ทั้งหมดเกี่ยวกับ อาการ และโรคระหว่างตั้งครรภ์ รวมไว้แล้วที่นี่ !
เรารวบรวมอาการทั่วไป อาการแทรกซ้อน และโรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์มาให้คุณเลือกอ่านดู พร้อมทั้งแนวทางการปฏิบัติตัวเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ด้วย
อาการ และโรคระหว่างตั้งครรภ์
ประจำเดือนคุณขาด เป็นสัญญาณแรก ที่บ่งบอกว่า คุณอาจกำลังตั้งครรภ์ แต่ยังมีอาการอื่น ๆ อีก 4 อย่าง ที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ ได้แก่ คลื่นไส้หรืออาเจียน อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย หน้าอกเปลี่ยน ยินดีด้วยค่ะ คุณกำลังจะเป็นแม่ และถ้าคุณยังไม่เคยมีประสบการณ์ล่ะก็ เรารวบรวม ทั้งหมดทั้งมวล เกี่ยวกับ อาการ และโรคระหว่างตั้งครรภ์ มาไว้ที่แล้วค่ะ
อาการ ที่พบบ่อยระหว่างท้อง
บทความ : อาการที่พบบ่อยระหว่างท้อง มีอะไรบ้างที่แม่ต้องเจอเวลาท้อง
1. แพ้ท้อง
อาการแพ้ท้อง เกิดขึ้น กับ คนท้อง ประมาณร้อยละ 50-90 และมักหายไปเองเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 14 คุณแม่ บางคนอาจมี อาการมากกว่า 3 เดือน และ ไม่ได้มีอาการ แค่ในช่วงเช้าเท่านั้น แต่อาจ มีอาการได้ตลอดเวลา ครั้นจะ ให้กินอาหาร ให้ครบถ้วน ก็อาจเป็นเรื่องยาก เรามีคำแนะนำ ที่อาจช่วย คุณได้มาฝาก
- พยายาม กินอะไรง่าย ๆ ทันทีที่ตื่นนอน เช่น ขนมปังปิ้งเปล่า ๆ หรือ ขนมปังกรอบ ธรรมดา สักชิ้นสองชิ้น
- หลีกเลี่ยง อาหารรสเผ็ด และ มัน
- หลีกเลี่ยง อาหารที่มีกลิ่น และ รสจัด
- ใส่เสื้อผ้า หลวม ๆ สบาย ๆ
- ดื่มน้ำมาก ๆ ระหว่าง มื้ออาหาร เพื่อไม่ให้ ร่างกายขาดน้ำ
- กินมื้อเล็ก ๆ บ่อย ๆ การ อดอาหาร อาจทำให้ รู้สึกคลื่นไส้มากกว่าเดิม
- กิน และ ดื่มช้า ๆ เคี้ยว อาหารให้ละเอียด
- หาอะไร รองท้อง ก่อนนอน เช่น ผลไม้ สักชิ้น กับ โยเกิร์ต
2. จุกเสียด
มักพบ ได้บ่อยในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ก่อนคลอด เมื่อเด็ก ตัวใหญ่ขึ้น เขาก็จะดันท้องคุณ และ ทำให้กรด ในกระเพาะไหลย้อนขึ้น ไปในหลอดอาหาร สิ่งที่คุณควรทำเพื่อน บรรเทาอาการ ดังกล่าวคือ
- หลีกเลี่ยง อาหารรสเผ็ด อาหารทอด และกาแฟ
- กินมื้อเล็ก ๆ หลาย ๆ มื้อ
- ดื่มน้ำ ระหว่างมื้อ แทนการดื่ม ในขณะที่ กำลังกินอาหาร
- นั่งตรง ๆ หลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยง เสื้อผ้าคับ ๆ หรือรัด ๆ
- นอน แบบ กึ่งนั่ง โดย พิงหมอน สองสามใบ
3. ท้องผูก
อาการ ท้องผูก เป็นอาการที่พบได้บ่อย ในระหว่างตั้งครรภ์ มีสาเหตุ มาจากการเปลี่ยนแปลง ของระดับฮอร์โมน และ แรงกดจากเด็กในท้อง ซึ่งส่งผล ต่อการเคลื่อนไหวของ ลำไส้ คุณควร กินอาหาร ที่มี กากใยให้เพียงพอ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ดื่มน้ำ และ ออกกำลังเพื่อ ลดอาการท้องผูก
รสชาติขมเฝื่อนในปาก
บทความ : วิธีการรักษาอาการรสขมเฝื่อนในช่องปาก
อะไรคือสาเหตุ
- คุณอาจเดาถูก สาเหตุนั่นก็คือ การตั้งครรภ์นั่นเอง คุณไม่เคยมีปัญหาแบบนี้มาก่อนจนกระทั่งคุณตั้งท้องนี่นา และเจ้ารสแย่ ๆ ก็เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนนั่นเอง ระดับเอสโตรเจนที่สูงขึ้นจะทำให้การรับรส การอยากอาหาร การรับกลิ่นได้รับผลกระทบไปหมด จมูกคุณจะไวอย่างมาก ความสามารถในการรับรสกับความสามารถในการดมกลิ่นของคุณก็มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น อะไรก็ตามที่มีกลิ่นฉุนจะทำให้ยิ่งเพิ่มรสขมเฝื่อน
- อาการบวมน้ำก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของรสขมเฝื่อนในปาก คุณอาจทราบดีว่าคุณเก็บกักน้ำไว้มากเมื่อคุณตั้งท้อง อาการบวมน้ำจะกระทบกับการทำงานของเซลล์ในร่างกาย รวมถึงปากและต่อมรับรสด้วย
วิธีแก้ไข
ในระหว่างนี้ คุณสามารถกินและดื่มอะไรบางอย่างเพื่อต้านรสขมเฝื่อนในปากได้อยู่นะ
- เครื่องดื่มที่เป็นกรดจะต้านรสขมเฝื่อนได้ นึกถึงอะไรเปรี้ยว ๆ ที่คุณชอบแล้วตุนเอาไว้ที่บ้านให้พอเลย ดื่มน้ำมะนาวหรือผลไม้เปรี้ยวอย่างส้ม สับปะรด กีวี แอปเปิ้ลเขียวก็ช่วยได้ แต่ที่สำคัญไม่ว่าจะเลือกกินเลือกดื่มอะไร อย่าให้มากเกินไปก็แล้วกันนะ
- อมก้อนน้ำแข็งไว้ในปากก็ช่วยได้นะ
- พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการเปลี่ยนวิตามินสำหรับผู้หญิงมีครรภ์ให้มีรสขมเฝื่อนน้อยลงหน่อย
- แน่นอน อย่าลืมเรื่องอนามัยช่องปากด้วย แปรงลิ้นเพื่อขจัดรสขมเฝื่อนก็ช่วยได้ ใช้น้ำยาบ้วนปากระหว่างมื้ออาหาร คุณสามารถทำน้ำยาบ้วนปากเองโดยการใช้น้ำอุ่นผสมเกลือได้ด้วยนะ
- ใช้เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชาผสมลงในน้ำเพื่อใช้ปรับค่าความเป็นกรดด่างในช่องปากคุณให้สมดุล
- หลีกเลี่ยงอาหารมีกลิ่นฉุนและอาหารทะเลในช่วงนี้
ท้องเสียระหว่างตั้งครรภ์
บทความ : ท้องเสียในช่วงตั้งครรภ์
อาการท้องเสียมักไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยอย่างอาการท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์และมักเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ อันที่จริง หากคุณมีอาการท้องเสียต่อเนื่องติดต่อกัน ไม่ว่าจะเบาแค่ไหน นานกว่าสองสามวัน คุณควรไปพบแพทย์ เพราะนอกจากจะทำให้ไม่สบายตัวแล้ว อาการท้องเสียยังสามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้คุณคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นคุณควรพยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ข้อควรทำเมื่อท้องเสีย
หลีกเลี่ยงอาหารที่รังแต่จะทำให้อาการแย่ลง เช่น ผลไม้แห้ง (ลูกพรุน) อาหารมันหรือรสจัด นม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณย่อยนมไม่ได้ คุณควรกินอาหารอ่อน ๆ เช่น กล้วย ข้าว ซอสแอปเปิ้ล ขนมปัง รวมไปถึงอาหารอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ดังนี้:
- อาหารแป้ง ๆ เช่น มันฝรั่ง ธัญพืชไม่ใส่น้ำตาล และขนมปังกรอบ
- ผัก เช่น แครอทสุก ซุปหรือน้ำแกงที่ไม่ใส่นม ก๋วยเตี๋ยว
- เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
- โยเกิร์ต โดยเฉพาะที่ยังมีจุลินทรีย์แลกโตบาซิลลัสที่ยังมีชีวิต
พัฒนาการครรภ์
- การเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์มีอะไรบ้างนะ?
- อาการคนท้องที่พบบ่อยในไตรมาสแรก
- อาการของคนท้องไตรมาสที่ 2
- 5 อาการยอดฮิตช่วงท้องไตรมาส 3
- อาการข้างเคียง 10 อย่างที่คนท้องไม่อยากเจอ
ดูแลตัวเองตอนท้อง
อาการ อื่น ๆ ความเจ็บปวดที่ต้องเจอ
- ภาวะตะคริวในช่วงตั้งครรภ์
- ความกังวลช่วงตั้งครรภ์: แรงกดช่วงเชิงกราน
- แก้อาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์
- ยาที่ต้องหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์
- ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ความเครียดกับการตั้งครรภ์
- รูปแบบการนอนมีผลต่อการตั้งครรภ์
- 5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับโรคหัด
- ท้องนอกมดลูกคืออะไร?
- วิธีการดูแลตัวเองที่บ้านตอน “ตั้งครรภ์” โดยไม่ต้องพึ่งยา
- ทำไมถึงรู้สึกเวียนหัวตอนตั้งครรภ์?
- ทำไมผู้หญิงตั้งท้องจึงมีแนวโน้มเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนปกติ?
- ทำอย่างไรเมื่อมดลูกหรือท่อนำไข่มีถุงน้ำขนาดใหญ่ตอนท้อง
- อันตรายจากโรคเหงือกอักเสบต่อลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง
- เมื่อเป็นโรคผื่นกุหลาบตอนท้อง
ออกกำลังกายผ่อนคลายความเครียดขณะตั้งครรภ์
- การบริหารสมอง: วิธีรับมือกับความเครียดระหว่างตั้งครรภ์
- ออกกำลังกายบรรเทาอาการปวดหลังขณะตั้งครรภ์
- การเกิดตะคริวบริเวณท้องระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติหรือไม่?
- 5 วิธีรับมือการเจ็บท้องคลอด
source : NHS.uk