เพราะอารมณ์ตลอดช่วงการตั้งครรภ์มีความแปรปรวนสูง ในขณะที่คุณกำลังมีความสุขและตื่นเต้นที่จะได้เป็นแม่คน คุณก็กลับมากังวลเรื่องพัฒนาการและอนาคตของลูก เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องปกติที่คุณจะกังวล แต่หากคุณกังวลเกินเหตุจนกลายเป็นความเครียดแล้วละก็ ลูกในท้องอาจได้รับผลกระทบจากความเครียดของคุณได้ คนท้องเครียด โมโหร้าย อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพลูกในครรภ์ เรามาดูกันว่าคนท้องเครียดเกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีรับมือกับความเครียดอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันค่ะ
คนท้องเครียด เกิดจากอะไร
ในช่วงตั้งครรภ์ แม่ท้องมักมีความกังวลหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย น้ำหนัก การปัสสาวะ อาเจียน คลื่นไส้ รวมถึงการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ลูกในครรภ์เกิดความผิดปกติ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้แม่ท้องมีอาการเครียดนั้น เกิดจาก 2 เหตุหลัก ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ ส่งผลให้แม่มีความเครียดและความอ่อนไหวทางอารมณ์มากขึ้น
- เกิดจากความกังวลของคุณแม่เองที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด
ผลกระทบจากความเครียดต่อแม่
สำหรับแม่ท้องที่มีความเครียดสะสมไว้นาน จนกลายเป็นความเครียดเรื้อรัง อาจส่งผลต่อร่างกายให้เกิดความเจ็บป่วย ปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และนอนไม่หลับ การใช้ชีวิตต่าง ๆ อาจเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเพราะรู้สึกเครียด อาจเกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว หลอดเลือดตีบลง ความดันโลหิตสูง เจ็บท้องก่อนกำหนด ซึ่งผลต่อร่างกายโดยตรงของคุณแม่
ผลกระทบจากความเครียดต่อเด็ก
ผลการวิจัยพบว่าลูกในครรภ์สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ต่าง ๆ ของแม่ได้จากสารเคมีที่หลั่งออกมาในกระแสเลือด หากแม่ท้องอารมณ์ดีร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความสุขหรือสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี แต่หากคุณแม่รู้สึกเครียด โกรธ โมโหร้าย ร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความเครียดหรืออะดรีนาลีนออกมา ส่งผ่านไปยังความรู้สึกลูก ทำให้ลูกรู้สึกเครียดไปด้วย
ความเครียดจากแม่เพิ่มความเสี่ยงให้ลูกน้ำหนักตัวน้อยเมื่อแรกเกิด อาจทำให้คลอดก่อนกำหนด มีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะมีความเครียดสูงกว่าเด็กทั่วไป อาจทำให้เป็นเด็กที่เลี้ยงยาก ขี้งอน โมโหง่าย ร้องไห้เก่ง และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หากแม่มีความเครียดเพียงเล็ก รู้จักอดทนต่อความเครียดในช่วงตั้งครรภ์ ก็ไม่ได้ส่งผลเสียแต่อย่างไร เพียงแต่ต้องระมัดระวังและรู้จักจัดการอารมณ์ตัวเองได้เท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : เสียลูกจากความเครียด เครียดตอนท้องอ่อน คนท้องเครียดมาก ต้องระวัง!

อันตรายจากภาวะเครียดในคนท้อง
เมื่อคุณแม่มีความเครียดมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลร้ายต่อการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ด้วย ดังนั้น คุณแม่จึงควรรู้จักอันตรายจากภาวะเครียดเพื่อป้องกันอาการเครียดมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อร่างกายและลูกน้อย
1. ร่างกายอ่อนแอ
คุณแม่ที่มีความเครียดระหว่างตั้งครรภ์มักนอนไม่หลับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายมาก ๆ เพราะหากคุณแม่นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นมาเครียดต่อ ก็อาจทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ภูมิคุ้มกันตก และเกิดอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เสี่ยงติดเชื้อ และทำให้ลูกในครรภ์ไม่แข็งแรง บางครั้งอาจถึงขั้นแท้งบุตรเลยก็ได้
2. รับประทานอาหารน้อยลง
แน่นอนว่าการรับประทานอาหารได้น้อยลงเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับคุณแม่ท้องแน่ ๆ เพราะในช่วงตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่แม่ต้องการสารอาหารมากกว่าเดิมไปหล่อเลี้ยงลูกในท้อง ดังนั้น หากคุณแม่ยิ่งเครียดมาก ไม่ยอมกินอาหารใด ก็จะทำให้ลูกได้รับสารอาหารน้อย เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ และยังเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้มากขึ้นด้วย
3. เกิดภาวะซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์
ภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 4 ของคุณแม่ตั้งครรภ์ และ 1 ใน 5 ของแม่หลังคลอด ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายและลูกในท้องมาก ๆ คุณแม่จึงต้องสังเกตตัวเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติใด ๆ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดและรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งอาการซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์ เช่น รู้สึกเบื่อทุกอย่าง รู้สึกไม่ได้รับความรักจากคนรอบข้าง อ่อนเพลีย นอนหลับยาก ทำอะไรช้าลง สมาธิสั้นลง เกิดความเครียดขึ้นรุนแรงจนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิจัยเผย สุขภาพจิตหญิงตั้งครรภ์ สำคัญ แม่ท้องซึมเศร้ามีผลต่อลูกน้อยในครรภ์!

วิธีรับมือเมื่อรู้สึกเครียดขณะตั้งครรภ์
ผลกระทบของความเครียดขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องซับซ้อน เราไม่สามารถระบุได้ว่าระดับความเครียดสูงเท่าไรถึงจะส่งผลกระทบต่อแต่ละคน เพียงแต่รู้ว่ามันส่งผลกระทบและเราสามารถสังเกตได้ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทุกชนิดที่สามารถสร้างความเครียดระหว่างท้องได้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบอย่างโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่อาจเกิดขึ้นตามมา
คุณแม่จึงควรทำความเข้าใจ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงกับร่างกายตัวเอง รวมถึงต้องหากิจกรรมคลายเครียดให้แก่ตัวเอง เพราะยิ่งคุณแม่คิดบวกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดีต่อลูกในครรภ์มากขึ้น ซึ่งวิธีรับมือกับความเครียดขณะตั้งครรภ์ มีดังนี้
- ทำกิจกรรมคลายเครียด เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ทำกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ วาดรูป จัดดอกไม้ งานศิลปะ โยคะ พิลาทิส เป็นต้น
- พยายามคิดบวก คุณแม่ควรมองโลกในแง่บวกมากยิ่งขึ้นกับทุก ๆ ปัญหาที่เจอ ก็จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้มากขึ้น
- พูดคุยกับคนอื่น การพูดคุยกับสามี คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เหมือนกัน จะช่วยให้คุณแม่ระบายสิ่งที่กังวลอยู่ และแลกเปลี่ยนความเห็นในการดูแลตัวเอง
- สร้างความสุขให้แก่ตัวเอง นอกจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว การออกไปข้างนอก ก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี เช่น ออกไปช้อปปิ้ง นัดกินข้าวกับเพื่อน ไปเที่ยว เป็นต้น
- นั่งสมาธิ การนั่งสมาธิเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวคุณแม่เองและลูกในครรภ์ เพราะระหว่างที่นั่งสมาธิ ลูกในครรภ์ก็จะได้รับความสงบ เงียบ ส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีทั้งในสมองและจิตใจ
- นึกถึงลูกในท้อง เมื่อใดที่คุณแม่รู้สึกเครียด ก็ควรนึกถึงลูกในครรภ์เสมอ เพราะการนึกถึงลูกน้อยจะช่วยให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งถ้าได้ลูบสัมผัสท้องและพูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อย ๆ จะช่วยผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องเครียดอันตราย เสี่ยงแท้งไหม? มาดูวิธีคลายเครียดของแม่ท้องกัน

วิจัยชี้ “ความเครียดตอนท้อง” ส่งผลร้ายต่อลูกน้อยมากกว่าที่คิด
ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ร่างกายเปลี่ยนแปลง จนทำให้คุณแม่หลายคนเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว แต่รู้ไหมคะว่า ความเครียดของคุณแม่ ไม่ได้อยู่แค่ที่ตัวเรา แต่ส่งตรงถึงลูกน้อยในครรภ์ได้โดยตรงเลยนะ!
ทาง theAsianparent ได้รวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือมาฝาก เพื่อให้คุณแม่ตระหนักและหันมาดูแลจิตใจตัวเองกันค่ะ
1. เครียดมาก เสี่ยงลูกเป็นสมาธิสั้น (ADHD) ถึง 2 เท่า!
มีข้อมูลยืนยันจากนักวิจัยมหาวิทยาลัย Ottawa นำโดย ดร. เอียน โคลแมน (Dr. Ian Colman) ที่พบว่า ความเครียดระดับสูงในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการสมองของทารกค่ะ
- คุณแม่ที่เครียดจัด มีแนวโน้มที่ลูกจะเกิดมาพร้อมปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว มากกว่าปกติถึง 2 เท่า
- เด็กที่ได้รับผลกระทบจากความเครียดตั้งแต่อยู่ในท้อง ประมาณ 10% อาจมีปัญหาในการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวเมื่อโตขึ้นได้ค่ะ
2. ระวังความเสี่ยงออทิสติก และโรคเรื้อรัง
ความน่ากลัวคือ ฮอร์โมนความเครียดสามารถส่งผ่านรกไปยังลูกได้ค่ะ!
- ปกติรกจะมีเอนไซม์คอยปกป้องลูกจากฮอร์โมนเครียด แต่ถ้าแม่เครียดมากเกินไป เอนไซม์นี้จะทำงานลดลง ทำให้ฮอร์โมนไม่ดีหลุดรอดไปกระทบการสร้างสมองของลูก ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะออทิสติก
- นอกจากนี้ ยังเป็นการโปรแกรมให้ลูกมีความเสี่ยงต่อ โรคอ้วน และ โรคเบาหวาน ในอนาคตอีกด้วย
3. ภูมิคุ้มกันลูกอาจอ่อนแอตั้งแต่เกิด
ความเครียดของคุณแม่ยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยด้วยนะคะ มีการศึกษาพบว่า:
- ทารกที่เกิดจากคุณแม่ที่มีความเครียดสูง อาจมีการตอบสนองต่อวัคซีนต่ำกว่าเด็กทั่วไป
- เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็น โรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองได้ง่ายขึ้น
อ่านแล้วคุณแม่อย่าเพิ่งตระหนกจนเครียดกว่าเดิมนะคะ งานวิจัยเหล่านี้บอกเราเพื่อให้เรารู้ทันและป้องกันค่ะ สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้คือ การรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง หากรู้สึกไม่ไหว อย่าเก็บไว้คนเดียว ให้ระบายกับคุณสามี เพื่อนสนิท หรือปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้ช่วงเวลา 9 เดือนนี้ เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้ที่สุดสำหรับคุณแม่และลูกน้อยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
11 กิจกรรมยามว่างของคนท้อง คนท้องเบื่ออยู่บ้าน ทำอะไรแก้เบื่อดี?
เลี้ยงลูกไม่เครียด แม่มือใหม่ เลี้ยงลูกอย่างไรให้ไม่ปวดหัว เป็นซึมเศร้า
คนท้องเครียดมาก ระวังผลเสียต่อลูก เพราะทุกครั้งที่แม่เครียดลูกจะเป็นแบบนี้ด้วย
ที่มา : Phyathai, bpk samutprakan, babyandmom, nannyproducts
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!