ปัญหาอีกหนึ่งอย่างที่คุณแม่หลายคนอาจต้องเผชิญ คือ ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม อาการทางสุขภาพจิตหลังการหย่านมบุตร ซึ่งอาการนี้มักเกิดจากการที่คุณแม่หย่านมลูกโดยที่ลูกไม่พร้อม ทำให้ลูกปรับตัวไม่ได้ คุณแม่จึงเกิดอาการซึมเศร้า และรู้สึกสูญเสียนั่นเอง วันนี้ theAsianparent Thailand จะพาไปดูว่า ซึมเศร้าหลังหย่านม เกิดจากอะไร และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง พร้อมแล้ว ไปดูกันค่ะ
ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม คืออะไร?
ซึมเศร้าหลังหย่านม เป็นปัญหาสุขภาพจิตของคุณแม่บางคนที่ต้องเผชิญหลังจากหย่านมลูก เนื่องจากการหย่านมนั้น ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พอสมควร ซึ่งคุณแม่บางคนที่หย่านมลูกเร็วเกินไป อาจต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านอารมณ์ จนทำให้รู้สึกซึมเศร้า และรู้สึกสูญเสีย จนไม่สามารถเลี้ยงลูก หรือทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ ซึ่งหากคุณแม่มีภาวะอาการนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสม หากคุณแม่มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นนอนไม่หลับ วิตกกังวล มีความคิดที่จะทำร้ายตัวเองหรือลูกน้อย คนรอบข้างต้องรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม เกิดจากอะไร?
โรคซึมเศร้าหลังหย่านม มักเกิดจากอารมณ์ และฮอร์โมนของคุณแม่ ซึ่งปกติแล้ว คุณแม่ที่เคยให้นมบุตรทุกวัน ก็จะมีความใกล้ชิด และผูกพันกับลูก แต่เมื่อต้องหยุดให้นมลูกเป็นเวลาหลายวัน ก็อาจทำให้คุณแม่รู้สึกแย่ และรู้สึกสูญเสียได้ จึงอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา นอกจากนี้ ฮอร์โมนก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะนี้เช่นกัน โดยเมื่อคุณแม่ให้นมลูก ร่างกายของคุณจะหลั่งออกซีซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี และช่วยในการเพิ่มน้ำนมด้วย รวมทั้งฮอร์โมนโปรแลคตินที่มีหน้าที่กระตุ้น และสร้างน้ำนม จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกง่วง และผ่อนคลาย หากคุณแม่หยุดให้นมลูก ก็จะทำให้ร่างกายเกิดอาการสับสน จนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านมได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคซึมเศร้า คืออะไร เป็นโรคซึมเศร้าสามารถรักษาหายได้ หรือไม่?
อาการซึมเศร้าหลังหย่านม
ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านมบุตร มักเกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่ให้ลูกหย่าเต้าไปในช่วงระยะหนึ่ง จากนั้นคุณแม่จะเริ่มมีอาการเสียใจ ซึมเศร้า และรู้สึกสูญเสียได้ โดยอาการหลัก ๆ ของภาวะซึมเศร้าหลังหย่านมลูกนั้น มีดังนี้
- นอนไม่หลับ
- ไม่อยากเลี้ยงลูก
- สูญเสียความเป็นตัวตน
- ร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล
- รู้สึกเศร้า เสียใจ หมดหวัง
- รู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ
- หมดความสนใจในสิ่งที่ชอบ
- รับประทานอาหารน้อยลง หรือมากขึ้น
- มีความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง หรือลูกน้อย
ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม เป็นนานแค่ไหน?
คุณแม่ที่มีภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม อาจใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง และต้องใช้เวลาในการปรับตัวหลังจากให้ลูกเลิกเข้าเต้า แต่หากคุณแม่มีอาการซึมเศร้าผิดปกติ มีความคิดในการอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง หรือลูกน้อย หรือเคยมีประวัติในการป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการโรคซึมเศร้าในผู้ชาย เป็นแบบไหนกัน สัญญาณซึมเศร้าในผู้ชาย?
วิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังหย่านม
หากคุณแม่กำลังมีภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม สามารถรับมือได้ด้วยการปรับวิธีการใช้ชีวิตประจำวันง่าย ๆ แต่หากคุณแม่มีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที โดยวิธีการรับมืออาการซึมเศร้าเบื้องต้นนั้น มีดังนี้
อย่างแรกคุณแม่ต้องเข้าใจสถานการณ์ก่อนว่า การที่ลูกเลิกดูดเต้านั้น หมายความว่าเขาจะไปใช้ขวดนมแทน คุณแม่จึงต้องทำใจกับความจริงก่อน ซึ่งเมื่อคุณแม่เข้าใจสถานการณ์นั้น ก็จะช่วยให้ยอมรับความจริงได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้คุณแม่สามารถจัดการกับความรู้สึกได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ฮอร์โมนเป็นปัจจัยอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้คุณแม่มีอาการซึมเศร้าหลังหย่านมลูก ดังนั้นการรับประทานยาบางชนิด จะช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่ให้กลับมาเป็นปกติ และช่วยให้จิตใจของคุณแม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาด้วยตัวเอง อาจเป็นอันตรายแก่ตัวคุณแม่เองได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา หรือสมุนไพรใด ๆ ก็ตามทุกครั้ง
การทำกิจกรรมที่คุณแม่ชื่นชอบ เป็นวิธีที่จะช่วยขจัดความเสียใจ ลดความเครียด และช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี โดยคุณแม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ทำสวน เล่นโยคะ หรือไปช้อปปิ้ง เพื่อบรรเทาอาการโศกเศร้า และเสียใจได้
-
ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม ให้ปรึกษาแพทย์
หากคุณแม่มีความผิดปกติทางอารมณ์ รู้สึกเศร้า เสียใจ นอนไม่หลับ กินอาหารไม่ลง และมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา เพราะการมีแพทย์เป็นผู้คอยให้คำปรึกษาอยู่ข้าง ๆ นั้น จะช่วยให้คุณแม่ได้รับคำแนะนำ และวิธีการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้อาการดังกล่าวหายไป และยังทำให้คุณแม่กลับมารู้สึกดีได้เหมือนเดิมด้วยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ซึมเศร้าหลังคลอด เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่คุณแม่หลาย ๆ คนอาจต้องเผชิญ
บางครั้งการที่คุณแม่ต้องเผชิญกับอาการซึมเศร้าคนเดียว อาจทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นการพูดคุยกับผู้อื่น โดยเฉพาะสามี ญาติ เพื่อนสนิท หรือคนใกล้ชิดอื่น ๆ จะช่วยให้คุณแม่สามารถระบายความในใจ และปรึกษากับอาการที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การมีคนอยู่ข้าง ๆ ก็จะคอยช่วยเหลือ และเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณแม่ในขณะที่คุณแม่มีอาการซึมเศร้าได้
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่ร่างกายของคุณแม่แล้ว ยังดีต่อสุขภาพจิตของคุณแม่อีกด้วย โดยคุณแม่สามารถออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างเช่น วิ่ง เดิน ว่ายน้ำ โยคะ พิลาทิส หรือขี่จักรยาน เป็นต้น เพื่อช่วยให้จิตใจมีสมาธิ รู้สึกสบายใจ และผ่อนคลายความเครียดได้ หากคุณแม่ออกกำลังกายวันละประมาณ 20 นาที ก็จะช่วยให้อาการซึมเศร้าหลังหย่านมลดลงได้
อีกหนึ่งวิธีการในรับมือกับอาการซึมเศร้าหลังหย่านม คือการไปนวด และฝังเข็ม ซึ่งการนวดนั้น จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้รู้สึกสบายตัว ปลอดโปร่ง และคลายเครียดได้ นอกจากนี้การฝังเข็ม ก็จะช่วยทำให้สมองได้ผ่อนคลายอีกเช่นกัน อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่นอนหลับได้มากขึ้นอีกด้วย
-
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
วิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังหย่านมวิธีสุดท้าย คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยคุณแม่ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ร่วมกับรับประทานผัก และผลไม้เป็นประจำ อีกทั้งยังควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว หากคุณแม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเหมาะสม สารอาหารบางชนิดก็จะช่วยทำให้คุณแม่คลายเครียด และลดความวิตกกังวลได้
ภาวะซึมเศร้าหลังหย่านม อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหลังจากการหย่าเต้า แต่อาการนี้ก็จะเกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น คุณแม่จึงไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป แต่หากคุณแม่มีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง มีความคิดที่จะทำร้ายร่างกายตัวเอง และลูกน้อย ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา และให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แค่เศร้า หรือเข้าข่ายเป็น “โรคซึมเศร้า” โรคซึมเศร้าในวัยรุ่น
ลูกหย่านม ทำอย่างไรให้ได้ผล ? หากลูกติดเต้าไม่ยอมดูดขวด
7 กิจกรรมต้านซึมเศร้า ในเด็ก เติมสุข พัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัว
ที่มา : momkidzone, thaibf, pobpad
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!