TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

วิตามินเด็ก ต้องเสริมอะไรบ้าง? ทำไมเด็กถึงต้องกิน มีความจำเป็นอย่างไร?

บทความ 5 นาที
วิตามินเด็ก ต้องเสริมอะไรบ้าง? ทำไมเด็กถึงต้องกิน มีความจำเป็นอย่างไร?

วิตามินเด็ก อาหารเสริมวิตามินสำหรับเด็ก ที่คุณแม่หลายท่านแอบสงสัยว่าทำไมลูกของเราจึงต้องกิน และต้องกินอะไรบ้างถึงจะดีต่อร่างกายของพวกเขา สามารถเสริมวิตามินให้ลูกได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ และวิตามินเด็กนั้นปลอดภัยจริงหรือไม่ มาลองหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ

 

ทารกจำเป็นต้องทานวิตามินเด็กทุกคนหรือไม่?

ในกรณีส่วนใหญ่ เด็กที่ดื่มนมแม่ หรือนมเสริมสำหรับทารก ในช่วง 4-6 เดือนแรก จะถูกแนะนำให้มีการเสริมวิตามินสำหรับเด็กในปริมาณ 32 ออนซ์ต่อวัน และหลังจากอายุ 4-6 เดือน ทารกจะเริ่มทานอาหารที่มีความแข็งได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแพทย์ของคุณอาจให้คุณหยุดการให้วิตามินเด็กกับลูกน้อยของคุณ และเริ่มให้ทานเป็นอาหารบดแทน

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับการแนะนำให้ทานวิตามินเด็ก การหยุดทานวิตามินเสริม หรือการแนะนำอาหารสำหรับทารกในช่วงวัย หลังจาก 4-6 เดือนแรก แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีทารกที่มีความจำเป็นในการเสริมวิตามินตั้งแต่แรกเกิด หรือจำเป็นที่จะต้องมีการรับวิตามินต่าง ๆ ตั้งแต่ในช่วงอายุ 0-4 เดือน อาทิ ทารกที่คลอดก่อนกำหนด และมีน้ำหนักน้อยกว่า 3.3 ปอนด์ หรือ 1.5 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเล็กมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องการวิตามินและแร่ธาตุเพิ่มเติมจากนมของแม่ หรือการรับประทานเองโดยตรง แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานวิตามินเสริมควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และการแนะนำจากเภสัชกรโดยตรง

 

วิตามินเด็ก

 

วิตามินใดบ้างที่มีความสำคัญกับเด็ก

อาหารเสริม หรือวิตามินเด็ก เป็นสิ่งที่ถูกนำมาให้เด็กทารกรับประทานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพาะทารกบางคนที่ต้องการเสริมวิตามินบางชนิดเพิ่มเติมหลังจากลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือน ซึ่งวิตามินที่ทารกต้องการในช่วงแรกหลังเกิด ได้แก่

 

  • วิตามินเค

แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทารกที่มีการคลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักไม่เป็นไปตามเกณฑ์ หรือแม้แต่เด็กทั่วไปนั้นรับวิตามินเค 1 ครั้งหลังจากการคลอดไม่ได้นานนัก เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเลือดออก (Hemorrhagic disease) ซึ่งวิตามินเคเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกายของมนุษย์เราเป็นอย่างมาก ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นโมเลกุลบางอย่างที่ช่วยให้เลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม

 

  • โอเมก้า 3 / DHA

DHA เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการทางด้านสมองและดวงตาของทารก ซึ่งปกติแล้วทารกจะได้รับ DHA จากน้ำนมของคุณแม่ในช่วงของการให้นมบุตร โดยส่วนใหญ่แล้วโอเมก้า 3 นั้นจะพบมากในอาหารทะเล และเนื้อสัตว์ ซึ่งสำหรับคุณแม่ที่เป็นมังสวิรัติ หรือวีแกน อาจจะต้องพิจารณาเรื่องของการเสริม DHA เพิ่มเติม ดังนั้นคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้ทารกได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วน

 

  • วิตามินดี

ในช่วงแรกของทารกแรกเกิดมักจะได้รับวิตามินดีจากนมของแม่อยู่แล้ว ซึ่งวิตามินดีนั้นช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมและกักเก็บแคลเซียม และฟอสฟอรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยการขาดวิตามินดีนั้นอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุน และการพัฒนาการของกระดูกไม่เต็มที่ในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปีแรก

ทั้งนี้จากที่ได้กล่าวว่าในนมของแม่นั้นมีวิตามินดี แต่ไม่ใช่ปริมาณที่เพียงพอต่อทารก และทารกทุกคนควรได้รับอาหารเสริมวิตามินดี เพราะว่าอย่างน้อยทารก 1 คนควรได้รับปริมาณวิตามินดีประมาณ 32 ออนซ์ต่อวัน จึงจะเป็นปริมาณที่มากเพียงพอต่อพวกเขา

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินดี หาได้จากไหน ป้องกันโรคประสาทเสื่อมแข็งในเด็กได้จริงหรือ

 

วิตามินเด็ก

 

  • วิตามินบี 12

คุณแม่หลายท่านทราบเป็นอย่างดีว่าวิตามินบี 12 นั้นมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบประสาท และเซลล์เม็ดเลือดของร่างกายของทารกเป็นอย่างมาก และยังช่วยสร้าง DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมในทุกเซลล์ในร่างกายของเราอีกด้วย โดยการขาดวิตามินบี 12 นั้นอาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางชนิดที่เรียกว่า Megaloblastic Anemia ซึ่งส่งผลให้ทารกรู้สึกเหนื่อย และอ่อนเพลียง่ายกว่าเด็กปกติทั่วไป ทั้งนี้ทารกที่ดื่มแต่นมแม่จะมีภาวะขาดวิตามินบี 12 เมื่ออายุ 2-6 เดือน แต่อาจไม่ปรากฏอาการใด ๆ จนกว่าอายุจะถึง 6-12 เดือน โดยจะแสดงอาการดังต่อไปนี้

    • อาเจียน
    • ง่วงซึม
    • โลหิตจาง
    • เจริญเติบโตไม่เต็มที่
    • ภาวะของกล้ามเนื้อต่ำ (Hypotonia)
    • พัฒนาการล่าช้า/ ถดถอย

 

  • ธาตุเหล็ก

นมแม่ที่ทารกดื่มนั้นช่วงแรกหลังคลอดนั้นมีธาตุเหล็กต่ำมาก แต่ทารกส่วนใหญ่มักเกิดมาพร้อมกับธาตุเหล็กที่เพียงพอสำหรับการป้องกันโรคโลหิตจางอยู่แล้ว โดยสามารถป้องกันได้จนถึงอายุ 4-6 เดือน หากคุณแม่มีอาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ หรือมีการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกมีขนาดน้อยกว่า 2.7 กิโลกรัม ธาตุเหล็กสำหรับทารกอาจจะไม่เพียงพอ

ซึ่งถ้าหากลูกของคุณดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว แพทย์อาจมีการแนะนำให้ทานอาหารเสริมธาตุเหล็กในช่วงอายุ 4-6 เดือน และบริโภคจนกว่าจะเริ่มทานอาหารแข็งที่มีธาตุเหล็กได้ เช่น เนื้อปลา ถั่ว ผัก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็ก เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เสริมธาตุเหล็กให้ลูกน้อยวัย 6-12 เดือน ด้วยหลากหลาย เมนูตับสำหรับลูกน้อย

 

วิตามินเด็ก

 

ทารกที่ดื่มนมผงจำเป็นต้องทานวิตามินหรือไม่?

เมื่อพูดถึงวิตามิน และแร่ธาตุในนมผงสำหรับเด็กที่มีช่วงอายุ 0-4 เดือนนั้นตอบได้เลยว่าในนมผงเหล่านั้นมีสารอาหารเพียงพอ เพราะนมผงเหล่านั้นมีการคำนวณสูตร และได้รับการเสริมวิตามินดี ธาตุเหล็ก และสารอาหารอื่น ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามทารกจะต้องได้รับนมในปริมาณ 32 ออนซ์ต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารเหล่านั้นอย่างเพียงพอในช่วงวัยของพวกเขา และสิ่งที่ควรระวังคือ ไม่ควรผสมวิตามิน และธาตุเหล็กลงในผลิตภัณฑ์นม หรืออาหารที่ให้ทารกดื่มหรือทานเด็ดขาด เพราะอาหารเหล่านั้นจะทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุลดลง

 

วิธีเลือก วิตามินเด็ก ควรเลือกอย่างไรดี

วิตามินเด็ก หรืออาหารเสริมของเด็กทารกมีมากมายหลายยี่ห้อที่ถูกขายในห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่การขายในรูปแบบออนไลน์ โดยแต่ละชนิดจะให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป โดยในการเลือกวิตามินเด็กที่เหมาะสำหรับลูกของคุณ คุณควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ปลอดภัยสำหรับทารกหรือไม่
  • วิตามินที่ได้รับการแนะนำเด็กรับประทานได้หรือไม่
  • ราคาของผลิตภัณฑ์
  • การปรุงแต่งรสชาติ หรือการใส่สารที่อาจเป็นอันตราย
  • คุณประโยชน์ และสารอาหารที่ถูกใส่มาในวิตามินเสริม
  • ผลิตภัณฑ์เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ หรือมีความเกี่ยวเนื่องกับสัตว์หรือไม่ (สำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ)
  • วิธีการทาน และปริมาณที่ทารกจะได้รับ

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าคุณแม่จะได้รับการแนะนำจากญาติพี่น้อง หรือแม้แต่การแนะนำจากเภสัชกรที่ร้านขายยาแล้วก็ตาม คุณแม่ควรปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ที่ดูแลทารกก่อนทุกครั้ง เพราะว่าแพทย์นั้นจะเข้าใจ และรับรู้ถึงการป่วย หรือความต้องการของทารกมากที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่า สำหรับเด็กบางคนแล้วอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินเสริมนั่นเอง

บทความจากพันธมิตร
ไม่ใช่แค่ยุงกัด...แต่คือวิกฤต เมื่อ “ไข้เลือดออก” สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งมากกว่าที่คิดในครอบครัว
ไม่ใช่แค่ยุงกัด...แต่คือวิกฤต เมื่อ “ไข้เลือดออก” สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งมากกว่าที่คิดในครอบครัว
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิตามินเด็กที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะเราไม่มีทางทราบได้เลยว่าลูกน้อยของเรานั้นต้องการวิตามินและแร่ธาตุใดบ้าง หรือบางครั้งการรับรู้ที่ช้าจนเกินไปอาจส่งผลต่อร่างกายทารกต่าง ๆ ดังนั้นการพบแพทย์หลังคลอดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ควรไปตามนัดคุณหมอทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของทารก และจะได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพของทารกได้ทันท่วงทีด้วยนะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิตามินเด็ก ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรก ลูกวัยนี้ควรกินวิตามินอะไรเสริมดี

คุณแม่ควรให้ลูกน้อยทาน วิตามิน หรือ ยาเสริมธาตุเหล็กทารก หรือไม่?

วิตามินทารก 1 ปี ต้องเพื่อเสริมอะไรบ้าง? พร้อม 10 ยี่ห้อที่แม่แนะนำว่าต้องเลือก

ที่มา : happyfamilyorganics, babycenter, NHS, whattoexpect, mamastory

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Siriluck Chanakit

  • หน้าแรก
  • /
  • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
  • /
  • วิตามินเด็ก ต้องเสริมอะไรบ้าง? ทำไมเด็กถึงต้องกิน มีความจำเป็นอย่างไร?
แชร์ :
  • 10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

    10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

  • 5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

    5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

  • Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ "ลูกน้อยปลอดภัย ไกลยุงร้ายง่ายนิดเดียว"

    Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ "ลูกน้อยปลอดภัย ไกลยุงร้ายง่ายนิดเดียว"

  • 10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

    10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

  • 5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

    5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

  • Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ "ลูกน้อยปลอดภัย ไกลยุงร้ายง่ายนิดเดียว"

    Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ "ลูกน้อยปลอดภัย ไกลยุงร้ายง่ายนิดเดียว"

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว