ภาวะตัวเหลือง เป็นอาการที่พบเห็นได้ทั่วไปในเด็กแรกเกิด โดยทารกจะมีลักษณะ มีผิวและตาขาวที่เหลืองกว่าปกติ ถึงแม้อาการตัวเหลืองในทารก จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาได้ วันนี้ theAsianparent จะมานำเสนอ สาเหตุของอาการ ทารกตัวเหลือง วิธีดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลือง เบื้องต้น และด้วยข้อมูล และการดูแลที่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่าทารกแรกเกิดจะปลอดภัย มีสุขภาพที่ดี ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

สาเหตุของโรคตัวเหลืองในทารก
อาการตัวเหลืองในทารก เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในช่วงที่ทารกพึ่งคลอดใหม่ ๆ สามารถเห็นได้ 3 ใน 4 คน หรือ 70 % เลยทีเดียว มีอาการตัวเหลืองในช่วงในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด เลยทีเดียว โดยหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการตัวเหลืองในทารก คืออาการที่เรียกว่า ดีซ่าน (Jaundice) สาเหตุของดีซ่าน เกิดจากตับที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ของทารกแรกเกิด จึงไม่สามารถกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirbin) ซึ่งเป็นสารประกอบสีเหลืองที่พบในน้ำดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภายในเลือดของทารก มีสารบิลิรูบินมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของดีซ่านนั่นเอง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการดีซ่าน มักเกิดขึ้นภายในสองหรือสามวันแรกหลังจากการคลอด และมักจะหายไปเองภายในสองสัปดาห์
แต่ก็มีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ทารกตัวเหลือง ได้เหมือนกัน อย่างเช่น การติดเชื้อภายในร่างกาย การรับประทานยาบางชนิด และภาวะทางพันธุกรรมบางอย่าง ดังนั้นในระยะเวลานี้ จะต้องทำการดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลืองอย่างใกล้ชิด เพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด เด็กแรกเกิดตัวเหลือง เด็กตัวเหลืองอันตรายไหม
สัญญาณและอาการทั่วไปของโรคดีซ่านในทารก
อาการและสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของดีซ่านในทารก คือผิวหนังและดวงตาเป็นสีเหลือง และอาจรวมถึงการที่ลูกน้อยปัสสาวะออกมาเป็นสีเข้มกว่าปกติ อุจจาระสีซีด หรืออาการกระสับกระส่าย แต่สีเหลืองของผิวหนังและดวงตาอาจมองไม่เห็นในทันที และอาจใช้เวลาหลายวันกว่าจะมองเห็นได้ ดังนั้นในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องทำการสังเกตลูกน้อยอย่างใกล้ชิดด้วยนะ
วิธีสังเกต ภาวะตัวเหลือง ในลูกน้อยง่าย ๆ
- อยู่ในห้องที่โปร่ง แสงภายในห้องค่อนข้างสว่าง
- ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ กดที่บริเวณผิวหนัง พร้อมกับแยกออกจากกัน เพื่อทำการรีดเลือดออกจากหลอดเลือดฝอย ทำให้สามารถมองเห็นสีที่ชัดเจนของลูกน้อยได้
- ถ้าหากลูกน้อยไม่ได้มี ภาวะตัวเหลือง สีที่สามารถสังเกตเห็นได้ จะเป็นสีขาว แต่ถ้าเกิดความผิดปกติผิวบริเวณนั้นจะมีสีเหลือง
ความรุนแรงของ ภาวะตัวเหลือง ในทารก
โดยปกติแล้วอาการตัวเหลืองของทารก ไม่ได้ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงมากนัก แต่ถ้าระดับบิลิรูบินในเลือดมากเกินไป จะผ่านเข้าสู่สมองทำให้สมองมีความผิดปกติเรียกว่า เคอร์นิกเทอรัส (Kernicterus) ซึ่งในช่วงแรกทารกจะมีอาการซึม ตัวอ่อนลง และดูดนมได้ไม่ดี ต่อมาอาการเหล่านี้จะเริ่มหนักขึ้น เกิดขึ้นร่วมกับอาการกระสับกระส่ายจากไข้ ตัวเกร็ง และเสียงร้องผิดปกติ และหากไม่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายเลือดโดยเร็ว อาจส่งผลรุนแรงต่อสมอง ทำให้สมองพิการ หรือเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ในที่สุด
ระยะเวลาเฉลี่ยของโรคดีซ่านในทารก
ระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ทารกจะมีอาการตัวเหลือง อยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แต่ระยะเวลาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคดีซ่านและวิธีการรักษา ทารกที่มีอาการตัวเหลืองรุนแรงอาจใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่า ในขณะเดียวกันเด็กที่มีอาการตัวเหลืองเล็กน้อยก็จะใช้เวลาสั้นกว่า และในทารกบางคน อาการตัวเหลืองสามารถอยู่ได้นานหลายเดือน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ควรจะหมั่นสังเกตอาการตัวเหลืองของทารก อีกทั้งลูกน้อย ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าอาการตัวเหลืองจะไม่เกิดขึ้นนานจนเกินไป
แนวทางการรักษา
ทางการรักษา ภาวะตัวเหลือง ในทารกจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง

- หากโรคดีซ่านมีสาเหตุมาจากโรคประจำตัว เช่น การติดเชื้อหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม ควรได้รับการรักษาตามอาการ
- หากโรคดีซ่านเกิดจากการผลิตบิลิรูบินเพิ่มขึ้น การรักษามักจะมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณบิลิรูบินในเลือด ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการส่องไฟ (Phototherapy) เพื่อให้ทารกสัมผัสกับแสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์ความเข้มข้นสูง เพื่อให้สารบิลิรูบิน ขับออกทางปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
- ในบางกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องถ่ายเลือด (Exchange transfusion) เพื่อลดปริมาณบิลิรูบินในเลือด สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากุมารแพทย์เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกตัวเหลือง ทารกตาเหลือง แบบไหนเรียกว่ารุนแรง พร้อมวิธีสังเกตและการรักษา
5 วิธี ลดอาการตัวเหลืองในทารกเองที่บ้าน

1. เพิ่มปริมาณการให้นม : การดูแลให้ลูกน้อยของคุณได้รับนมแม่ที่เพียงพอจะช่วยลดอาการตัวเหลือง ให้สารที่ทำให้ทารกตัวเหลืองนั้น ขับออกมาทางปัสสาวะ และอุจจาระให้ได้มากที่สุด และนมแม่คือตัวเลือกดีที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่ทารกควรได้รับ และมีสารที่กระตุ้นให้ทารกขับถ่ายอีกด้วย
2. การสัมผัสแสงแดด : การสัมผัสแสงแดดช่วยลดระดับบิลิรูบินในเลือดของทารก ทางที่ดีควรให้ลูกโดนแดดตอนเช้าหรือตอนบ่ายเป็นเวลา 15-30 นาทีต่อวัน
3. การนวด : การนวดลูกน้อยในน้ำอุ่น ๆ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดอาการตัวเหลืองได้
4. การใช้ฟองน้ำ : คุณสามารถทำให้ร่างกายของทารกเป็นฟองน้ำด้วยการแช่ลูกน้อยในน้ำอุ่นและใช้สบู่อ่อนลูบตามลำตัว ๆ สิ่งนี้จะช่วยกำจัดบิลิรูบินบนผิวหนังได้ระดับหนึ่ง
5. อาหาร : การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กและกรดโฟลิกสามารถช่วยลดอาการตัวเหลืองในทารกได้ การทานอาหาร เช่น ผักใบเขียว ผักโขม และถั่วเลนทิลสามารถช่วยได้
อาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกที่มี ภาวะตัวเหลือง
โภชนาการที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยรักษาโรคดีซ่านในเด็กแรกเกิด ได้แก่ น้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่เป็นแหล่งโภชนาการที่ดีที่สุด ช่วยลดระดับบิลิรูบิน แต่ถ้าหากมารดาไม่สามารถให้นมบุตรได้ สามารถใช้นมผงสูตรหนึ่ง สำหรับทารกได้เช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าทารกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากสูตรและให้อาหารทารกตามคำแนะนำ พยายามแบ่งมื้อ ให้ทารกกินนมบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดระดับบิลิรูบิน หลีกเลี่ยงการให้นมมากจนเกินไป นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องติดตามการเพิ่มน้ำหนักของทารก ถ้าหากน้ำหนักตัวของลูกน้อย น้อยจนเกินไป ให้พาลูกน้อยไปพบคุณหมอโดยทันที
ดูแลลูกน้อยตัวเหลืองอย่างไร ให้สบายตัว
การดูแลทารกตัวเหลืองที่บ้าน อาจเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ท้าทายและกดดันคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เรามีขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้านเพื่อให้ลูกน้อยสบายตัวและช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่
- ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับสารอาหารและน้ำเพียงพอเพื่อช่วยในการฟื้นตัว
- นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และพยายามอยู่กับลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย และสบายตัวมากยิ่งขึ้น
- นอกจากนี้ ควรดูแลให้ลูกน้อยของคุณอยู่ในที่เย็นและไม่โดนแสงแดดโดยตรง ให้ลูกน้อยใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ และให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทสะดวก สามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกสบายตัว และช่วยให้อาการตัวเหลืองของพวกเขาบรรเทาลงได้เร็วขึ้น
- สุดท้าย พยายามหลีกเลี่ยงการให้ยาที่หาซื้อได้ทั่วไปกับลูกน้อยของคุณ เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากแพทย์
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์
หากลูกน้อยของคุณอายุน้อยกว่าหนึ่งเดือน และมีอาการตัวเหลืองนานกว่าสองสัปดาห์ คุณควรติดต่อแพทย์ทันที อาการตัวเหลืองในทารกอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ หากลูกน้อยของคุณมีอาการตัวเหลืองและมีอายุน้อยกว่าสองสัปดาห์ หรือหากลูกน้อยของคุณมีอาการตัวเหลืองและมีอาการอื่น ๆ คุณควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ หากคุณสังเกตเห็นว่าอาการตัวเหลืองของทารกเพิ่มมากขึ้น หรือหากคุณสังเกตว่าผิวหนังหรือดวงตามีสีเหลืองเข้มมากกว่าเดิม ก็ให้รีบพาลูกน้อยไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาต่อไปในทันที
จะเห็นได้ว่า ภาวะตัวเหลือง เป็นภาวะทั่วไปที่มีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงร้ายแรง สิ่งสำคัญคือต้องคอยสังเกตอาการที่ผิดปกติ และไปพาลูกน้อยไปพบคุณหมอตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าหากคุณสงสัยว่า ลูกน้อยของคุณจะมีอาการตัวเหลือง ให้ทำการดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างที่เราได้แนะนำไป อาการตัวเหลืองก็อาจจะหายไปเองภายในสองถึงสามวัน อีกทั้งควรดูแลให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเคและสารอาหารอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาภาวะตัวเหลืองและช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยนะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรคลมหลับ โรคแปลกที่เด็กเจอ เผลอหลับไม่รู้ตัว แพทย์เตือน! เป็นเรื่องอันตรายมาก
โรคลมหลับ โรคแปลกที่เด็กเจอ เผลอหลับไม่รู้ตัว แพทย์เตือน! เป็นเรื่องอันตรายมาก
โรคติดต่อ RSV เด็กไทยป่วยเพิ่มขึ้น ป่วยซ้ำเกือบทุกปี ควรป้องกันอย่างไร ?
ที่มา : 1
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!