TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ผ่าคลอดกี่วันเดินได้ เคล็ดลับการเดินหลังผ่าคลอด ฟื้นตัวเร็ว แผลหายไว

บทความ 5 นาที
ผ่าคลอดกี่วันเดินได้ เคล็ดลับการเดินหลังผ่าคลอด ฟื้นตัวเร็ว แผลหายไว

ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการเดินหลังผ่าคลอด ผ่าคลอดกี่วันเดินได้? ควรเดินอย่างไร? มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรให้แผลหายเร็ว? และปัจจัยอื่น ๆ ที่คุณแม่ควรรู้

หลังจากการผ่าคลอด สิ่งหนึ่งที่คุณแม่หลายคนสงสัยและอยากรู้คำตอบคงหนีไม่พ้นเรื่องการเดิน ว่าจะสามารถกลับมาเดินได้ตามปกติเมื่อไหร่ ผ่าคลอดกี่วันเดินได้ เพราะการเดินหลังผ่าคลอดนั้นสำคัญมาก ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และยังช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้นอีกด้วย

บทความนี้จะพาคุณแม่ไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการเดินหลังผ่าคลอด ผ่าคลอดกี่วันเดินได้? ควรเดินอย่างไร? มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรให้แผลหายเร็ว? และปัจจัยอื่น ๆ ที่คุณแม่ควรรู้

 

ทำไมการเดินหลังผ่าคลอดจึงสำคัญ?

การเดินเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดอาการบวม ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอีกด้วย นอกจากนี้ การเดินยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย ข้อมูลจาก Medicine.net ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการลุกเดินเร็วต่อการฟื้นตัวของคุณแม่ ดังนี้

  1. ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน: การนอนนิ่งๆ นานๆ ทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง และเพิ่มความเสี่ยงที่ลิ่มเลือดจะก่อตัวในหลอดเลือดดำที่ขา ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากลิ่มเลือดเคลื่อนที่ไปอุดตันที่ปอด การลุกเดินคือวิธีป้องกันที่ดีที่สุด
  2. กระตุ้นการทำงานของลำไส้: การผ่าตัดและยาสลบทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง การเดินจะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้กลับมาทำงานปกติ ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง และช่วยให้คุณแม่ผายลมหรือขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  3. ลดการเกิดพังผืด: การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยป้องกันการเกิดพังผืดในช่องท้อง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้องเรื้อรังในอนาคต
  4. ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต: ช่วยให้เลือดนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงบริเวณแผลผ่าตัดได้ดีขึ้น ทำให้แผลสมานตัวและหายเร็วยิ่งขึ้น
  5. ฟื้นฟูสภาพจิตใจ: การได้ลุกออกจากเตียงและเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดและทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่น มีพลังในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น

 

ผ่าคลอดกี่วันเดินได้

 

ผ่าคลอดกี่วันเดินได้? ผ่าคลอดกี่ชั่วโมงเดินได้?

วันแรกหลังผ่าคลอด คุณแม่ควรขยับตัวให้เร็วที่สุดหลังคลอด พยายามขยับตัวเบาๆ บ่อยๆ เช่น ลุกนั่ง หรือยืนข้างเตียง เพื่อช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายกลับมาเป็นปกติเร็วขึ้น ลดอาการท้องอืด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด เดินเล่นเบาๆ จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก แต่ควรเดินช้าๆ และระวังไม่ให้แผลกระทบกระเทือน หากรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลหรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรแจ้งพยาบาลทันที

วันที่ 2 เป็นต้นไป สามารถลุกเดินไปห้องน้ำ อาบน้ำได้ แต่ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป คุณแม่จะรู้สึกเจ็บแผล เป็นเรื่องปกติ แต่หากเจ็บมาก ควรแจ้งพยาบาล

สัปดาห์ที่ 1 คุณแม่ส่วนใหญ่จะสามารถเดินไปรอบๆ บ้านได้ด้วยตัวเอง แต่ยังควรหลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ

สัปดาห์ที่ 2-6 สามารถเดินได้ไกลขึ้นและนานขึ้น อาจเริ่มเดินเบาๆ นอกบ้านได้ ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก (ที่หนักกว่าลูกน้อย) และการออกกำลังกายที่ใช้แรงกระแทก

วิธีการเดินหลังผ่าคลอดอย่างถูกวิธี

หลังจากการผ่าคลอด การเดินเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่การเดินหลังผ่าคลอดนั้นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเปิดออกและเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ดังนั้นมาเรียนรู้วิธีการเดินหลังผ่าคลอดอย่างถูกวิธีกันค่ะ

  • วิธีลุกจากเตียงหลังผ่าคลอด ให้คุณแม่ขยับตัวช้าๆ ค่อยๆ งอเข่าทั้งสองข้าง แล้วใช้มือทั้งสองข้างดันตัวขึ้นมาจากเตียง หลีกเลี่ยงการบิดตัวแรงๆ
  • ท่าทางการเดินหลังผ่าคลอด ให้คุณแม่เดินตัวตรง ค่อยๆ ก้าวช้าๆ ไม่ควรก้มหรือเงยหน้าขึ้นลงบ่อยๆ ระวังมึนศีรษะ ในช่วงแรกอาจใช้ไม้เท้าหรืออุปกรณ์ช่วยเดินเพื่อช่วยในการทรงตัว
  • ท่าทางการนั่งหลังผ่าคลอด ให้คุณแม่หาเก้าอี้ที่นั่งสบาย และมีพนักพิง ค่อยๆ ลงนั่ง โดยใช้มือทั้งสองข้างช่วยพยุง หลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ ในท่าเดิม

การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ และระมัดระวัง โดยเฉพาะเวลาลุกนั่ง ยืน หรือเดิน จะช่วยลดแรงกดทับบริเวณแผล ทำให้แผลไม่ตึงและเจ็บ

ผ่าคลอดเดินเยอะได้ไหม

การเดินหลังผ่าคลอดควรเป็นการเดินที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรเดินเยอะเกินไปในช่วงแรกๆ เนื่องจากอาจทำให้แผลปริได้ ควรเริ่มเดินเบาๆ ภายในห้องก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะทางในการเดินทีละน้อย คุณแม่ควรฟังสัญญาณร่างกาย หากรู้สึกเจ็บปวด ควรหยุดพักทันที 

 

ผ่าคลอดกี่วันเดินได้

ผ่าคลอดกี่วันเดินทางไกลได้

การเดินทางไกลหลังผ่าคลอดควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน เพราะการเดินทางไกลอาจต้องนั่งนานๆ และอาจทำให้แผลปริออกได้ โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้รอจนกว่าแผลหายดีและร่างกายแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเดินทางไกลหลังผ่าคลอด

  • สภาพร่างกาย หากคุณแม่ฟื้นตัวเร็ว แผลหายดี ก็สามารถเดินทางได้เร็วขึ้น
  • ระยะทาง การเดินทางใกล้หรือไกลก็มีผลต่อการตัดสินใจ
  • พาหนะ การนั่งรถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน ก็มีผลต่อความสะดวกสบายในการเดินทาง

คำแนะนำก่อนเดินทางไกลหลังผ่าคลอด

  • ปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทาง แพทย์จะประเมินสภาพร่างกายและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
  • เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมยา พยาบาล และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง
  • เลือกที่นั่งที่สะดวกสบาย เลือกที่นั่งที่กว้างขวาง เพื่อให้สามารถนั่งพักผ่อนได้สะดวก
  • ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
  • ขยับร่างกายบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด

ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังผ่าคลอด?

ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังผ่าคลอดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายก่อนการผ่าคลอด ประเภทของการผ่าคลอด และการดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด โดยทั่วไป อาจใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ในการฟื้นตัว

  • อายุ คุณแม่ที่อายุน้อยมักจะมีการฟื้นตัวที่เร็วกว่า
  • สภาพร่างกายก่อนการผ่าคลอด หากคุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงก่อนการผ่าคลอด ก็จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ประเภทของการผ่าคลอด ประเภทของการผ่าคลอดและความซับซ้อนของการผ่าตัดก็มีผลต่อระยะเวลาในการฟื้นตัว
  • ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าคลอด หากมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น ก็อาจจะทำให้การฟื้นตัวล่าช้าออกไป

สิ่งที่ควรระวังหลังผ่าคลอด

หลังผ่าคลอด หากดูแลตัวเองไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ เช่น แผลติดเชื้อ แผลปริ หรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย ดังนั้น คุณแม่จึงควรให้ความสำคัญหลังผ่าคลอด ต้องระวังอะไรบ้าง ดังนี้

 

ผ่าคลอดห้ามยกของหนัก

 

  • การยกของหนัก การยกของหนักอาจทำให้แผลเปิดออกได้ ควรหลีกเลี่ยงการยกของที่มีน้ำหนักเกินกว่าน้ำหนักตัวของลูกน้อย
  • การเดินนานเกินไป ควรเดินในระยะทางที่เหมาะสม และพักผ่อนเป็นระยะๆ
  • การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง ควรหลีกเลี่ยงการวิ่ง แอโรบิก และการออกกำลังกายอื่นๆ ที่จะเน้นบริเวณสะโพกหรือพื้นเชิงกราน เนื่องจาก กล้ามเนื้อและข้อต่อเหล่านั้นยังคงรักษาตัวอยู่ และการออกกำลังกายอย่างหนักอาจขัดขวางการฟื้นตัวได้
  • การบิดตัวหรือหมุนตัวแรง การเคลื่อนไหวที่รุนแรงอาจทำให้แผลปริได้ รวมถึงการบิดตัวที่เกิดขึ้นระหว่าง การออกกำลังกาย โยคะพิลาทิสและการเต้นรำ
  • การก้มหรือเงยหน้าขึ้นลงบ่อยครั้ง การเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดแรงดันที่บริเวณแผล
  • การใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น เสื้อผ้าที่รัดแน่นอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและกดทับแผล
  • การมีเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์หลังผ่าคลอด

สัญญาณอันตราย เมื่อไหร่ที่ควรหยุดพักและปรึกษาแพทย์

แม้การเดินจะมีประโยชน์ แต่หากมีอาการเหล่านี้ควรหยุดพักและรีบปรึกษาแพทย์ทันทีนะคะ

  • มีอาการปวดแผลรุนแรงขึ้นอย่างกะทันหัน
  • เลือดออกจากช่องคลอดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือมีสีแดงสด
  • แผลผ่าตัดมีอาการบวม แดง ร้อน หรือมีหนองซึม
  • รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือหายใจติดขัดขณะเดิน
  • มีอาการปวด บวม แดงบริเวณน่องขาข้างใดข้างหนึ่ง (อาจเป็นสัญญาณลิ่มเลือดอุดตัน)

การฟื้นตัวของคุณแม่แต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการ “ฟังเสียงร่างกาย” ของตัวเอง ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น และไม่หักโหมจนเกินไป การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอ จะทำให้คุณแม่กลับมาแข็งแรงพร้อมดูแลเจ้าตัวน้อยได้อย่างเต็มศักยภาพค่ะ

สิ่งที่คุณแม่ควรทำเพื่อเร่งการฟื้นตัว

การผ่าคลอดเป็นการผ่าตัดใหญ่ ร่างกายจึงต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการฟื้นตัว ได้แก่ การพักผ่อน อาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลแผลให้สะอาด มาดูกันว่าแต่ละปัจจัยมีบทบาทอย่างไรบ้าง

บทความจากพันธมิตร
เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
Plentitude เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plenty Protein โปรตีนพืชสําหรับคุณแม่ ส่งต่อสารอาหารจากแม่ไปสู่ลูกพร้อมช่วยบํารุงนํ้านม
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • รับประทานน้ำซุปกระดูก อุดมไปด้วยกรดอะมิโน เช่น โพรลีนและไกลซีน ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตคอลลาเจนและมีประโยชน์ต่อการรักษาผิว น้ำซุปมีเจลาตินซึ่งมีประโยชน์ต่อการรักษาแผลและสุขภาพผิว ควรรับประทานน้ำซุปที่มีคุณค่าทางโภชนาการและแร่ธาตุสูงอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อวัน
  • เติมน้ำให้ร่างกาย ผู้หญิงหลายคนมักมีอาการท้องผูกหลังการผ่าตัดคลอด ซึ่งอาจสร้างความไม่สบายและเจ็บปวดได้ ดื่มน้ำสะอาดให้มากเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
  • ออกกำลังกายเบาๆ หลังจากที่แผลหายดีแล้ว คุณแม่สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ เช่น เดิน เดินเร็ว หรือทำโยคะ
  • ดูแลแผลให้สะอาด ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่แกะแผลและระว้งอย่างให้แผลโดนน้ำ
  • ใส่ผ้ารัดหน้าท้อง ช่วยพยุงกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้แผลผ่าตัดไม่ถูกดึงรั้ง ช่วยลดอาการเจ็บปวดและช่วยให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย
  • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ หากมีอาการปวดมากขึ้น มีไข้ หรือมีเลือดออกจากแผล ควรรีบไปพบแพทย์

หลังผ่าคลอด กินอะไรให้ฟื้นตัวเร็ว

อาหารที่คุณแม่รับประทานหลังผ่าคลอดนั้น มีผลต่อการฟื้นตัวอย่างมาก หากคุณแม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ร่างกายก็จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แผลก็จะหายเร็วขึ้น และมีพลังงานในการดูแลลูกน้อย มาดูกันว่าคุณแม่หลังคลอดควรกินอย่างไร

 

หลังคลอดกินอะไรให้ฟื้นตัวเร็ว

 

  • กินอาหารที่มีประโยชน์
    • โปรตีน ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น อาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว
    • วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น อาหารที่มีวิตามินซี เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว
    • ธาตุเหล็ก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน อาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น เนื้อแดง ตับ
    • ใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยหลังผ่าคลอด อาหารที่มีใยอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายขับของเสีย และช่วยให้เลือดไหลเวียนดี
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารรสจัดอาจกระตุ้นให้คุณแม่เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้
  • ปรึกษาแพทย์หรือโภชนากร เพื่อวางแผนอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

 

หลังผ่าคลอดหากคุณแม่ไม่มีอาการผิดปกติอะไรควรลุกเดินภายใน 24 ชั่วโมง แต่ควรเดินเบาๆ และระยะใกล้ๆ ก่อน เพราะร่างกายต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว คุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้นด้วยค่ะ

 

ที่มา : โรงพยาบาลสมิติเวช , Medicine.net , โรงพยาบาลเมดพาร์ค

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • หลังคลอด
  • /
  • ผ่าคลอดกี่วันเดินได้ เคล็ดลับการเดินหลังผ่าคลอด ฟื้นตัวเร็ว แผลหายไว
แชร์ :
  • วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

    วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

  • เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    บทความจากพันธมิตร

    เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

    ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

  • วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

    วิจัยใหม่เผย! การฟื้นตัวหลังคลอด ไม่ใช่แค่ 6 สัปดาห์ แต่ใช้เวลาเป็นปี

  • เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    บทความจากพันธมิตร

    เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

  • ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

    ผ่าคลอด 37 สัปดาห์ได้ไหม? 37 สัปดาห์ถือว่า ครบกำหนดคลอด จริงไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว