เป็นเหมือนกันไหมคะ คุณแม่? อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน แพ้ท้องจนหน้ามืด กินอะไรก็ลำบาก แต่พอเจ้าตัวเล็กคลอดออกมาปุ๊บ ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงต่างพากันรุมล้อมแล้วทักเป็นเสียงเดียวกันว่า “หน้าเหมือนพ่อเด๊ะเลย!” เรื่องนี้มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์รองรับอยู่จริงค่ะ สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ มีถึง 7 เรื่อง ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
แม้เราจะเคยเรียนกันมาว่าลูกได้รับพันธุกรรมจากพ่อ 50% และจากแม่ 50% เท่าๆ กัน แต่ในโลกของพันธุศาสตร์ (Genetics) นั้น ยีนบางตัวของฝั่งคุณพ่ออาจทำหน้าที่เป็น “ยีนเด่น” หรือมีการทำงานที่ทรงพลังกว่า ซึ่งส่งผลให้ลักษณะภายนอกและสุขภาพบางอย่างของลูก “เอียง” ไปทางคุณพ่อมากกว่านั่นเอง
วันนี้ theAsianparent จะพามาเจาะลึกงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์กับ 7 สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ ซึ่งมีทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตา ไปจนถึงเรื่องสุขภาพเชิงลึกที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมตัวรับมือและดูแลลูกน้อยได้อย่างถูกจุดค่ะ
7 สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ มีอะไรบ้าง
เราต้องเข้าใจกลไกธรรมชาติข้อหนึ่งก่อนค่ะ นั่นคือ “การแสดงออกของยีน” (Gene Expression) แม้ลูกจะได้รับชุดข้อมูลมาจากทั้งสองฝ่าย แต่ยีนบางตัวจะมีการ “Imprinted” หรือถูกประทับตราไว้ว่า ให้ทำงานเฉพาะยีนที่มาจากพ่อเท่านั้น หรือ ให้ยีนจากแม่เงียบไว้
ปรากฏการณ์นี้ทำให้ลักษณะบางอย่างถูกกำหนดโดยฝ่ายชายอย่างชัดเจน และนี่คือ 7 สิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกว่า พ่อให้มาล้วนๆ ค่ะ
-
เพศลูก
เริ่มกันที่เรื่องพื้นฐานที่สุดแต่สำคัญที่สุด นั่นคือ “เพศ” ค่ะ เรื่องนี้ต้องยกเครดิต (หรือโยนความรับผิดชอบ) ให้คุณพ่อไปเต็มๆ 100%
ในทางชีวภาพ มนุษย์เรามีโครโมโซมเพศ 1 คู่
- คุณแม่ มีโครโมโซม XX (ดังนั้นไข่ทุกใบของแม่จะมีแค่ X)
- คุณพ่อ มีโครโมโซม XY (สเปิร์มของพ่อจึงมีทั้งตัวที่พก X และพก Y)
ถ้าสเปิร์มตัวที่เจาะไข่ได้เป็นตัว X ลูกก็จะออกมาเป็น ผู้หญิง (XX) แต่ถ้าสเปิร์มตัว Y ว่ายเข้าวิน ลูกก็จะออกมาเป็น ผู้ชาย (XY) ดังนั้น สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ ในข้อแรกนี้จึงไม่ใช่แค่ลักษณะ แต่คือการกำหนดเพศนั่นเอง ใครที่โดนกดดันว่าต้องมีลูกชายให้ได้ อย่าลืมสะกิดบอกคุณพ่อเบาๆ นะคะว่า “หน้าที่เธอจ้ะ ไม่ใช่ฉัน”
-
ส่วนสูง
“อยากให้ลูกตัวสูงต้องทำยังไง?” นอกจากการดื่มนมและกระโดดโลดเต้นแล้ว พันธุกรรมคือปัจจัยหลักค่ะ และงานวิจัยหลายชิ้นชี้ไปในทางเดียวกันว่า ยีนที่ควบคุมการเจริญเติบโตและส่วนสูงนั้น มักจะได้รับการส่งเสริมจากฝั่งพ่อมากกว่า
มีโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า IGF (Insulin-like Growth Factor) ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ นักวิทยาศาสตร์พบว่ายีนที่สั่งการผลิตโปรตีนตัวนี้ มักจะแสดงออกผ่านทางพันธุกรรมของพ่อ ในขณะที่ยีนจากฝั่งแม่มักจะมีหน้าที่เบรก หรือควบคุมสมดุลไม่ให้ลูกตัวใหญ่เกินไป
สรุปง่ายๆ:
- ถ้าคุณพ่อตัวสูง ลูกมีแนวโน้มจะสูงตามได้ง่ายมาก
- ถ้าคุณพ่อตัวเล็ก แต่คุณแม่สูง ลูกอาจจะสูงได้ระดับกลางๆ หรือต้องเน้นโภชนาการช่วย
- ดังนั้น สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ คือ โครงร่างและความสูง นั่นเองค่ะ

-
ลักยิ้ม
ใครแพ้ผู้ชายมีลักยิ้มบ้างคะ? ถ้าคุณพ่อมีลักยิ้มแก้มบุ๋มเวลาหัวเราะ เตรียมเฮได้เลย เพราะเจ้าตัวเล็กมีโอกาสสูงมากที่จะพกลักยิ้มมาด้วย!
ในทางพันธุศาสตร์ “ลักยิ้ม” ถือเป็น ลักษณะเด่น ซึ่งยีนเด่นมักจะข่มยีนด้อย (การไม่มีลักยิ้ม) ได้เสมอ ถ้าคุณพ่อมีลักยิ้ม (แม้แม่จะไม่มี) ลูกก็มีโอกาสได้รับมรดกความน่ารักนี้มาประดับบนใบหน้า ถือเป็น สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ ที่น่าเอ็นดูที่สุดอย่างหนึ่งเลยค่ะ
-
สุขภาพฟันและขากรรไกร
มาถึงเรื่องที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ แต่ต้องรู้ไว้เพื่อเตรียมงบประมาณค่ะ! คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่า ปัญหาเรื่องฟันเก ฟันซ้อน หรือขนาดของขากรรไกร มักจะถ่ายทอดกันในครอบครัว
งานวิจัยทางทันตกรรมและพันธุศาสตร์พบว่า ขนาดของขากรรไกรและการเรียงตัวของฟัน เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ค่อนข้างแข็งแรง และมักจะแสดงออกผ่านทางยีนของพ่อได้ชัดเจนกว่า นั่นหมายความว่า
- ถ้าคุณพ่อฟันเรียงสวย ยิ้มพิมพ์ใจ ลูกก็โชคดีไป
- แต่ถ้าคุณพ่อมีปัญหาฟันซ้อน ฟันเหยิน หรือคางยื่น ลูกมีโอกาสสูงที่จะได้รับโครงสร้างนั้นมา
ดังนั้น ถ้าคุณพ่อมีประวัติการจัดฟันหรือมีปัญหาช่องปาก ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างฟันตั้งแต่เนิ่นๆ (ประมาณ 7 ขวบ) จะได้วางแผนการรักษาทันท่วงทีค่ะ
-
ความเสี่ยงโรคหัวใจ
…ของขวัญ(ที่ไม่อยากได้) เฉพาะลูกผู้ชาย
ข้อนี้เป็น สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ ในหมวดสุขภาพที่สำคัญมากและค่อนข้างเฉพาะเจาะจงค่ะ ข้อมูลนี้อาจฟังดูน่ากังวล แต่รู้ไว้กันไว้ดีกว่าแก้ในภายหลัง
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า พันธุกรรมไม่ได้กำหนดแค่จมูกแม่หรือคางพ่อเท่านั้น แต่ในผู้ชายที่มีรหัสพันธุกรรมกลุ่มเฉพาะที่เรียกว่า Haplogroup I บนโครโมโซม Y จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ สูงกว่าผู้ชายทั่วไปถึง 50%!
- เนื่องจากรหัสนี้อยู่บน โครโมโซม Y (ซึ่งมีแต่พ่อที่ส่งให้ลูกชาย)
- ลูกสาว: ปลอดภัย 100% จากความเสี่ยงข้อนี้ เพราะลูกสาวไม่ได้รับโครโมโซม Y จากพ่อ
- ลูกชาย: รับไปเต็มๆ หากพ่อมีพันธุกรรมกลุ่มนี้
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ บางครั้งก็เป็นความเสี่ยงทางสุขภาพ ถ้าฝั่งคุณปู่หรือคุณพ่อมีประวัติโรคหัวใจตั้งแต่อายุน้อยๆ ควรดูแลโภชนาการและชวนลูกชายออกกำลังกายตั้งแต่เด็กเลยนะคะ

-
ภาวะมีบุตรยาก
…ผลพวงจากการทำ IVF ที่ส่งต่อถึงลูก
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือ อิ๊กซี่ (ICSI) ช่วยให้คู่รักที่มีบุตรยากสมหวังมานักต่อนัก แต่มีข้อมูลจากวารสารวิชาการ Journal of Human Reproduction ที่เปิดเผยความจริงที่น่าสนใจ
การศึกษาระบุว่า ในกรณีที่คุณพ่อมีปัญหา “ภาวะมีบุตรยาก” (เช่น สเปิร์มน้อย สเปิร์มไม่แข็งแรง) จนต้องพึ่งพาวิธีทางการแพทย์ในการมีลูก ลูกชายที่เกิดมา มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับถ่ายทอด “ปัญหาสุขภาพการเจริญพันธุ์” นั้นมาด้วย
อธิบายง่ายๆ คือ ยีนที่ทำให้พ่อมีสเปิร์มไม่แข็งแรง ก็ถูกส่งต่อไปยังลูกชายผ่านกระบวนการปฏิสนธินั่นเอง ทำให้เมื่อลูกชายโตขึ้น เขาอาจเผชิญปัญหาการมีลูกยากคล้ายๆ กับที่คุณพ่อเคยเจอ
เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของใคร และไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพียงแต่เป็น สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ ที่เราควรรู้เท่าทัน เพื่อความเข้าใจในอนาคตค่ะ
-
สุขภาพจิตและอายุของพ่อ
ข้อสุดท้ายเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “ช่วงอายุ” ของคุณพ่อตอนมีลูกค่ะ เรามักได้ยินว่าผู้หญิงอายุมากมีลูกเสี่ยงดาวน์ซินโดรม แต่รู้ไหมคะว่า อายุของคุณพ่อ ก็ส่งผลต่อสิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ ในด้านพัฒนาการทางสมองเช่นกัน
เมื่อผู้ชายอายุมากขึ้น คุณภาพของสเปิร์มจะลดลงและมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์ของยีน ได้มากกว่าแม่ งานวิจัยพบว่า ลูกที่เกิดจากคุณพ่อที่มีอายุมาก (โดยเฉพาะ 45 ปีขึ้นไป) มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยต่อภาวะทางจิตเวชและพัฒนาการ เช่น
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการวางแผนครอบครัวและการดูแลสุขภาพของคุณพ่อก่อนมีลูก จึงสำคัญไม่แพ้การบำรุงของคุณแม่เลยค่ะ
ไม่ว่าจะเหมือนใคร ลูกก็คือความภูมิใจของเรา
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณแม่หลายท่านอาจจะรู้สึกว่า “แหม… สิ่งที่ลูกมักได้จากพ่อ นี่มันเยอะจริงๆ นะ ทั้งหน้าตา ส่วนสูง แถมโรคบางอย่างอีก” แต่อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งที่คุณแม่เป็นผู้มอบให้ เช่น ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) หรือขุมพลังงานของเซลล์ที่ลูกได้รับจากแม่ 100% รวมถึงระดับสติปัญญา (IQ) ที่งานวิจัยหลายชิ้นบอกว่าโน้มเอียงไปทางแม่มากกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าลูกจะหน้าเหมือนพ่อ หรือได้นิสัยแม่ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่พันธุกรรมแต่คือ การเลี้ยงดู ค่ะ
- ต่อให้ลูกได้ยีนความสูงจากพ่อ แต่ถ้าขาดสารอาหาร ก็ไม่สูง
- ต่อให้ลูกได้ยีนฟันสวย แต่ถ้าไม่แปรงฟัน ก็ผุได้
- ต่อให้ลูกมีความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่ถ้าพ่อแม่พากินดี อยู่ดี ออกกำลังกาย ลูกก็แข็งแรงได้
ดังนั้น มาร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยเติบโตอย่างมีความสุขดีกว่าค่ะ
ที่มา: National Institutes of Health (NIH) , fertstert.org
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
พิสูจน์มาแล้ว ลูกฉลาด ได้มาจากสติปัญญาแม่มากกว่าพ่อ!
กฎหมายแรงงานใหม่ 2568: ทำไมสิทธิ์ พ่อลาเลี้ยงลูก 15 วัน ถึงสำคัญ?
เลี้ยงลูกชายให้เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี ในอนาคต วิธีสร้างสุภาพบุรุษตัวน้อยในบ้าน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!