเหลืองและมีอาการอื่น ๆ คุณควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ หากคุณสังเกตเห็นว่าอาการตัวเหลืองของทารกเพิ่มมากขึ้น หรือหากคุณสังเกตว่าผิวหนังหรือดวงตามีสีเหลืองเข้มมากกว่าเดิม ก็ให้รีบพาลูกน้อยไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาต่อไปในทันที

 

จะเห็นได้ว่า ภาวะตัวเหลือง  เป็นภาวะทั่วไปที่มีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงร้ายแรง สิ่งสำคัญคือต้องคอยสังเกตอาการที่ผิดปกติ และไปพาลูกน้อยไปพบคุณหมอตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าหากคุณสงสัยว่า ลูกน้อยของคุณจะมีอาการตัวเหลือง ให้ทำการดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างที่เราได้แนะนำไป อาการตัวเหลืองก็อาจจะหายไปเองภายในสองถึงสามวัน อีกทั้งควรดูแลให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเคและสารอาหารอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาภาวะตัวเหลืองและช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยนะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

โรคลมหลับ โรคแปลกที่เด็กเจอ เผลอหลับไม่รู้ตัว แพทย์เตือน! เป็นเรื่องอันตรายมาก

โรคลมหลับ โรคแปลกที่เด็กเจอ เผลอหลับไม่รู้ตัว แพทย์เตือน! เป็นเรื่องอันตรายมาก

โรคติดต่อ RSV เด็กไทยป่วยเพิ่มขึ้น ป่วยซ้ำเกือบทุกปี ควรป้องกันอย่างไร ?

ที่มา : Bangkok Hospital, sanook

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sirapatsorn Khotchpoom

  • หน้าแรก
  • /
  • แม่ผ่าคลอด
  • /
  • ไขข้อข้องใจ ! ภาวะตัวเหลือง ในเด็กแรกเกิด อันตรายหรือไม่ ป้องกันอย่างไร​ ?
แชร์ :
  • 100 ไอเดีย เมนูมื้อเช้าให้ลูกไปโรงเรียน อร่อยไม่ซ้ำ ทำง่าย ได้ประโยชน์

    100 ไอเดีย เมนูมื้อเช้าให้ลูกไปโรงเรียน อร่อยไม่ซ้ำ ทำง่าย ได้ประโยชน์

  • 5 เพลงคลาสสิก พัฒนาสมองลูก พร้อมเคล็ดลับให้เพลงพัฒนาสมองลูก

    5 เพลงคลาสสิก พัฒนาสมองลูก พร้อมเคล็ดลับให้เพลงพัฒนาสมองลูก

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • 100 ไอเดีย เมนูมื้อเช้าให้ลูกไปโรงเรียน อร่อยไม่ซ้ำ ทำง่าย ได้ประโยชน์

    100 ไอเดีย เมนูมื้อเช้าให้ลูกไปโรงเรียน อร่อยไม่ซ้ำ ทำง่าย ได้ประโยชน์

  • 5 เพลงคลาสสิก พัฒนาสมองลูก พร้อมเคล็ดลับให้เพลงพัฒนาสมองลูก

    5 เพลงคลาสสิก พัฒนาสมองลูก พร้อมเคล็ดลับให้เพลงพัฒนาสมองลูก

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว