ถึงแม้ว่าการทานผักและผลไม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่า ผักผลไม้ทำให้เด็กท้องอืด ได้ หากเด็กรับประทานมากจนเกินไป มาดูกันดีกว่าว่ามีผักผลไม้ไหนบ้างที่เด็กท้องอืดต้องหลีกเลี่ยง
อาการท้องอืดที่พบได้บ่อย ๆ
เด็ก ๆ หลายคนหลังมื้ออาหาร หรือการทานอาหารมื้อใหญ่ก็ส่งผลทำให้พวกเขามีอาการท้องอืด หรือมีแก๊สในช่องท้องมากจนเกินไปได้ แต่อาการที่พบบ่อย ๆ นั้นมีอยู่หลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- ท้องส่งเสียคำราม เกิดจากกล้ามเนื้อของลำไส้บีบรัดอาหารที่เราทานเข้าไป เพื่อไล่อากาศออกจากอาหาร และดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย ถ้าหากเด็ก ๆ เคี้ยวอาหารไม่ละเอียดมากพอจะทำให้การทำงานของลำไส้นั้นทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และอาจเกิดอาการท้องอืดได้ ดังนั้นควรเคี้ยวอาการให้ละเอียด หรือทานอาหารที่สามารถย่อยได้ง่ายก็จะสามารถช่วยเรื่องของท้องอืดได้
- การขับแก๊สออกมีกลิ่นเหม็น อาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้น จะถูกสะสมอยู่ในช่องท้องของเรา ทำให้เกิดการหมักของแบคทีเรีย สามารถทำให้เวลาเราขับลมออกมานั้นส่งกลิ่นเหม็น ทั้งนี้กลิ่นนั้นจะขึ้นอยู่กับอาหารที่เราทานเข้าไป เช่น กระเทียม หัวหอม และอาการรสจัด เป็นต้น
- มีแก๊สในท้องมากเกินไป เกิดจากการกลืนอากาศ รับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง แพ้แลคโตส หรือความผิดปกติของระบบย่อยอาหารบางอย่าง คุณควรศึกษาวิธีการลดปริมาณแก๊สในกระเพาะออก เพื่อไม่ให้อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้
บทความที่น่าสนใจ : อาหารแก้ท้องผูกสำหรับเด็ก 7 อย่าง อร่อย มีประโยชน์ ไม่ต้องพึ่งยาระบาย
แก๊สที่ทำให้เกิดท้องอืด อันตรายหรือไม่?
ส่วนใหญ่แล้วแก๊สที่เกิดจากการทานผักหรือผลไม้ทำให้เด็กท้องอืดนั้นไม่ได้น่ากลัว หรือรุนแรงต่อร่างกายของเด็ก ๆ ขนาดนั้น คุณไม่จำเป็นจะต้องพาเด็ก ๆ ไปพบแพทย์หลังจากที่พวกเขาทานมากจนเกินไป หรือเกิดอาการท้องอืดจากการทานอาหารธรรมดา แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การที่มีแก๊สในช่องท้องมากเกินไปอาจเป็นสัญญาณเตือนของร่างกายเกี่ยวกับอาการรุนแรงที่อาจตามมา โดยสามารถเป็นสัญญาณของภาวะต่าง ๆ ต่อไปนี้
- โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease : GERD)
- โรคไอบีเอส หรือโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome : IBS)
- ปัญหาการดูดซึมสารอาหารบางชนิดของร่างกาย
- แพ้แลคโตส
- แพ้ฟรุกโตส
- อาหารเป็นพิษ
- โรคในช่องท้อง
- ไข้หวัดลงท้อง
- การเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มากเกินไป
- ลำไส้อุดตัน
การที่เด็ก ๆ ที่แก๊สในท้องเป็นจำนวนมากนั้น โดยทั่วไปมักจะเรียกว่า “ท้องอืด” แก๊สที่อยู่ในช่องท้องจะประกอบไปด้วย มีเทน ไนโตรเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งร่างกายของเด็ก ๆ สามารถขับแก๊สเหล่านั้นออกมาได้จากการเรอ หรือผายลม นอกจากนี้การแก๊สที่ถูกขับออกมาจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทานเข้าไปนั่นเอง
ผักผลไม้ทำให้เด็กท้องอืด
โดยทั่วไป ผักและผลไม้ที่ทำให้เกิดแก๊สนั้นคือผัก ผลไม้ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ อาทิ ฟรุกโตส แลคโตส ราฟฟิโนส และซอร์บิทอล เป็นต้น หรือที่มีไฟเบอร์ที่ละลายได้น้ำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถย่อยได้ด้วยในขั้นตอนในกระเพาะอาหาร แต่จะไหลลงสู่ลำไส้แทน เป็นเหตุทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้นั้นย่อยสลายแทน ซึ่งนั่นทำให้เกิดแก๊ส และทำให้ท้องอืดนั่นเอง โดยผักผลไม้ทำให้เด็กท้องอืด มีดังต่อไปนี้
1. พืชตระกูลถั่ว
ถั่ว หรือพืชที่อยู่ในตระกูลของถั่วนั่นมีน้ำตาลเชิงซ้อนเป็นส่วนประกอบหลัก ที่เรียกว่า ราฟฟิโนส (Raffinose) ซึ่งร่างกายของเรานั้นไม่สามารถย่อยได้ และนอกจากนี้ในพืชตระกูลถั่วยังเป็นพืชที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ และการทานไฟเบอร์จำนวนมากนั้นจะทำให้เพิ่มแก๊สในช่องท้องได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่ละถั่วก็มีความเป็นแก๊สที่แตกต่างกันออกไป ควรทานแต่พอดีจะดีกว่า
2. ผักตระกูลกะหล่ำ
ผักตระกูลนี้ประกอบไปด้วย กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก กะหล่ำดาวบรัสเซลส์ และอื่นๆ อีกหลายชนิด ซึ่งผักในตระกูลกะหล่ำจะอุดมไปด้วยราฟฟิโนส และไฟเบอร์จำนวนมาก นอกจากนี้ยังรวมถึงหน่อไม้ฝรั่ง ที่ถ้าหากรับประทานในจำนวนมาก อาจทำให้เกิดแก๊สที่มีกลิ่นฉุนรุนแรงได้
บทความที่น่าสนใจ : กินกะหล่ำปลีแล้วเป็นหมัน จริงหรือไม่? เลิกกินเลยดีไหม?
3. หัวหอม
หัวหอมเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตใต้ดินที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ สามารถทานได้ทั้งแบบสด และแบบปรุงสุกแล้ว โดยในหัวหอมนั้นอุดมไปด้วยฟรุตโตส และไฟเบอร์ที่สามารถทำให้ท้องอืดได้ นอกจากนี้ในบางคนอาจมีความอ่อนไหวกับการทานหัวหอมดิบเป็นอย่างมาก หากได้รับประทานเข้าไปแล้วก็จะพบอาการท้องอืด และอาการไม่สบายท้องอื่น ๆ รวมด้วย ดังนั้นหากคนที่ชอบทานหัวหอม แต่ไม่อยากท้องอืด ควรทำการนำหัวหอมมาปรุงสุกก่อน เพื่อลดผลกระทบดังกล่าวได้
4. แอปเปิล
ผลไม้ที่เด็ก ๆ นิยมรับประทานเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน และลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งบางชนิดได้ แต่สำหรับบางคนอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ เพราะในแอปเปิลนั้นมีฟรุกโตส และปริมาณไฟเบอร์ที่สูง ถ้าหากเด็ก ๆ เคี้ยวไม่ละเอียดแล้วหละก็จะทำให้การย่อยของแอปเปิลในท้องเราเกิดความล่าช้า และทำให้เกิดการหมักอยู่ในลำไส้ใหญ่ จนเกิดแก๊ส และท้องอืดในที่สุด
5. กระเทียม
หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่ากระเทียมนั้นสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ ถือว่าเป็นผัก และเป็นยาเพื่อสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นกระเทียมก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีองค์ประกอบเป็นคาร์โบไฮเดรต น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวและโมเลกุลคู่รวมหลากชนิด (FODMAPs) ที่มีผลทำให้ท้องอืด เรอ หรือมีแก๊สในระบบทางเดินอาหารเป็นจำนวนมากได้ นอกจากนี้สารที่อยู่ในกระเทียมอาจส่งผลทำให้คนแพ้ และทานกระเทียมไม่ได้เช่นกัน
6. ผักโขมดิบ
ปริมาณไฟเบอร์ที่ละลายย้ำได้มีอยู่มากในผักโขมดิบ ทำให้เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการท้องผูก แต่สารเหล่านี้ก็ทำส่งผลทำให้ท้องอืดได้เช่นกัน และถ้าหากเด็ก ๆ มีอาการแพ้โอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide) ที่จะมีในผักใบเขียวเท่านั้น ก็อาจทำให้อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวโพด
ของโปรดของเด็ก ๆ อีกหนึ่งอย่าง ซึ่งในผักสีเหลืองนอกจากจะอุดมไปด้วยแอลฟาแคโรทีน เบต้าแคโรทีน และคริบโตแซนทีน เป็นแหล่งของวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็น และสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีคาร์โบไฮเดรตบางชนิดที่ไม่สามารถย่อยได้อย่างง่ายรวมอยู่ด้วย ซึ่งนั่นเป็นเหตุทำให้เกิดการหมักของแบคทีเรียในทางเดินอาหารเป็นเวลานานกว่าจะทำการย่อยจนหมด จึงทำให้ช่องท้องเกิดแก๊สขึ้นได้ และทำให้เกิดท้องอืดนั่นเอง
8. ผลไม้แห้ง
ผลไม้แห้งเป็นแหล่งขอไฟเบอร์ชั้นเยี่ยม แต่อาจทำให้เกิดอาการการดูดซึมของร่างกายผิดปกติ (Malabsorption) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของเด็ก ๆ มีปัญหาในเรื่องของการดูดซึมน้ำตาลธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องอืด คุณควรให้เด็ก ๆ ทานผลไม้สดมากกว่าการทานผลไม้แห้ง หรือผลไม้แปรรูป
อย่างไรก็ตามการทานผักและผมไม้นั้นก็ยังมีประโยชน์มากกว่าให้โทษสำหรับเด็ก ๆ อยู่ดี หากคุณต้องการให้เด็ก ๆ ได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเหมาะสมแล้ว แต่ก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่ควบคุมปริมาณในการทาน อย่าให้มากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลทำให้พวกเขาท้องอืด หรือมีแก๊สในช่องท้องเยอะ จนเกิดการไม่สบายตัวได้นะคะ
บทความที่น่าสนใจ :
ลูกไม่อึแบบนี้ ท้องผูกหรือเปล่าเนี่ย ลูกไม่ถ่ายได้กี่วัน แม่กลัวลูกท้องผูกเรื้อรัง
อาหาร 7 ชนิดที่แม่ต้องระวัง กินมากไปลูกน้อยท้องอืดแน่นอน!
ลูกเป็นโรต้า ท้องเสีย มีไข้ เชื้อโรคร้ายที่รุนแรง โรต้าไวรัส (Rotavirus) มีอะไรบ้าง
ที่มา : healthline, medicalnewstoday, betterhealth, eatthis
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!