มาดื่ม น้ำผลไม้ กัน เด็กวัย 2 ขวบหรือใกล้เคียง เป็นวัยที่ฟันกำลังขึ้น สิ่งหนึ่งที่แนะนำให้คุณหนูวัยนี้รับประทาน คือ “ผลไม้” เพื่อได้ฝึกการเคี้ยวและการกลืน แต่บางครั้งน้องๆ หนูๆ ก็เลี่ยงไม่ยอมกินผลไม้ที่คุณพ่อคุณแม่อุตส่าห์เลือกซื้อซะเฉยๆอย่างนั้น อีกทางเลือกหนึ่งเพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกาย นั่นคือ น้ำผลไม้ นั่นเอง แม้ว่า น้ำผลไม้ จะไม่ได้มีประโยชน์มากกว่าผลไม้สดๆ แต่สามารถให้ “น้ำผลไม้” เป็นหนึ่งใน “ของว่าง” ของลูกน้อยได้
การดื่ม น้ำผลไม้ สำหรับเด็ก มีข้อแนะนำด้านปริมาณอย่างไร?
สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (the American Academy of Pediatrics) แนะนำว่า เด็กต่ำกว่า 1 ขวบยังไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ ส่วนในเด็กโตก็ควรจำกัดปริมาณการดื่มแต่พอเหมาะเท่านั้น ซึ่งมีรายละเอียดคำแนะนำ ดังนี้
-
เด็กวัยก่อน 1 ขวบ
แนะนำว่าไม่ควรทาน
-
เด็กวัย 1-3 ขวบ
ปริมาณที่แนะนำ 4 ออนซ์/วัน (ประมาณ 120 มิลลิลิตร)
-
เด็กวัย 4-6 ขวบ
ปริมาณที่แนะนำ 4-6 ออนซ์/วัน (ประมาณ 120-180 มิลลิลิตร)
-
เด็กวัย 6 ขวบขึ้นไป
ปริมาณที่แนะนำไม่ควรเกิน 8 ออนซ์/วัน (ประมาณ 240 มิลลิลิตร)
บทความที่เกี่ยวข้อง : อะโวคาโด กินยังไง ผลไม้กินดี มีประโยชน์หลากหลาย ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด
9 ผลไม้ที่เหมาะทำ น้ำผลไม้ เพื่อลูกรัก
เมื่อลูกน้อยกินผลไม้ยาก น้ำผลไม้ ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเด็กที่กินผลไม้ลำบาก เพราะการเคี้ยว และกลืนของเด็กอาจจะไม่ค่อยดีนัก หรือฟันซี่เล็กไม่แข็งแรงพอ โดยเลือกน้ำผลไม้รสอ่อนๆ ปริมาณน้อยๆ ด้วยสูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับ น้ำผลไม้ จากผลไม้ต่างๆ เพื่อลูกรักเหล่านี้ อาจช่วยให้น้องๆ หนูๆ รู้สึกชอบรสชาติของผลไม้ขึ้นมาก็เป็นได้
กล้วย มีคุณสมบัติย่อยง่าย มีใยอาหารแบบละลายน้ำ ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย โดยเฉพาะกล้วยที่สุกจัด จะมีรสหวานและโพแทสเซียมสูง
ส้ม วิตามินซีในน้ำส้มช่วยการดูดซึมธาตุเหล็ก ตอนที่ป้อนน้ำส้มให้ลูก อาจจะเห็นลูกน้อยกะพริบตาถี่ ๆ เมื่อลิ้มลอง เพราะส้มมีกรดซิทริคทำให้มีรสเปรี้ยวอ่อนๆ และภาวะความเป็นกรดจะช่วยให้การย่อยโปรตีนจากนมดีขึ้น
แตงโม เป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะ รสหวานอ่อน ๆ ทำให้ลูกสดชื่น และเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี อีกทั้งมีวิตามินเอด้วย
มะม่วงสุก มีเบต้าแคโรทีนช่วยบำรุงสายตา มีแอนติออกซิแดนท์ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ด้วย
อะโวคาโด มีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม มีวิตามินอี และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะหัวใจ แต่ควรจำกัดปริมาณ ไม่ควรให้ลูกกินมากเกินไป เพราะอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง
สาลี่ มีฤทธิ์เย็นจึงแก้อาการร้อนได้ด้วย รวมทั้งใครที่มักมีอาการเจ็บป่วยบ่อย ๆ หรือเป็นโรคหวัดได้ง่าย ให้นำสาลี่มาคั้นเอาน้ำดื่มจะสามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคได้ดี
กีวี่ เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อีกทั้งยังเป็นแหล่งของสารโภชนาการอื่น ๆ เช่น วิตามินอี วิตามินเค กรดโฟลิค ไฟเบอร์ รวมถึงสารแคโรทีนอย (Carotenoids) และสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
แอปเปิ้ลสีเขียว มีน้ำตาลน้อยและให้พลังงานน้อยที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลสีต่าง ๆ ทั้งมีปริมาณไฟเบอร์และวิตามินซีมากกว่าสีอื่นเล็กน้อย ช่วยในเรื่องของการป้องกันไข้หวัด และโรคเลือดออกตามไรฟัน
องุ่น อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายทั้งวิตามินซีและวิตามินเค ประกอบไปด้วยฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผักผลไม้ทำให้เด็กท้องอืด จริงหรือไม่? มีอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง
น้ำสีส้มมหัศจรรย์ สู้หวัดและช่วยการขับถ่าย
สีส้มที่สดใสของส้มและมะเขือเทศที่รวมกัน เด็กๆ ต้องชอบแน่นอน ซึ่งส้มก็มีวิตามินซีสูง กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย และทำให้สดชื่น ส่วนมะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสารจำพวกไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบตาแคโรทีน และกรดอะมิโน เป็นต้น เมื่อนำพลังทั้งหมดมารวมกัน เราก็จะได้น้ำผลไม้สูตรเสริมภูมิคุ้มกัน พร้อมสู้หวัด ให้ลูกน้อยแข็งแรงนั่นเอง
ส่วนผสม
- ส้ม 3 ผล ปอกเปลือก แกะออกเป็นกลีบ แล้วผ่าเอาแกนกลางกลีบ กับเมล็ดออก
- มะเขือเทศ 2 ผลใหญ่
วิธีทำ
นำมะเขือเทศทั้งลูก ต้มในน้ำเดือด 3 นาที เอาขึ้นน็อคในน้ำเย็นจัด(น้ำผสมน้ำแข็ง) สักพัก ค่อยๆลอกเปลือกมะเขือเทศออก จากนั้นหั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นๆ นำส่วนผสมมาปั่นรวมกัน ได้น้ำผลไม้สีส้มสดใสสูตรเข้มข้น อุดมด้วยวิตามิน และช่วยการขับถ่ายของลูกน้อย เพราะใช้มะเขือเทศทั้งลูกและส้มที่มีกากใย
น้ำสีแดงสดสวย ABC อร่อยและได้ประโยชน์
A มาจากแอปเปิล B มาจากบีทรูท C มาจากแครอท ซึ่งในสูตรจะเติมแตงโมและสับปะรดลงไปด้วย เพื่อให้มีรสหวานอมเปรี้ยวอร่อย เพิ่มวิตามินหลากหลายเข้าไปอีก แอปเปิลมีสารสำคัญอย่างเบต้าแคโรทีน วิตามิน C และไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี ป้องกันท้องร่วงอีกด้วย บีทรูท เสริมธาตุเหล็ก แตงโมมีรสหวานแต่แคลลอรี่ต่ำ ทั้งหมดนี้แทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความ คุณพ่อคุณแม่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์แค่ไหน
ส่วนผสม
- แอปเปิลแดง 2 ผล
- บีทรูท 1 หัวเล็ก
- แครอทขนาดกลาง 1 หัว
- สับปะรดหั่น 1 ถ้วย
- แตงโมหั่น(เอาเมล็ดออก) 1 ถ้วย
วิธีทำ
หั่นแอปเปิล 2 ลูก นำแกนออก โดยจะปอกเปลือกหรือไม่ปอกเปลือกก็ได้ ปอกเปลือกแครอทและบีทรูท ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น นำส่วนผสมอื่นๆเข้าเครื่องปั่นให้ลูกตักกินเนื้อผลไม้ไปด้วย หรือเข้าเครื่องคั้นแยกกาก เพื่อให้ลูกน้อยได้ดื่มน้ำผลไม้ได้ง่ายขึ้น ก็ได้ทั้งความอร่อยและวิตามินมากมาย
น้ำสีเขียวมรกต รวมผักผลไม้รสอร่อย
เด็กๆคนไหน ไม่ชอบทานผัก ลองเป็นสูตรนี้เลย น้ำผักแสนอร่อยดื่มง่ายขึ้น ในใบเคลมีสารที่ช่วยต้านไวรัสและแบคทีเรียได้ดี แตงกวาช่วยให้ความชุ่มชื่น ส่วนก้านของบล็อคโคลีก็ช่วยยับยั้งการติดเชื้อได้ ถึงแม้สูตรน้ำผักมรกตจะสีเขียวดูน่ากลัวว่าจะขมสำหรับเด็กบางคน แต่จะมีความเปรี้ยวของแอปเปิลเขียว เลมอนรสเปรี้ยว สตรอเบอร์รี่อมเปรี้ยวอมหวานสดชื่นๆ อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง นอกจากรสชาติดีแล้วก็มีสารอาหารเพียบ
ส่วนผสม
- ก้านบล็อคโคลี 1 หัว
- แตงกวา 1 ลูก
- ใบเคล 2-3 ใบ
- แอปเปิลเขียว 2-3 ผล ผ่าเป็น 4 ส่วน
- สตรอเบอรี่สับ 1 ถ้วย
- เลมอน 1 ผล
Tips : สำหรับสูตรนี้ถ้าเด็กๆไม่ชอบใบเคลจริงๆ ก็สามารถปรับสูตรไปใช้ผักโขมแทนได้ โดยใช้ปริมาณ 3 กำมือ
วิธีทำ
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน บีบน้ำเลมอนผสมลงไปเพื่อปรุงรส เติมน้ำแข็งทุบละเอียดลงไปนิดหน่อยเพิ่มความสดชื่น ปั่นให้เข้ากัน พร้อมเสริฟความอร่อย เปรี้ยวๆ หวานๆ เย็นๆ ชื่นใจได้คุณค่า
ทั้ง 3 สูตรนี้มีขั้นตอนการทำที่ง่ายมากและเหมือนกันทุกสูตร คือนำส่วนผสมทั้งหมดของแต่ละสูตรเข้าเครื่องปั่นหรือเครื่องสกัดพร้อมกันได้เลย จากนั้นเทแบ่งใส่แก้วแล้วคนให้เข้ากันสักนิดก่อนเสิร์ฟ เหมาะกับเด็กอายุ 2 ขวบและสามารถแช่เย็นเก็บไว้ได้ 2 วัน
สูตรน้ำผลเพื่อสุขภาพของหนูๆ วัย 2 ขวบนี้ น่าจะถูกใจคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อย ลองนำไปทำให้ลูกๆ ดื่มกันดู บางครั้งเด็กๆอาจจะได้รับผักหรือผลไม้ในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อวัน การให้เขาได้มีโอกาสดื่มน้ำผักผลไม้เพิ่มเติมก็จะทำให้เขาได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผักผลไม้ 5 สี กินแล้วดีอย่างไร? เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี ประโยชน์เพียบ!!
ข้อควรระวังในการทำน้ำผักและ น้ำผลไม้
-
ภาชนะในการทำน้ำผักและผลไม้ต้องสะอาด
โดยการเตรียมภาชนะในการทำน้ำผักและผลไม้ เช่น เครื่องปั่น ที่กรอง จะต้องเช็ดทำความสะอาดให้ดีก่อนใช้ทุกครั้ง
-
ควรเลือกผักและผลไม้ที่สดใหม่
อย่าเก็บทิ้งไว้นาน เนื่องจากจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง สำหรับผลไม้ควรเลือกที่แก่จัด เพราะจะได้รสชาติหวานอร่อย เช่น ฝรั่งสุกหรือแก่จัด รสชาติและกลิ่นจะหอมกว่าฝรั่งดิบ เป็นต้น
-
ผักและผลไม้บางชนิดควรเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม
เช่น ผักใบต่างๆ ให้เก็บในช่องแช่ผัก และไม่ควรหั่นก่อนแช่ เพราะจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง
-
หากต้องเก็บผลไม้ที่มีขนาดใหญ่
เช่น แตงโมหรือสับปะรดที่ไม่สะดวกแช่ทั้งลูก ให้หั่นเป็นชิ้นใหญ่ปริมาณตามต้องการ แล้วเก็บใส่กล่องพลาสติกที่มีฝาปิดมิดชิด หรือใส่จานคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แช่ให้เย็นจัด แต่ไม่ควรแช่ทิ้งไว้นานเป็นวันๆ เพราะจะทำให้คุณค่าทางอาหารและกลิ่นรสเสียไป
ที่มา หมอชาวบ้าน,akerufeed
บทความอื่นๆ ที่คุรอาจจะสนใจ
อย่าให้เด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ ดื่มน้ำผลไม้
20 ไอเดีย อาหารสำหรับเด็ก ข้าวลูกวัยเตาะแตะ ทำง่ายๆ ได้สุขภาพ
7 น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพยอดฮิต ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!