TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

5 ขั้นตอน วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาที

บทความ 5 นาที
5 ขั้นตอน วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาที

เมื่อทารกร้องไห้ จะทำยังไงให้ลูกสงบได้โดยเร็ว พบกับ วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาที พร้อม 5 ท่าอุ้มลูกหยุดร้องไห้ ในบทความนี้

ปัญหาหนักใจอย่างหนึ่งของคุณแม่มือใหม่ คือการที่ลูกน้อยแรกเกิดร้องไห้ โดยที่คุณแม่ไม่ทราบว่าลูกร้องไห้เพราะอะไร และจะทำยังไงให้ลูกสงบได้โดยเร็ว วันนี้เราจึงมาแนะนำ เคล็ดลับ 5 ขั้นตอน วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาทีมาฝาก

ทำไมทารกแรกเกิดถึงร้องไห้

การที่ทารกร้องไห้เป็นเรื่องปกติมาก โดยเฉพาะทารกแรกเกิดที่มักจะร้องไห้วันละประมาณ 1-4 ชั่วโมง เพื่อสื่อสารความต้องการต่างๆ ออกมา ทั้งหิว นอน ง่วง หรือไม่สบายตัว คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตและทำความเข้าใจเสียงร้องของลูกน้อย เพื่อที่จะตอบสนองต่อเสียงร้องได้ตามความต้องการ

เมื่อทารกร้องไห้ ลูกน้อยอาจต้องการสื่อสารว่า:

1. หนูหิว

ทารกส่วนใหญ่ต้องการกินนมทุกๆ สองสามชั่วโมง การร้องไห้อาจเป็นสัญญาณของความหิวในระยะหลังได้ ให้สังเกตสัญญาณเริ่มต้นของความหิว เช่น ทารกอาจเอามือเข้าปากและสัมผัสที่ปากตัวเอง

2. หนูอยากดูดอะไรสักอย่าง

หากลูกน้อยไม่หิว เขาอาจต้องการเพียงแค่ อยากดูดอะไรสักอย่าง การดูดเต้านมแม่ ดูดนิ้ว หรือดูดจุกหลอก จะทำให้ทารกรู้สึกสบายใจ 

3. หนูต้องการให้อุ้ม

อุ้มลูกน้อยไว้ที่ไหล่หรือหน้าอกของคุณแม่ ทารกที่กำลังร้องไห้สามารถปลอบโยนได้โดยการลูบหรือตบหลังเบาๆ

4. หนูเหนื่อย

ทารกที่เหนื่อยมักจะงอแง และลูกน้อยอาจต้องการนอนหลับมากกว่าที่คุณคิด ทารกแรกเกิดสามารถนอนหลับได้ประมาณ 16 ชั่วโมงต่อวัน และบางครั้งอาจมากกว่านั้น

5. หนูเปียกชื้น

ผ้าอ้อมที่เปียกหรือสกปรกอาจทำให้ลูกน้อยระคายเคือง ตรวจสอบผ้าอ้อมของลูกน้อยบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสะอาดและแห้ง

6. หนูอยากเคลื่อนไหวบ้าง

บางครั้งการโยกเบาๆ หรือการนอนในเปลไกวก็ช่วยปลอบโยนทารกที่กำลังร้องไห้ได้ คุณแม่อาจให้ลูกน้อยนอนบนเปลเด็ก หรือพาลูกน้อยขึ้นรถ เสียงเครื่องยนต์รถยนต์อาจทำให้ทารกสงบลงได้

7. หนูอยากห่อตัวมากกว่า

ทารกบางคนจะรู้สึกปลอดภัยที่สุดเมื่อได้นอนห่มผ้าบางๆ อย่างสบายตัว การห่อตัวอาจเป็นอันตรายได้ หากคุณแม่ไม่แน่ใจว่าต้องห่อตัวอย่างไร ให้ขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแลเด็กเกี่ยวกับวิธีห่อตัวที่ถูกต้อง

8. หนูร้อนหรือหนาว

โดยทั่วไป ควรให้ลูกน้อยสวมเสื้อผ้าตามสภาพอากาศ ซึ่งอาจเพิ่มหรือถอดเสื้อผ้าออกตามความเหมาะสม

9. หนูรู้สึกเครียด

การได้รับสิ่งกระตุ้นมากเกินไป หรือความตื่นเต้นมากเกินไปจากสิ่งที่เห็น เสียง หรือสิ่งอื่นๆ อาจทำให้ลูกน้อยร้องไห้ได้ ให้พาลูกน้อยไปอยู่ในที่ที่สงบกว่านี้ หรือให้ลูกน้อยนอนในเปล เปิดเสียง White Noise เช่น เสียงคลื่นทะเลหรือเสียงพัดลมไฟฟ้า อาจช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลายได้

10. หนูรู้สึกเจ็บป่วย

หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือ ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือ โคลิค ซึ่งมักทำให้ทารกเกิดอาการปวดท้องและร้องไห้เสียงดัง

วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้

5 ขั้นตอน วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาที

ข้อมูลจากคลิปของ พี่กัลนมแม่ ได้แนะนำ 5 ขั้นตอน วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาที มีอะไรบ้าง

  1. อุ้มลูกขึ้นมา 

เมื่อลูกร้องไห้ การอุ้มเป็นวิธีที่จะให้ความอบอุ่นและความปลอดภัยแก่ลูกน้อยค่ะ เพราะตลอด 9 เดือนในครรภ์แม่ ลูกน้อยคุ้นเคยกับการถูกโอบล้อมและเคลื่อนไหวไปมา การอยู่ในท่าอุ้มที่คล้ายกับการอยู่ในครรภ์จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกคุ้นเคยและปลอดภัย 

  1. ทำเสียงชู่วววเบาๆ

เวลาที่ลูกน้อยร้องไห้ เสียง “ชู่วววววว” เบาๆ มักจะช่วยให้ลูกสงบลงได้ นั่นเป็นเพราะเสียงนี้คล้ายกับเสียงที่ลูกน้อยเคยได้ยินในขณะที่อยู่ในท้องแม่ เช่น เสียงเลือดไหลเวียนในหลอดเลือด หรือเสียงการทำงานของอวัยวะภายในของแม่ ซึ่งเสียงเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกคุ้นเคยและปลอดภัย

เสียงชู่ววววว เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของ เสียง White Noise หรือเสียงที่มีความถี่สม่ำเสมอและราบเรียบ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยให้ลูกน้อยสงบได้ดีเยี่ยม เสียง White Noise อื่นๆ ที่คุณแม่สามารถนำมาใช้ได้ ได้แก่ เสียงไดร์เป่าผม เสียงฝนตก เสียงพัดลม เป็นต้น

  1. โยกตัวทารกเบาๆ

โยกตัวทารกขึ้น-ลง แบบท่าสควอช หรือโยกซ้าย-ขวาเบาๆ การเคลื่อนไหวไปมาแบบช้าๆ เหมือนคลื่นในทะเล หรือการโยกตัวขึ้นลงเบาๆ จะทำให้ลูกน้อยนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ท้องแม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นและปลอดภัยที่สุด

  1. ใช้จุกหลอกช่วย

จุกหลอกช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและสงบได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เด็กง่วงนอน หรือรู้สึกไม่สบายตัว เด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไปที่กินนมจากขวด สามารถเริ่มใช้จุกหลอกได้ เนื่องจากเด็กวัยนี้มักคุ้นเคยกับการดูดจุกนมขวดอยู่แล้ว

ส่วนเด็กที่ยังดูดเต้านมแม่ยังไม่แนะนำให้ใช้ จุกหลอกในช่วง 1 เดือนแรก เพราะอาจจะสับสนหัวนมได้ นอกจากนี้ หากลูกดูดนมจากเต้าอยู่แล้ว เต้านมแม่เป็นสิ่งที่ปลอบประโลมอาการร้องไห้ อาการเจ็บป่วย ลดความเครียดของลูกได้ดีที่สุดค่ะ

  1. สบตา

พอลูกเริ่มดูดจุกหลอกหรือเริ่มดูดนม และเริ่มสงบ ให้คุณแม่สบตาลูก เขามองเข้าไปในตา แล้วก็ทำเสียงชู่วววววว การสบตาและส่งเสียงชู่วววววไปยังลูกน้อยที่กำลังดูดนมหรือจุกหลอก เป็นวิธีง่ายๆ แต่ทรงพลังในการสร้างความผูกพันระหว่างคุณแม่กับลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ

 

5 ท่าอุ้มให้ทารกสงบ

วิธีปลอบให้ลูกน้อยสงบ เมื่อลูกน้อยร้องไห้ ด้วย 5 ท่าอุ้มหยุดลูกร้องไห้ ให้คุณแม่ได้นำไปทำตามง่ายๆ ดังนี้

1. ท่าอุ้มมาตรฐาน

เป็นท่าอุ้มที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด โดยใช้มือข้างหนึ่งประคองศีรษะและคอของลูกน้อยให้แนบชิดกับไหล่ของคุณแม่ ใช้มืออีกข้างหนึ่งรองรับก้นของลูกน้อย ท่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

ท่าอุ้มให้ทารกสงบ

เครดิต : เพจพี่กัลนมแม่

2. ท่าเครื่องบินหรือท่าจรวด

เป็นท่าอุ้มที่ช่วยลดอาการปวดท้องได้ดี โดยให้ลูกน้อยนอนคว่ำ หนีบขาลูกไว้ข้างตัวคุณแม่ มือประคองใต้คอลูก เอียงตัวออกเล็กน้อย ท่านี้จะช่วยให้แก๊สในท้องของลูกน้อยเคลื่อนตัวออกมาได้ง่ายขึ้น

ท่าอุ้มให้ทารกสงบ ท่าเครื่องบิน ท่าจรวด
บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Godmami กันแดดก้อนเมฆ คว้าชัย!  ครีมกันแดดเด็กดาวรุ่ง 'Most Promising' แห่งปี จาก theAsianparent Awards 2025
Godmami กันแดดก้อนเมฆ คว้าชัย! ครีมกันแดดเด็กดาวรุ่ง 'Most Promising' แห่งปี จาก theAsianparent Awards 2025

เครดิต : เพจพี่กัลนมแม่

3. ท่าดีดกีตาร์

ท่านี้จะช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และโคลิคได้เป็นอย่างดี โดยอุ้มลูกหันหน้าออกให้หลังลูกน้อย แนบลำตัวคุณแม่ ศีรษะลูกน้อยอยู่บนต้นแขนคุณแม่ คุณแม่กอดประคองลำตัวของลูกไว้ ขาข้างหนึ่งของลูกพาดอยู่บนแขนคุณแม่ ท่านี้แขนคุณแม่จะช่วยดันที่ท้อง ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ

ท่าอุ้มให้ทารกสงบ ท่าดีดกีต้าร์

เครดิต : เพจพี่กัลนมแม่

4. ท่าแนบหัวใจ

ท่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัยและสงบ เพราะลูกน้อยเคยได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่มาตั้งแต่ในครรภ์แล้ว โดยอุ้มลูกหันหน้าเข้าหาคุณแม่ ให้หูลูกแนบบริเวณหัวใจของคุณแม่

ท่าอุ้มให้ทารกสงบ

เครดิต : เพจพี่กัลนมแม่

5. ท่าอุ้มลูกหันหน้าเข้าหาแม่

ท่านี้ให้งอเข่าลูกน้อยขึ้นชิดกับหน้าอกคุณแม่: ท่านี้จะช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี โดยการกดเบาๆ ที่บริเวณท้องของลูกน้อย

ท่าอุ้มให้ทารกสงบ

เครดิต : เพจพี่กัลนมแม่

 

ทารกร้องไห้แบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ

แม้ว่าเด็กทารกร้องไห้ถือเป็นเรื่องปกติในการสื่อสารของลูกน้อยเพื่อบอกความต้องการ เช่น หิว นอน ง่วง หรือไม่สบายตัว แต่ถ้าหากลูกน้อยร้องไห้บ่อยผิดปกติ หรือร้องไห้แบบที่แตกต่างจากเดิม คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการเหล่านี้เพิ่มเติม เพื่อนำไปปรึกษาแพทย์

อาการร้องไห้ที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติ

  • ร้องไห้เสียงแหลมสูง อาจบ่งบอกถึงความเจ็บปวดรุนแรง เช่น ปวดหู ปวดท้อง หรือมีอาการติดเชื้อ
  • ร้องไห้ไม่หยุด แม้จะพยายามปลอบโยนแล้วก็ตาม อาจเป็นสัญญาณของความเจ็บป่วย หรือภาวะโคลิค (Colic) ซึ่งเป็นภาวะที่ทารกร้องไห้รุนแรงและนานเกินปกติ โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน
  • ร้องไห้พร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ไข้ ตัวร้อน อาเจียน ท้องเสีย ซึม ไม่กินนม หรือร้องไห้พร้อมกับงอตัว หรือเกร็ง
  • ร้องไห้ในเวลาเดิม หากลูกน้อยร้องไห้ในเวลาเดิมๆ ซ้ำๆ กันทุกวัน อาจเป็นสัญญาณของภาวะโคลิค
  • ร้องไห้พร้อมกับร้องเสียงแหบ หรือเสียงเปลี่ยนไป อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ

เมื่อไหร่ควรพาลูกไปพบแพทย์

  • ลูกน้อยร้องไห้ไม่หยุด ปลอบเท่าไหร่ก็ไม่หยุดร้อง
  • ลูกน้อยมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้ อาเจียน ท้องเสีย
  • ลูกน้อยร้องไห้เสียงแหลมสูง หรือร้องไห้พร้อมกับงอตัว
  • คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูก

คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิด หากสงสัยว่าลูกน้อยมีอาการผิดปกติ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ และไม่ว่าคุณจะโกรธหรืออารมณ์เสียที่ลูกน้อยร้องไห้แค่ไหนก็ตาม อย่าตี เขย่า หรือกระชากลูกน้อยเด็ดขาด ทารกอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส จากอาการผิดปกติจากการเขย่าตัวทารก (Shaken Baby Syndrome) หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ที่มา : mayoclinic , พี่กัลนมแม่

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ลูกบิดตัวบ่อย หลับไม่สนิท ปกติไหม แก้อาการลูกบิดตัวยังไงดี

อุ้มเรอกี่นาที อุ้มเรอถึงกี่เดือน ลูกไม่เรอแต่ตด ได้ไหม?

นมแม่ใส ลูกน้ำหนักไม่ขึ้น ทำไงดี ? 8 วิธีเพิ่มไขมันนมแม่ เพิ่มน้ำหนักลูกน้อย

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 5 ขั้นตอน วิธีทำให้ทารกหยุดร้องไห้ ภายใน 10 วินาที
แชร์ :
  • โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
    บทความจากพันธมิตร

    โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว

  • Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
    บทความจากพันธมิตร

    Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว
    บทความจากพันธมิตร

    โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 แนวคิดใหม่ ของการดูแลสุขภาพของทุกครอบครัว

  • Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่
    บทความจากพันธมิตร

    Foremost 100% Cow's Milk คว้ารางวัล Parents' Choice Best UHT 2025 สุดยอดนมในดวงใจพ่อแม่

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว