X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

โรคขี้เต็มท้อง ภัยร้ายใกล้ตัว อันตรายของคนชอบอั้น

บทความ 5 นาที
โรคขี้เต็มท้อง ภัยร้ายใกล้ตัว อันตรายของคนชอบอั้น

เตือนภัย!!! สำหรับคนชอบอั้น โอกาสสูงที่จะเป็น โรคขี้เต็มท้อง จนส่งผลเสียให้กับสุขภาพในระยะยาว ภัยร้ายใกล้ตัวที่คุณไม่ควรประมาท

จากเรื่องราวร้อนแรงในโซเชียล ที่นักร้องสาว ตุ๊กตา-จมาพร แสงทอง วัย 34 ปี จากเวทีประกวด The Voice ได้ออกมาโพสลงสื่อโซเชียลทั้งเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม เพื่อเตือนภัย ถึงโรคที่คุณหมอให้ชื่อว่า ” โรคขี้เต็มท้อง ”

โรคขี้เต็มท้อง มีอาการอย่างไร?

ซึ่งนักร้องสาว ตุ๊กตา-จมาพร มีการโพสต์ภาพของฟิล์มเอกซเรย์ของเธอ ผ่านทางเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อเป็นการเตือนภัย คนที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงกับเธอ จนทำให้เกิดโรคที่คุณหมอให้ชื่อว่า “ขี้เต็มท้อง” โดยอาการโดยรวมมีดังต่อไปนี้

  • มีอาการท้องผูก
  • เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  • หายใจติดขัด แน่นท้อง
  • ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
  • ช่องท้องมีเสียงดังผิดปกติ
  • ปวดท้องบริเวณใต้ซี่โครงหรือสะดือ คล้ายอาการของโรคกระเพาะ
  • ปวดเมื่อยร่างกาย และอ่อนเพลีย
  • มีลม มีแก๊สในท้องเยอะผิดปกติ หรือกดบริเวณท้องแล้วรู้สึกเจ็บ
  • ตดเปรี้ยว เรอเปรี้ยว
  • อุจจาระก้อนเล็ก แข็ง บางครั้งอาจจะมีมูกเลือดปะปนออกมาด้วย
  • เมื่อขับถ่ายแล้ว ยังรู้สึกว่ายังมีอุจจาระคั่งค้างอยู่

 

พฤติกรรมที่เสี่ยงเป็นโรคขี้เต็มท้อง

  • ขับถ่ายไม่เป็นเวลา มักจะอั้นอุจจาระบ่อยครั้ง
  • ดื่มน้ำน้อย
  • ทานอาหารที่มีกากใยน้อย
  • ทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมันมากเกิน
  • มีการออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อย
  • มีโรคประจำตัว ทำให้ขาดการดูแลเรื่องของโภชนาการ
  • ผลข้างเคียงจากการทานยาบางชนิด

 

วิธีการรักษา โรคขี้เต็มท้อง

หากมีการวินิจฉัยจากแพทย์ที่ทำการรักษาพบแล้วว่า คุณมีอาการของโรคขี้เต็มท้อง ตามแบบฉบับของ สาวตุ๊กตา จมาพร สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ การนำเอาของเสีย หรือเจ้าอุจจาระ ที่เป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ นี้ ออกให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่ให้มีผลกระทบต่อร่างกาย โดยแพทย์จะจ่ายยาระบาย ซึ่งจะเป็นยาระบายที่ไม่ส่งผลอันตรายต่อธรรมชาติของลำไส้ หลังจากนั้นจึงค่อยปรับระบบเผาผลาญให้กลับมาเป็นปกติดังเดิม

ไม่แนะนำให้ซื้อหายาถ่ายมาทานเองเด็ดขาดค่ะ เพราะตัวยาที่คุณหามา อาจจะส่งผลเสียให้กับสุขภาพของลำไส้ของคุณเองในระยะยาว

Advertisement

 

การแก้ไขระยะยาว เพื่อไม่ให้เป็นโรคขี้เต็มท้อง

  1. ฝึกถ่ายอุจจาระให้สม่ำเสมอ และเป็นเวลา เพื่อให้ร่างกายเกิดความชินกับการขับถ่าย โดยเชื่อว่าเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้า ระหว่าง 05:00 – 07:00 น.
  2. พยายามดื่มน้ำสะอาด อาจจะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้องในช่วงเช้า หลังตื่นนอน
  3. อย่ากลั้นอุจจาระ เมื่อรู้สึกปวดให้เข้าห้องน้ำขับถ่ายโดยทันที
  4. หมั่นออกกำลังกาย ให้เกิดความเคลื่อนไหว

 

เกร็ดความรู้ โรคขี้เต็มท้อง

โรคขี้เต็มท้อง ภัยร้ายใกล้ตัว อันตรายของคนชอบอั้น

ทางเพจ เฟซบุ๊ก หมอเวร ได้กล่าวถึงไวรัลดัง เกี่ยวกับเรื่องโรคขี้เต็มท้องว่า แม้ชื่อโรคจะดูน่าตลก แต่คนที่เป็นจริง ๆ จะมีอาการที่ทรมานมาก โดยโรคนี้ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ มันก็คือโรคท้องผูกประเภทหนึ่งนั่นเอง

ปกติแล้วในลำไส้ใหญ่เราเนี่ยมันจะมีหน้าที่ดูดซึมน้ำออกไปด้วย คนไหนที่ท้องผูกบ่อย หรืออั้นขี้ไว้นานๆ 3-4 วันถ่ายรอบนึง ก็ทำให้อุจจาระไปติดค้างอยู่ตามผนังลำไส้ มันถูกดูดน้ำออกไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดจากของเหลวก็กลายเป็นของแข็งแทนได้ พอแข็งมาก ๆ ก็ทำให้เราถ่ายลำบากเป็นคอมโบ้ต่อเนื่องของอาการนี้นั่นเอง

แน่นอนว่าถึงแม้จะกินข้าวเข้าไปเพิ่ม มีของล็อตใหม่เข้ามาเติม แต่ตรงปลายลำไส้ที่มันแข็งแล้ว และไม่ยอมตุ่ยออก ของใหม่ก็จะไปกองอยู่บนๆ และสะสมกองต่อไปเรื่อยๆ (ยกเว้นกรณีของใหม่ที่มันเป็นของเหลวก็อาจแทรกตัวออกไปลงโถได้ก่อน) ยิ่งปล่อยไว้นานข้างล่างก็จะยิ่งแข็ง แล้วก็จะยิ่งถ่ายยากขึ้นเป็นเงาตามตัว

“ที่สำคัญ อันนี้ขอขีดเส้นใต้เลย หากปล่อยให้มันตกค้างนานๆ ลำไส้ใหญ่ที่นอกจากดูดซึมน้ำแล้ว ก็อาจดูดซึมของเสียของสารพิษที่ตกค้างในอุจจาระกลับเข้าสู่ร่างกายได้ด้วย”

กรณีเบาๆ หน่อยก็อาจแค่รู้สึกไม่สดชื่น ปวดหัว คลื่นไส้ ไม่สบายเนื้อตัว แต่หนักๆหน่อยบางทีไอ้ที่เราอั้นไว้ ก็อาจทำให้ไปกดทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะ รวมถึงกดทับกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดความผิดปกติอื่นๆ กับร่างกายตามมาได้ด้วย เรียกว่าอั้นขี้ทีเดียวสะเทือนถึงดวงดาวก็ว่าได้
ส่วนสาเหตุการเกิดอาการแบบนี้ก็เหมือนที่บอกไปในช่วงแรก ไล่ตั้งแต่การอั้นอุจจาระบ่อยอย่างที่คุณตุ๊กตาเล่า การกินอาหารที่มีกากใยน้อย การดื่มน้ำน้อย เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด หรือกระทั่งคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย กินเสร็จแล้วก็นอน ไม่ค่อยขยับตัวให้ลำไส้ช่วยบีบตัว หรือการกินยาบางชนิดก็อาจส่งผลให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง ซึ่งกลุ่มนี้ก็ถือว่ามีความเสี่ยงให้เกิดอาการแบบนี้ได้ทั้งนั้น
ส่วนวิธีรักษา อันนี้ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน และขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ บางคนก็อาจใช้แค่ยาเหน็บส่วนปลาย บางคนแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือบางคนอาจต้องใช้ยาถ่ายช่วยด้วย ซึ่งแน่นอนว่าแค่หมวดยาถ่ายก็มีมากมายหลายชนิดแล้ว ดังนั้นถ้าเริ่มมีอาการใกล้เคียงที่เล่ามา ก็ไม่แนะนำให้ซื้อยามารักษาเองนะ เพราะบางครั้งนอกจากจะไม่หายแล้ว ยังอาจทำให้อาการหนักขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยเด้อ ไปหาหมอเถอะตรงประเด็นแน่นอน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อยากรู้มั้ย? ทำอย่างไรให้จบปัญหาท้องผูก ในแบบแม่แฮปปี้ ลูกก็แฮปปี้

ท้องผูก ขับถ่ายยาก ปรับสุขภาพด้วย ซินไบโอติก

ลําไส้อุดตันในทารก อาการของลำไส้อุดตัน ลูกกินกล้วยแล้วไม่ถ่าย ป้อนกล้วยทารก มากไปไหม?

 

ที่มา : facebookjamapornsaengthong , tnnthailand , facebookMhorwen

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
RSV ในเด็ก ไวรัสร้ายมหัตภัยเงียบ คุกคามชีวิตเด็กเล็ก
RSV ในเด็ก ไวรัสร้ายมหัตภัยเงียบ คุกคามชีวิตเด็กเล็ก
Ask the Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ  ลูกป่วยบ่อย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้สมองไม่ไบร์ท ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้อย่างไรบ้าง?
Ask the Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกป่วยบ่อย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้สมองไม่ไบร์ท ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้อย่างไรบ้าง?
ปอดจิ๋วห่างไกล โรค RSV: ความรู้ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเพื่อปกป้องลูกรัก
ปอดจิ๋วห่างไกล โรค RSV: ความรู้ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเพื่อปกป้องลูกรัก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Arunsri Karnmana

  • หน้าแรก
  • /
  • เจ็บป่วย
  • /
  • โรคขี้เต็มท้อง ภัยร้ายใกล้ตัว อันตรายของคนชอบอั้น
แชร์ :
  • หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

    หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

  • อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

    อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

  • แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

    แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

  • หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

    หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

  • อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

    อุทาหรณ์! ก้างปลาติดคอ กลืนข้าว-น้ำส้มสายชู วันรุ่งขึ้นเสียชีวิต

  • แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

    แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูกแพ้กุ้ง ตาบวมฉึ่ง ทั้งที่ปกติกินกุ้งประจำ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว