X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

น้ำพริกกะปิ 9 สูตรเด็ด วิธีทำน้ำพริกกะปิง่ายๆ อร่อยด้วย

บทความ 10 นาที
น้ำพริกกะปิ 9 สูตรเด็ด วิธีทำน้ำพริกกะปิง่ายๆ อร่อยด้วย

อาหารไทยที่เราคุ้นเคย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องจิ้ม เสมือนเป็นอาหารหลักของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันมีการปรับสูตร ให้รับประทานง่ายๆ หลายแบบ เพื่อนให้ผู้ใหญ่กินได้ และเด็กกินดี มาดูวิธีทำ น้ำพริกกะปิ แบบเผ็ดมาก เผ็ดน้อย แสนอร่อย ตามใจคนทำได้เลย

 

 

น้ำพริกกะปิ อาหารไทยโบราณ เด็ดที่เครื่องเคียง

น้ำพริกกะปิ อาหารไทยโบราณ มีเครื่องเคียงเพื่อลดความเผ็ด แต่ทราบหรือไม่ว่า คนไทยนั้นฉลาดในการรับประทานอาหาร โดยการจับเครื่องเคียงอย่างผักหลายชนิด ที่หารับประทานง่าย มากินคู่กับน้ำพริกเพื่อเติมโภชนาการให้ครบถ้วน เช่น

  • ปลาทูทอด
  • ชะอมไข่ทอด
  • ผักต้ม
  • ผัดสด
  • ผัดราดกะทิ

 

 

น้ำพริกกะปิ

สูตรโบราณ (ภาพ: www.freepik.com)

 

Advertisement

บทความที่เกี่ยวข้อง: พริกช่วยรักษาแผลได้จริงหรือ ? สรรพคุณของพริก ที่แม่ท้องควรรู้

9 สูตรเด็ด น้ำพริกกะปิ ทำง่ายๆ อร่อยด้วย

ก่อนอื่นต้องรู้จักเลือกกะปิ เพราะกะปิบางยี่ห้อหรือบางจังหวัดที่โด่งดังมักจะมีกรรมวิธีการทำกะปิแตกต่างกัน ซึ่งสามารถลองซื้อมาตำ มาชิมก่อนว่าจะเลือกกะปิมาจากแหล่งใด หากชอบกุ้งหรือเคยเยอะๆ แนะนำให้เลือกกะปิที่มาจากทางภาคใต้ หรือกะปิที่รสชาติดีสามารถทำอาหารได้หลากหลาย อาจจะชอบกะปิจากคลองโคลน …อย่าลืมว่า ก่อนทำน้ำกะปิทุกครั้ง ต้องห่อแผ่นฟรอยและเผาไฟก่อนทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่เหม็น จากนั้นเรามาดูน้ำพริกกะปิ 9 สูตรกันเลย (แต่ละสูตรจะมีปริมาณ 150 กรัม รับประทานได้ 2-3 คน)

 

1.น้ำพริกกะปิ สูตรโบราณ

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทย (กลีบเล็ก) 10 กลีบ
  • หอมแดง 2 หัว
  • พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด (เพิ่มได้ตามใจชอบ)
  • มะนาว 3-4 ลูก
  • น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
  • มะเขือพวง 10 เม็ด
  • มะอึกซอย 1 ลูก
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียม หอมแดง พริกขี้หนูสวน
  2. ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ
  3. ใส่น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานแหลม) มะเขือพวงลงไปบุบพอแตก
  4. ใส่มะอึกซอย น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
  5. ตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้

 

2. น้ำพริกกะปิ สูตรมะม่วงจี๊ดจ๊าด

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทย (กลีบเล็ก) 10 กลีบ
  • พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด (เพิ่มได้ตามใจชอบ)
  • มะม่วงแก้วสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 2 ลูก
  • น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

  1. โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียม
  2. ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ
  3. ใส่มะม่วงสับ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
  4. ตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูสวนบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้

 

 

3. น้ำพริกกะปิ กุ้งเสียบสูตรไม่เผ็ด

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมจีน 5 กลีบ
  • พริกแดงจินดา 10 เม็ด (เพิ่มได้ตามใจชอบ)
  • มะนาว 3-4 ลูก
  • น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งเสียบ 20 ตัว

 

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียม กับพริกแดงจินดา
  2. ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ
  3. ใส่น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานแหลม) น้ำมะนาว น้ำปลา
  4. น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
  5. ใส่กุ้งเสียบลงไปคลุกเคล้าและตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้
  6. ทอดไข่เจียวร้อนๆ กินกับน้ำพริกกะปิกุ้งเสียบ อร่อยมาก

 

น้ำพริกกะปิ

น้ำพริกกะปิไข่เค็ม (ภาพ: www.freepik.com)

 

บทความจากพันธมิตร
Attitude Mom เครื่องปั๊มนมแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเครื่องปั๊มนมไร้สาย Easy Life III และ Application Attitude Mom
Attitude Mom เครื่องปั๊มนมแบรนด์ไทย ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเครื่องปั๊มนมไร้สาย Easy Life III และ Application Attitude Mom
รวมโมเมนต์แห่งความสุขจากงาน Central x theAsianparent Baby Fair 2025
รวมโมเมนต์แห่งความสุขจากงาน Central x theAsianparent Baby Fair 2025
ช้อปสุดฟิน!  ครั้งแรกของปี รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว Central x theAsianparent Baby Fair งานแฟร์สินค้าแม่ลูกสุดยิ่งใหญ่ ลดสูงสุด 70%
ช้อปสุดฟิน! ครั้งแรกของปี รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว Central x theAsianparent Baby Fair งานแฟร์สินค้าแม่ลูกสุดยิ่งใหญ่ ลดสูงสุด 70%
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ปลดล็อคพลังแห่งผู้นำ สู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ
Dragonfly H.E.A.L. Summit 2024 ปลดล็อคพลังแห่งผู้นำ สู่การเป็นผู้นำที่ดีในทุกมิติ

4. น้ำพริกกะปิไข่เค็ม

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมจีน 5 กลีบ
  • พริกแดงจินดา 10 เม็ด
  • มะนาว 3-4 ลูก
  • น้ำต้มสุก (เตรียมไว้ครึ่งถ้วย)
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่เค็ม 1 ฟอง (ใช้ทั้งฟองทั้งไข่แดงไข่ขาว หั่นเต๋า)

 

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียม กับพริกแดงจินดา
  2. ใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลปี๊บ และใส่ไข่เค็มลงไปตำ (ไม่ต้องละเอียด)
  3. ใส่น้ำตาลทราย (เพิ่มความหวานแหลม) น้ำมะนาว น้ำปลา (ใส่ลงไป 1 ช้อนโต๊ะก่อน ค่อยเติมเพิ่มเพราะไข่มีความเค็มอยู่)
  4. น้ำต้มสุก ชิมดูรสชาติตามใจชอบ
  5. ตักเสิร์ฟพร้อมโรยพริกขี้หนูบุบ พร้อมปลาทูทอดและผักที่เตรียมไว้ จะเปลี่ยนรับประทานกับปลาดุกฟูก็อร่อยมาก

 

 

5. น้ำพริกกะปิกุ้งสด ผักบุ้งกรอบ

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
  • กุ้งแชบ๊วย 100 กรัม
  • หอมแดง 2 หัว
  • กระเทียมจีน 5 กลีม
  • พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
  • มะนาว 2-3 ผล
  • มะม่วงซอย 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักบุ้งไทย 1 กำ

 

วิธีทำ

  1. ล้างกุ้งให้สะอาด แบ่ง 1 ส่วนนำกุ้งไปลวกแล้วหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆ พักไว้ เหลือกุ้งสดไม่หั่นไว้โรยหน้า (อย่าทิ้งน้ำลวกกุ้ง)
  2. ล้างผักบุ้งให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง แล้วชุบแป้งทอด พักไว้
  3. โขลกกระเทียม หองแดง กับพริกแดงจินดา จากนั้นใส่กะปิ ลงไปขยี้พร้อมกับน้ำตาลทราย
  4. ใส่กุ้งลวก เติมน้ำมะนาว น้ำปลา ใส่มะม่วงซอยลงไปคลุกเคล้า
  5. ค่อยๆ เติมน้ำลวกกุ้งแล้วชิมตามใจชอบ อย่าลืมโรยหน้าด้วยกุ้งลวกตัวโต
  6. ตักเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง อย่างผักบุ้งกรอบ เด็กสามารถรับประทานได้ โดยลดความเผ็ดหรือไม่ใส่พริกเลย

 

 

6. น้ำพริกกะปิใส่สละหอมๆ

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ (20- 30 กรัม)
  • พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทย 10 กลีบ
  • กุ้งแห้งตำ (หรือปั่น) 2 ช้อนโต๊ะ
  • สละฝานเอาแต่เนื้อ 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • มะอึกซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียม พริกขี้หนูสวน ให้เข้ากัน จากนั้นใส่กะปิ สละ และมะอึก บี้พอพยาบๆ
  2. ใส่กุ้งป่นลงไป ตามด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลา
  3. แม้จะมีน้ำจากผลสละอยู่แล้ว แต่หากดูว่าแห้งไป สามารถเติมน้ำต้มสุกได้
  4. ตักเสิร์ฟพร้อมผักสด เพิ่มความอร่อยด้วยปลาช่อนแดดเดียวทอด

 

น้ำพริกกะปิ

น้ำพริกกะปิ กุ้งสด ผักบุ้งกรอบ (ภาพ: www.freepik.com)

7. น้ำพริกกะปิ ปูนาดอง

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 2 ช้อนโต๊ะ (30-50 กรัม)
  • ปูนาดองน้ำปลา 2-3 ตัว แล้วแต่ไซส์
  • หอมแดง 2 หัว
  • กระเทียมจีน 5 กลีบ
  • พริกแดงจินดา 10 เม็ด
  • น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (อย่าใสเยอะ ปูมีรสเค็มอยู่แล้ว)

 

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียม พริกแดงจินดาให้แหลก
  2. ใส่กะปิ น้ำตาลทราย น้ำมะนาว
  3. แกะปูนาดองลงครก 2-3 ตัว คลุกเคล้า ชิมดูว่าเค็มพอไหม ถ้ายังก็ใส่น้ำปลาลงไป
  4. ใส่น้ำต้มสุกลงเล็กน้อย พอชอบแล้วชิมดูอีกที
  5. ตักเสิร์ฟพร้อมผักเคียง แนะนำขมิ้นขาว มะเขือม่วงลูกเล็ก ถั่วพู จะเข้ากับปูได้ดีมาก

 

 

8. น้ำพริกกะปิใส่กระท้อนฟู

ส่วนผสม

  • กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ (10-20 กรัม)
  • กระท้อน 1 ลูก
  • กระเทียมจีน 5 กลีบ
  • พริกแดงจินดา 10 เม็ด
  • น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • มะอึกซอย
  • กุ้งฝอยสีขาวแห้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

  1. นำกุ้งฝอยมาเลือกให้สะอาด ไม่ให้มีเศษกุ้งหรือกรวดที่ไม่พึงประสงค์ นำไปอบหรือคั่วในกระทะ 30 วินาที เพื่อฆ่าเชื้อ
  2. ปอกกระท้อน เอาแต่เนื้อ แล้วซอยเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ
  3. โขลกพริกแดงจินดา กับกระเทียมให้ละเอียดพอประมาณ จากนั้นใส่กะปิลงไป 1 ช้อน
  4. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา กระท้อนซอยลงไป ชิมก่อนค่อยใส่มะนาวตามชอบ (เพราะกระท้อนเปรี้ยวอยู่แล้ว)
  5. จากนั้นใส่มะอึกซอย และกุ้งฝอยลงไป หากดูว่าแห้งไป ก็สามารถเติมน้ำต้มสุกได้
  6. ตักเสิร์ฟ รับประทานกับ ปลาดุก ปลาช่อนเผา และผักตามชอบ แนะนำผักกาดขาว ผักกาดหอม และแตงกวา

 

 

น้ำพริกกะปิ

(ภาพ: www.freepik.com)

บทความที่เกี่ยวข้อง: มะรุมสุดยอดอาหารบำรุงน้ำนมแม่ กินแล้วแม่น้ำนมพุ่งปรี๊ด ลูกน้อยแข็งแรง

9. กะปิหลน น้ำพริกกะปิเด็กกินได้ เรียกน้ำนมแม่

ส่วนผสม

  • กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
  • หมูสับ 100 กรัม
  • ตะไคร้ซอย 1 ต้นใหญ่
  • หอมแดงซอย ½ ถ้วย
  • กระชายซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแดงจินดา 5 เม็ด (ถ้าเด็กกินด้วย ไม่ต้องใส่ก็ได้)
  • พริกชี้ฟ้า เขียว แดง เหลือง 3 เม็ด
  • ใบมะกรูด 2 ใบใหญ่
  • กะทิ 100 กรัม (ใช้กะทิกล่องได้ค่ะ)
  • น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2-3 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

  1. นำเครื่องทั้งหมด พริกขี้หนู ตะไคร้ กระชาย โขลกเข้าด้วยกันก่อน แล้วค่อยใส่กะปิตามลงไป เพราะถ้าใส่รวมทั้งหมด กะปิจะทำให้ตำยาก (ใช้เครื่องปั่นได้ค่ะ)
  2. ตั้งกระทำ ใส่กะทิลงไป ผัดเครื่องที่ตำไว้ให้หอม แตกมัน
  3. จากนั้นใส่หมูสับลงไป (สามารถรวนหมูสับให้สุกพอประมาณก่อนได้ค่ะ)
  4. พอหมูสับสุกดี ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล (อย่าใส่ไปทีเดียว) ชิมดูก่อน หากชอบรสไหน ให้เติมรสนั้น
  5. ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ใส่พริกชี้ฟ้า 3 สี (หั่นแว่น) รอเดือดอีกครั้งแล้วปิดไฟ
  6. ตักเสิร์ฟรับประทานกับ ขมิ้นขาว (ผักเรียกน้ำนม)  ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว หรือผักตามชอบ แนมด้วยปลาแดดเดียวทอดจะอร่อยมาก

 

น้ำพริกกะปิ สูตรโบราณคือ วิธีทำพื้นฐานที่คุณแม่ทำให้เรารับประทานประจำ ส่วนใหญ่จะมีเครื่องเคียงหลัก เช่น ชะอมทอดไข่ ปลาทูทอด มะเขือยาวชุบไข่ทอด และผักสดต่างๆ สามารถเพิ่มผักต้มอย่าง แครอท กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ถั่วพู และหน่อไม้ต้ม หากไม่กลัวอ้วน ก็สามารถเคี่ยวกะทิสดราดลงไปเพื่อความมัน ลดความเผ็ดของน้ำพริกได้ สำหรับสูตรอื่นๆ คือการปรับสูตรที่ให้เราสามารถสนุกกับการรับประทาน เพิ่มเนื้อสัตว์และผักให้หลากหลาย ซึ่งปัจจุบันน้ำพริกกะปิไข่เค็มจะได้รับความนิยมเช่นกัน

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

6 วิตามิน สารพัดประโยชน์ สารอาหารดี ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

กินเผ็ดมีผลต่อลูกในท้องไหม คนท้องกินเผ็ดได้ไหม และอันตรายกับลูกหรือเปล่า?

15 เมนูกาแฟเย็น สูตรกาแฟโบราณ ชงอร่อย ทำกินเองได้ที่บ้าน

ที่มา: gourmetandcuisine

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Chatchadaporn Chuichan

  • หน้าแรก
  • /
  • ไลฟ์สไตล์
  • /
  • น้ำพริกกะปิ 9 สูตรเด็ด วิธีทำน้ำพริกกะปิง่ายๆ อร่อยด้วย
แชร์ :
  • วิจัยเผย! สาวก้นใหญ่ จะมีลูกฉลาด เพราะไขมันที่ก้นแม่ คือคลังสมองของลูก

    วิจัยเผย! สาวก้นใหญ่ จะมีลูกฉลาด เพราะไขมันที่ก้นแม่ คือคลังสมองของลูก

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • เปิดดวงลูกน้อยเกิดเดือนมิถุนายน 2568 พร้อมเกร็ดน่ารักที่แม่ต้องรู้!

    เปิดดวงลูกน้อยเกิดเดือนมิถุนายน 2568 พร้อมเกร็ดน่ารักที่แม่ต้องรู้!

  • วิจัยเผย! สาวก้นใหญ่ จะมีลูกฉลาด เพราะไขมันที่ก้นแม่ คือคลังสมองของลูก

    วิจัยเผย! สาวก้นใหญ่ จะมีลูกฉลาด เพราะไขมันที่ก้นแม่ คือคลังสมองของลูก

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • เปิดดวงลูกน้อยเกิดเดือนมิถุนายน 2568 พร้อมเกร็ดน่ารักที่แม่ต้องรู้!

    เปิดดวงลูกน้อยเกิดเดือนมิถุนายน 2568 พร้อมเกร็ดน่ารักที่แม่ต้องรู้!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว