TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

เรื่อง(ไม่)ลับ สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า

บทความ 5 นาที
เรื่อง(ไม่)ลับ สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า

คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด ถ้าให้แม่ท้องต้องเลือกก็ดูจะตัดสินใจยากเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่ามาดู เรื่อง(ไม่)ลับ สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า กันก่อน

ในปัจจุบันการเลือก “วิธีผ่าคลอด” ของคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนนั้นเป็นที่ถกเถียงกันมากค่ะว่าแบบไหนดีกว่า ระหว่าง “คลอดธรรมชาติ” กับการ “ผ่าคลอด” โดยประเด็นที่ถูกยกมาเปรียบเทียบนั้นล้วนเป็นความกังวลของคุณแม่เกี่ยวกับการผ่าคลอดและการคลอดธรรมชาติ คือ “ความเจ็บตอนคลอด” กับ “การฟื้นตัวหลังคลอด” ซึ่งสำหรับคุณแม่หลายๆ คน การผ่าคลอดอาจเป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง แต่ก็เต็มไปด้วยความรักและความสุขเช่นกัน วันนี้เรามี สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า ที่รวบรวมมาจาก “กลุ่มเฟซบุ๊ก HerKid รวมพลคนเห่อลูก” มาแชร์กันค่ะ

ผ่าคลอด กับคลอดธรรมชาติ ต่างกันยังไง

สารบัญ

  • คลอดธรรมชาติ vs ผ่าคลอด ต่างกันยังไง ?
  • การคลอดธรรมชาติ (Natural birth)
  • การผ่าคลอด (C-Section)
  • เปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย “คลอดธรรมชาติ” กับ “ผ่าคลอด”
  • คลอดธรรมชาติ
  • ผ่าคลอด
  • สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า

คลอดธรรมชาติ vs ผ่าคลอด ต่างกันยังไง ?

ก่อนจะไปดูความคิดเห็นรวมถึง สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า อยากชวนคุณแม่มาเน้นย้ำความแตกต่างระหว่างการคลอดธรรมชาติ กับการผ่าคลอดกันอีกครั้งค่ะ

  • การคลอดธรรมชาติ (Natural birth)

หรือเรียกอีกอย่างว่า “active birth” คือ การคลอดลูกแบบปกติโดยคุณแม่เบ่งคลอดเองทางช่องคลอด ไม่มีการผ่าตัด เป็นการคลอดหลังจากครบกำหนดอายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 42 สัปดาห์ ซึ่งทารกจะอยู่ในท่ากลับศีรษะแล้วจะค่อยๆ เคลื่อนตัวมายังอุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมคลอดแบบธรรมชาติ

  • การผ่าคลอด (C-Section)

เป็นการคลอดที่ใช้การผ่าตัดทางหน้าท้อง โดยปกติแล้วการคลอดวิธีนี้จะเหมาะกับคุณแม่ที่มีเชิงกรานแคบ ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ หัวใจทารกเต้นผิดปกติ สายสะดือสั้น รกเกาะต่ำ ครรภ์แฝด ครรภ์เป็นพิษ มีภาวะฉุกเฉิน หรือคุณแม่มีปัญหาทางด้านสุขภาพที่ไม่พร้อมต่อการคลอดเองตามธรรมชาติ ทั้งนี้ ในการผ่าคลอดจะมีการบล็อกหลัง หรือดมยาสลบ ซึ่งทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  1. การดมยาสลบ เป็นการระงับความรู้สึกที่จะทำให้หมดสติ หรือไม่รู้สึกตัว ซึ่งจะทำโดยวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยหลังคมยาสลบแล้วคุณแม่จะหมดสติ ไม่รู้สึกเจ็บ และไม่รู้สึกตัวตลอดการผ่าตัดจนกระทั่งหมดฤทธิ์ยา

ข้อดี

  • ระหว่างที่ผ่าคลอด คุณแม่จะไม่รู้สึกตัว จึงทำให้ไม่ต้องกลัวและไม่เครียดในระหว่างที่ผ่าคลอด
  • วิสัญญีแพทย์สามารถควบคุมการหายใจ และระบบไหลเวียนได้อย่างเหมาะสม

ข้อเสีย

  • ปวดแผลมากกว่าการบล็อกหลัง เนื่องจากยาสลบจะไปกดสมองไม่ให้รับรู้ความเจ็บปวด แต่ระบบประสาทไขสันหลังยังทำงานอยู่ เมื่อหมดฤทธิ์ยาจึงรู้สึกปวดแผลมาก
  • อาจมีอาการระคายคอ เจ็บคอ เสียงแหบ ไอ เนื่องมาจากการสอดท่อช่วยหายใจ
  • ยาแก้ปวดและยาดมสลบอาจส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบลอ หรือเวียนศีรษะในช่วงพักฟื้นลังผ่าคลอด
  • ในบางกรณี ยาสลบอาจส่งผลถึงลูกน้อย ทำให้การประเมินหลังคลอดทำได้ช้ากว่าปกติ
  1. การบล็อกหลัง เป็นการฉีดยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่ เพื่อทำให้รู้สึกชาเฉพาะบริเวณกลางลำตัวไปจนถึงขา ในขณะผ่าตัดคลอด ช่วงบนลำตัวจะยังมีความรู้สึก สามารถรับรู้และสื่อสารได้

ข้อดี

  • คุณแม่จะยังรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้สึกเจ็บปวด สามารถเห็นหน้าและได้ยินเสียงร้องของลูกน้อยได้ทันทีตั้งแต่แรก
  • ฤทธิ์ของยาชาจะไปกดระบบประสาท ทำให้หลังผ่าคลอดอาจจะยังไม่เจ็บแผลในทันที

ข้อเสีย

  • หลังผ่าคลอด อาจมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
  • จะยังไม่สามารถขยับขาได้ประมาณ 2-4 ชั่วโมง
  • อาการข้างเคียงจะเกิดใน 12 ชั่วโมงแรก คือ ปัสสาวะไม่ออก คุณแม่จึงมักจะได้รับการสวนสายปัสสาวะช่วย
  • อาจมีอาการปวดหลัง หรือเมื่อยหลังในช่วงแรกหลังผ่าคลอด

ข้อดี ข้อเสีย ของการผ่าคลอด

เปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย “คลอดธรรมชาติ” กับ “ผ่าคลอด”

  ข้อดี ข้อเสีย

คลอดธรรมชาติ

  • ปลอดภัย เพราะไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ หรือบล็อกหลัง โอกาสติดเชื้อในมดลูกน้อยและมีการเสียเลือดน้อยกว่าผ่าคลอด
  • แผลมีขนาดเล็ก โดยเฉพาะท้องแรก ซึ่งส่วนใหญ่แผลฝีเย็บที่ช่องคลอดจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 2-4 เซนติเมตรเท่านั้น
  • ฟื้นตัวได้รวดเร็ว เนื่องจากมีแผลฝีเย็บที่เล็ก คุณแม่จึงเจ็บไม่นาน ลุก นั่ง เดินได้หลังการคลอด และพักฟื้นไม่นาน
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้ ทารกจะได้ภูมิคุ้มกันจากเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดของแม่ และได้รับ Probiotic มากกว่าการผ่าคลอด
  • ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาคลอดล่วงหน้าได้
  • เจ็บครรภ์ระหว่างรอคลอดนาน
  • มีโอกาสใช้เครื่องดูดสุญญากาศ หรือคีม หากคุณแม่หมดแรงเบ่ง
  • หากทารกมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ หรือเชิงกรานคุณแม่แคบอาจทำให้การคลอดติดขัดได้

ผ่าคลอด

  • ไม่ต้องรอคลอดนาน ไม่ต้องทนเจ็บระหว่างรอคลอด เพราะไม่ต้องรอให้ปากมดลูกเปิด โดยอาจใช้เวลาผ่าตัดเพียง 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
  • กำหนดวัดคลอดได้ ดูฤกษ์และเลือกวันเวลาคลอดได้ โดยระยะที่เหมาะสมคืออายุครรภ์ 38 สัปดาห์ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความแข็งแรงของทารกเป็นหลัก
  • ลดการยืดหย่อนของเชิงกราน เพราะไม่ต้องใช้แรงเบ่งเหมือนคลอดธรรมชาติ
  • มีความปลอดภัยสูง แพทย์จะต้องหารือและวางแผนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ฝ่าย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน และสามารถแก้ไขให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
  • ลดการเจ็บปวดขณะคลอด ด้วยการดมยาสลบ หรือบล็อกหลัง ขณะผ่าคลอดคุณแม่จึงไม่เจ็บ และไม่ต้องออกแรงเบ่ง
  • ลดความเสี่ยงสายสะดือถูกกดทับระหว่างทำคลอด
  • สามารถทำหมันหลังคลอดได้เลย
  • มีแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง ซึ่งต้องดูแลแผลเสมอและต้องระมัดระวังการติดเชื้อ
  • ฟื้นตัวช้าและเจ็บแผลมากกว่าการคลอดเองธรรมชาติ
  • อาจเกิดพังผืดในช่องท้อง
  • อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตกเลือดหลังคลอด หรือทารกเสี่ยงมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
  • อาจให้นมลูกหลังคลอดได้ช้ากว่าการคลอดธรรมชาติ
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการคลอดธรรมชาติ

สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก

สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า

หากมองในภาพรวมแล้ว ความกังวลของคุณแม่ตั้งครรภ์เกี่ยวกับวิธีการผ่าคลอดแต่ละแบบก็คือ ความเจ็บตอนคลอด กับ การฟื้นตัวหลังคลอด ซึ่งทำให้คุณแม่ชั่งน้ำหนักการตัดสินใจค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตาม มีคุณแม่ผ่าคลอดหลายคนที่อยากถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ จากการผ่าคลอดให้คุณแม่มือใหม่ได้รับรู้ มาดู สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า ที่รวบรวมมาจาก “กลุ่มเฟซบุ๊ก HerKid รวมพลคนเห่อลูก” กันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

  • ไม่มีอะไรเจ็บเท่าปวดท้องคลอดค่ะ แผลผ่า ช่วงเวลาที่ผ่า ชิวมาก สบายมากค่ะ ปวดท้องทรมานมากค่ะ มดลูกเปิดช้ายิ่งทรมาน การปวดท้องคลอด รอคลอด ยาเร่งคลอด กระตุ้นคลอดตลอดเวลา มันคือที่สุดแล้ว เจ็บแผลผ่ายังไงก็ยังน้อยกว่า
  • ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นค่ะ ฉีดยาชาบล็อกหลังไปคือไม่รู้สึกอะไรเลย ถอดสายฉี่ปุ๊บ ฝึกเดินปุ๊บปั๊บ แต่แรกๆ แผลยังไม่หายจะมีจี๊ดๆ บ้างค่ะ
  • ชอบผ่ามากกว่า ไม่ต้องทนปวดเหมือนใจจะขาด รู้เวลาที่แน่นอน ลูกไม่เสี่ยง บ้านนี้น้องคน 2 เกือบแย่เพราะน้ำคร่ำเริ่มแห้ง
  • ตอนบล็อกหลังไม่ทรมานเท่าตอนช่วงล่างไม่รู้สึกอะไรเลย มันเป็นฟีลแบบทรมานอึดอัดที่บริเวณตั้งแต่ใต้ราวนมลงไปไม่รู้สึกอะไรเลย (อาจจะแล้วแต่คน) ไม่เจ็บท้อง แต่เจ็บแผลผ่า ไอ ขำ ทรมานสุดๆ ฟื้นตัวช้ากว่าคลอดธรรมชาติ ใส่แผ่นรัดหน้าท้องช่วยประคองอาการได้เยอะ
  • ผ่าเถอะค่ะไม่เจ็บเลย ใครบอกคลอดเองดีกว่า นอนเจ็บคลอดอยู่ครึ่งวันไม่ออก เร่งคลอด 12 ชั่วโมงยังไม่ออก สรุปต้องผ่า (น้องตัวใหญ่ แม่คลอดเองไม่ได้) ตอนผ่านอนคุยกับหมอพยาบาลสนุกมากค่ะ มีอาการอะไรแจ้งเลยตอนผ่า เขาจะปรับยาให้ หลังผ่าเจ็บทนไหว+ทำหมันถอดสายฉี่รีบใส่แผ่นรัดหน้าท้อง รีบเดิน แข็งแรงไวค่ะ ออก รพ. เดินเก็บบ้านเลี้ยงลูกทำทุกอย่างเองจนลืมว่าผ่าคลอดมา แผ่นรัดหน้าท้องช่วยได้เยอะค่ะ
  • ทำจมูกเจ็บกว่าเยอะ ไปปวด ไม่เจ็บ เลือกวันเกิดลูกได้
  • ตอนผ่าชิวมาก ผ่านมา 8 ปี 11 เดือน 28 วัน ก็ยังปวดหลังง่ายมาก
  • ต้องมีแผ่นรัดหน้าท้องค่ะ ช่วยชีวิตมากๆ ใส่แล้วถึงเดินคล่อง
  • คลอดเองน้ำหนักลดไวมาก ผ่าคลอดน้ำหนักค้าง
  • คลอดธรรมชาติปัญหาน้อย เจ็บก่อนคลอด เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่ผ่าคลอดหลังคลอดมันทรมานนาน
  • จากประสบการณ์เคยคลอดแบบธรรมชาติกับผ่าคลอด (1) คลอดธรรมชาติจะเจ็บปวดท้องขณะตอนรอคลอด แต่หลังจากคลอดธรรมชาติจะฟื้นตัวเร็วกว่าผ่าคลอด หน้าท้องยุบเร็วขึ้นกว่าการผ่าคลอด ไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ (2) การผ่าคลอดไม่เจ็บปวดท้อง แต่หลังจากหมดฤทธิ์ยานั้นก็เจ็บปวดแผลมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทำหมันด้วย แต่หน้าท้องไม่ยุบเหมือนตอนคลอดธรรมชาติเลย แถมยังมีอาการเจ็บจี๊ดๆ ที่ท้องเป็นบางครั้งเหมือนแผลยังไม่หายดี ขนาดผ่าคลอดมาปีนึงแล้วยังรู้สึกเจ็บเจ็บอยู่เลย แถมยังมีอาการปวดหลังด้วยบางครั้ง

สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า

การคลอดแต่ละรูปแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะคะ ซึ่งการจะเลือกคลอดแบบไหนนั้นอยากให้คุณแม่คำนึงถึงความจำเป็นและสภาพร่างกายของตัวเอง รวมถึงสุขภาพของทารกในครรภ์เป็นหลักค่ะ โดยควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลเพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสม รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนกระทั่งหลังคลอดด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพของลูกน้อยค่ะ

 

ที่มา : HerKid รวมพลคนเห่อลูก , www.vimut.com , www.paolohospital.com , www.khonkaenram.com , www.samitivejhospitals.com , www.sikarin.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความจากพันธมิตร
เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก

ฤกษ์มงคล ฤกษ์ผ่าคลอด 2568 ครึ่งปีแรก ให้ลูกน้อยรับพลังบวกตั้งแต่เกิด

ผ่าคลอด น้ำคาวปลาจะหมดตอนไหน ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดยังไงดี

ผ่าคลอด ห้ามยกของหนักกี่โล หลังคลอดกี่วันออกแรงเยอะ ๆ ได้

8 เคล็ดลับ แม่ผ่าคลอด ฟื้นตัวเร็ว แผลสวย หายไว ร่างกายแข็งแรง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • ผ่าคลอด
  • /
  • เรื่อง(ไม่)ลับ สิ่งที่แม่ผ่าคลอดอยากบอก กับคนที่ไม่เคยผ่า
แชร์ :
  • วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

    วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

  • เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    บทความจากพันธมิตร

    เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

    ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

  • วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

    วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

  • เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    บทความจากพันธมิตร

    เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

    ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว