พ่อแม่หลาย ๆ คนไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูก ๆ เพราะต้องทำงาน ก็เลยมีบางครั้ง ที่อาจจะปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวีเพียงลำพัง เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกเหงา แต่รู้หรือไม่ ว่าการปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวีนานไปไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะอาจจะทำให้เด็กเสพติดการดูทีวี จนไม่อยากสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว หากเด็ก ๆ ติดทีวี จะทำยังไงได้บ้าง เรามาดูวิธีรับมือกับปัญหานี้กัน
รายการทีวีในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน รายการทีวีหลาย ๆ ช่องได้ย้ายไปอยู่ในระบบดิจิตอลกัน ในขณะที่บางช่องก็ปิดตัวไปหลังจากเปิดมาหลายปี รายการทีวีในช่องหลักส่วนใหญ่ ก็ยังคงเป็นรายการที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่อยู่ อย่างไรก็ตาม หากอยากให้เด็ก ๆ ได้ดูการ์ตูน หรือรายการที่เหมาะกับวัย ก็อาจจะให้เด็ก ๆ ดูรายการ เช่น มาสเตอร์เชฟจูเนียร์ ซูเปอร์เท็น ดาวินชี่ เด็กถอดรหัส ตัวเล็กโชว์ใหญ่ ฟ้าแลบเด็ก หรือสอนศิลป์ เป็นต้น หรือหากติดจานดาวเทียมของทรูวิชั่น ก็อาจจะเปิดช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค หรือทรูสปาร์คให้เด็กดูได้ นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถสมัครเน็ตฟลิกซ์เป็นรายเดือน เพื่อเปิดใช้โหมดรายการสำหรับเด็ก เอาไว้ให้น้อง ๆ ดูยามว่าง ซึ่งโหมดรายการสำหรับเด็กของเน็ตฟลิกซ์นี้ จะเป็นโหมดที่รวบรวมการ์ตูน ซีรีส์ หรือหนังที่มีเนื้อหาสำหรับเด็กไว้มากมาย สามารถให้น้อง ๆ เลือกดูได้ตามใจชอบ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ที่สุดของอันตราย! โทรศัพท์ระงับพัฒนาการเด็ก ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์
ลูกดูทีวีมากไป เป็นอะไรไหม
เด็ก ๆ สมัยนี้ เริ่มดูทีวี และเริ่มใช้โซเชียลกันตั้งแต่อายุยังน้อย และพ่อแม่หลาย ๆ คน ก็มักจะเปิดรายการทีวีให้ลูกดูทางโทรศัพท์เวลาที่ไม่มีอะไรให้เด็กทำ เพราะคิดว่าการดูรายการทีวีหรือคลิปนั้น จะช่วยให้ความบันเทิงแก่เด็กได้ อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้เด็กอยู่กับรายการทีวีหรือดูอะไรนาน ๆ ไปไม่ใช่เรื่องดี เพราะมีงานวิจัยชี้ว่า เด็กที่ดูทีวีมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน เป็นประจำทุกวัน มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ เมื่อเทียบกับเด็กที่ดูทีวีน้อยกว่า นอกจากนี้ เด็กที่ดูทีวีบ่อย ๆ ยังอาจมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อคนรอบตัว หรือเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างการสูบบุหรี่ หรือดื่มสุราตั้งแต่อายุยังน้อยได้อีกด้วย ซึ่งนี่ ก็เป็นเหตุผลที่คุณแม่ควรจำกัดเวลาในการดูทีวีของเด็ก และคอยสอดส่องรายการที่เด็กดู ว่าเหมาะสมหรือไม่ หากรายการไหนสอดแทรกเนื้อหาที่ไม่ดี คุณแม่ก็ควรอธิบายให้เด็กเข้าใจ หรือไม่อย่างนั้น ก็ควรเปลี่ยนช่อง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ดูอะไรอย่างอื่นแทน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกดูทีวีดูมือถือทั้งวัน จอจนตาอักเสบรุนแรง! พ่อโพสต์เตือนอย่าปล่อยลูกดู ทีวี มือถือ ยิ่งนานยิ่งอันตราย
เด็กอายุ 5-18 ปี ควรดูทีวี หรือเล่นเกมอย่างเหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ควรดูแล คอยสังเกตพฤติกรรมลูก ๆ (ภาพจาก shutterstock.com)
จะแก้ปัญหาเด็กติดทีวียังไงดี
อะไรที่มากไป ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว เช่นเดียวกับการดูทีวี หากลูก ๆ ติดทีวี ชอบดูทีวีจนไม่เป็นอันกินอันนอน แนะนำให้คุณแม่ปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
1. จำกัดช่วงอายุของเด็ก
คุณพ่อคุณแม่ควรควบคุมการดูรายการทีวีของเด็กตามอายุเด็ก ดังนี้
- เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 เดือน ไม่ควรดูทีวีเด็ดขาด แต่ยังสามารถวิดีโอคอลหรือมีปฏิสัมพันธ์กับญาติ ๆ ผ่านโทรศัพท์ได้
- เด็กที่อายุระหว่าง 18-24 เดือน อาจเริ่มให้เด็กดูทีวีได้ โดยคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ดูแล ควรคอยประกบเด็ก เพื่อคอยควบคุมสอดส่องเนื้อหาในรายการทีวีที่เด็กดู
- เด็กวัยอนุบาล ให้เด็กดูรายการทีวีได้วันละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง โดยควรมีคนในบ้านคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด
- เด็กที่อายุระหว่าง 5-18 ปี ควรให้เด็กดูรายการทีวี หรือเล่นโซเชียลได้ตามความเหมาะสม แต่ไม่ควรให้เด็ก ๆ อยู่กับสิ่งเหล่านี้นานเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กติดทีวีหรือโซเชียล จนไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน
2. เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก
คุณพ่อคุณแม่และคนในบ้านควรเป็นตัวอย่างที่ดี และทำให้เด็กเห็น ว่าการดูทีวีที่เหมาะสมเป็นแบบไหน เพราะเด็กอยู่ในวัยที่ชอบเลียนแบบพฤติกรรมคนรอบ ๆ ตัว หากเด็ก ๆ เห็นคนในบ้านอ่านหนังสือ เด็กก็จะชอบอ่านหนังสือ หากเด็กเห็นว่าพ่อแม่ชอบดูทีวี ติดทีวีงอมแงม เด็กก็มีแนวโน้มที่จะซึมซับ และลอกเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าวเช่นเดียวกัน
3. ชวนเด็กทำกิจกรรมอย่างอื่น
คุณแม่ควรหากิจกรรมสนุก ๆ กิจกรรมเสริมทักษะ หรือกิจกรรมเสริมพัฒนาการให้น้อง ๆ ทำเวลาว่าง เพื่อที่เด็กจะได้ไม่อยากดูทีวี หรือดูทีวีน้อยลง เช่น เล่นกีฬา อ่านหนังสือ หรือเล่นบอร์ดเกม เป็นต้น ซึ่งนอกจากกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้ฝึกทักษะต่าง ๆ แล้ว ก็ยังทำให้คุณแม่ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีกับน้อง ๆ อีกด้วย
4.ใช้เวลาว่างกับเด็ก
เด็กบางคนชอบดูทีวี เพราะรู้สึกว่าทีวีคอยอยู่เป็นเพื่อนเวลาเหงา หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาให้น้อง ๆ หรือไม่ได้อยู่ทำกิจกรรมอื่น ๆ กับเด็ก ๆ ก็อาจทำให้เด็กรู้สึกเหงา และเลือกที่จะดูทีวีแทน จนสุดท้ายกลายเป็นเด็กติดทีวี และไม่อยากสร้างปฏิสัมพันธ์กับใครอีก ฉะนั้น ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะยุ่งแค่ไหน ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยน้อง ๆ จนเขารู้สึกว่าไม่มีใครอยู่ข้างกาย คุณพ่อคุณแม่ควรจัดตารางชีวิต หาเวลาว่างมาอยู่กับเขา ก่อนที่อะไร ๆ จะสายไป
5. ไม่ติดตั้งทีวีไว้ที่บ้าน
หากว่าเด็กติดทีวีจนไม่อยากทำอะไรเลย หรือหากคุณแม่พยายามทำทุกวิถีทางแต่เด็กก็ยังติดทีวีอยู่ ก็อาจจะต้องยกทีวีออกจากบ้าน หรือเอาทีวีไปซ่อนไว้ในที่ที่เด็กไม่เห็น เพื่อไม่ให้เด็กได้ดูทีวี ซึ่งดูจะเป็นการหักดิบไปสักหน่อย แต่ลองค่อย ๆ ให้เด็ก ๆ ได้ปรับตัว และหากิจกรรมอื่นให้เด็กทำแทน หากว่าในอนาคต เด็กอยากจะดูอะไร ก็ให้เขาดูผ่านหน้าจอโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณแม่ได้ เพื่อที่จะได้คอยสอดส่องสิ่งที่เด็กดูไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากเด็กโตพอที่จะเข้าใจได้ว่าอะไรควรไม่ควร ดูทีวีอย่างไรให้เหมาะสม ก็ค่อยนำทีวีกลับมาภายหลังได้
คุณแม่สามารถป้องกันไม่ให้ลูกติดทีวีได้ โดยเริ่มจากการจำกัดเวลาหรือเนื้อหาในการดูทีวีของเด็ก และคอยสร้างนิสัยในการดูทีวีที่เหมาะสมให้กับเด็ก ให้เด็กดูทีวีอย่างเหมาะสมและไม่นานจนเกินไป ซึ่งก็อย่างที่ได้บอกไปแล้ว ว่าเด็กเป็นวัยที่ชอบเลียนแบบ แถมยังขี้สงสัย และอยากรู้อยากเห็น หากรายการทีวีที่เด็กดูมีเนื้อหาไม่เหมาะสม เด็กก็อาจจะซึมซับ และเลียนแบบได้ในที่สุด คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูก ๆ อย่างใกล้ชิด ว่าเด็กเปลี่ยนไป หรือก้าวร้าวมากขึ้นไหม เพื่อที่จะได้ไหวตัวทันหรือป้องกันได้ทันท่วงที หากเด็กไปเลียนแบบพฤติกรรมไม่ดีจากรายการทีวีมา
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเล่นคอมได้หรือไม่? แม่ท้องเจอจอสีฟ้าของคอมและทีวีอันตรายต่อลูกมั๊ย?
เด็กติดทีวี ให้เด็กดูทีวีบ่อยไปไม่ดี (ภาพโดย ijeab จาก freepik.com)
ดูทีวีมีประโยชน์ไหม
ความจริงแล้ว การดูทีวีนั้นก็มีประโยชน์ต่อเด็กเช่นกันหากให้เด็ก ๆ ดูแต่พอดี ไม่ดูเยอะพร่ำเพรื่อจนเกินไป เพราะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรายการทีวีที่เด็กดูนั้น เป็นรายการสอนเกี่ยวกับภาษา หรือคณิตศาสตร์ ซึ่งเด็ก ๆ จะสามารถนำเอาทักษะที่เรียนรู้จากรายการทีวีไปใช้ในห้องเรียน หรือนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และจะยิ่งดีกว่านี้ หากคุณพ่อคุณแม่สามารถนั่งดูทีวีกับน้อง ๆ เพื่อคอยให้คำแนะนำเวลาที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมปรากฏบนทีวี ทั้งนี้ การนั่งดูทีวีกันเป็นครอบครัว ก็ยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้สานความสัมพันธ์กับน้อง ๆ ด้วยการถกประเด็นในรายการทีวี หรือได้ร่วมพูดคุยสิ่งที่น้อง ๆ สงสัยได้ด้วย
หากเด็ก ๆ อยากดูทีวี ก็ควรให้เขาดูรายการที่เหมาะสำหรับเด็กและให้ความรู้ แทนที่จะให้เขาดูละครที่ไม่มีประโยชน์ รายการที่ไม่มีสาระ หรือรายการที่ไม่ได้ให้ข้อคิดใด ๆ ซึ่งเนื้อหาของรายการทีวี ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากสามารถชักจูง หรือปลูกฝังแนวคิดต่าง ๆ ให้เด็กได้ นอกจากนี้ คุณแม่ไม่ควรให้น้อง ๆ ดูทีวีเป็นเวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้น้อง ๆ ติดทีวีงอมแงม จนไม่ยอมกินข้าวกินปลา ไม่สนใจคนในครอบครัว หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว
บทความที่เกี่ยวข้อง :
15 พฤติกรรมเสี่ยงออทิสติกเทียม เจ้าตัวเล็กบ้านไหน ดูทีวี เล่นเกม ต้องอ่าน!
ผู้เชี่ยวชาญ: การดูทีวี ไม่ใช่ต้นเหตุทำให้เด็กพฤติกรรมแย่
9 สัญญาณอันตรายเมื่อเจ้าตัวเล็กเป็น “โรคติดทีวี”
ที่มา : becomingminimalist , tvdigitalwatch , childmind , kidshealth
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!