X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • พัฒนาการลูก
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • การศึกษา
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

10 โรคหน้าฝนในเด็ก 2022 โรคหน้าฝนสุดฮิตที่เด็กมักเป็น คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง

บทความ 5 นาที
10 โรคหน้าฝนในเด็ก 2022 โรคหน้าฝนสุดฮิตที่เด็กมักเป็น คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง10 โรคหน้าฝนในเด็ก 2022 โรคหน้าฝนสุดฮิตที่เด็กมักเป็น คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้สิ่งที่พ่อแม่มักกังวลคงจะเป็นเรื่องสุขภาพของเด็ก ๆ 10 โรคหน้าฝนในเด็ก มีอะไรบ้าง พ่อคุณแม่ได้เตรียมตัวรับมือแล้วเฝ้าระวังเด็กอย่างไร

10 โรคหน้าฝนในเด็ก 2022 โรคหน้าฝนสุดฮิตที่เด็กมักเป็น คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง

ช่วงนี้เริ่มมีฝนตกบ้างแล้วในบางพื้นที่ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่หน้าฝนเป็นที่เรียบร้อย สิ่งที่พ่อแม่มักกังวลคงจะเป็นเรื่องสุขภาพของเด็ก ๆ เพราะน้ำฝนนำพาเชื้อโรคต่าง ๆ มาสู่เด็ก ๆ ได้ วันนี้แอด จึงขอนำ 10 โรคหน้าฝนในเด็ก มาแบ่งปันให้คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมตัวรับมือแล้วเฝ้าระวังเด็ก ๆ ให้ห่างไกลจากโรคกัน

อาจเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เมื่อเด็ก ๆ กำลังวิ่งเล่นแล้วเกิดมีฝนตกลงมา ด้วยความเป็นเด็ก พวกเขามักจะสนุกกับสิ่งรอบตัวอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่าพวกเขาก็ยังคงวิ่งเล่นท่ามกลางสายฝนอยู่โดยไม่ได้เกรงกลัวภัยต่าง ๆ ที่มากับฝนแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นฟ้าผ่า ฟ้าร้อง หรือสัตว์มีพิษทั้งหลาย ๆ

เด็ก ๆ ยังไม่มีประสบการณ์การเรียนรู้มากพอว่า ภัยอันตรายที่มากับฝนนั้นมีอะไรบ้าง การเล่นน้ำฝน หรือการกระโดดในแหล่งน้ำขังเพื่อให้น้ำแตกกระจายเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ หลายคนชื่นชอบ อากาศที่เย็นชื้นมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้โรคหลายชนิดแพร่ระบาดได้ง่าย โรคที่แฝงมากับหน้าฝนที่เด็กมักเป็นกัน

 

1.โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

โดยโรคไข้เลือดออกนั้นเป็นโรคอันตรายกว่าที่คิด โรคไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะนำโรค อาการระยะแรกเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีอาการปวดกระดูก และมีไข้จะสูงอยู่ประมาณ 2-7 วัน หลังจากนั้นไข้จะลดลง อาจจะมีอาการเลือดออกผิดปกติและช็อคได้ ระยะที่เกิดการช็อคส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงที่ไข้ลดลง

อาการก่อนที่จะช็อค คือ เด็กอาจจะปวดท้อง ปัสสาวะน้อยลง กระสับกระส่ายหรือซึม มือเท้าเย็น หน้ามืด เป็นลมง่าย ควรรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลทันที โรคไข้เลือดออกป้องกันได้โดยพยายามอย่าให้ยุงกัดและกำจัดแหล่งน้ำท่วมขังภายในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงรอบ ๆ บ้านทิ้งให้หมด ฉีดยากันยุงป้องกันเพิ่มเติม หรืออาจจะทาโลชั่นป้องกันยุงให้กับเด็ก ๆ ก็ได้

 

2. โรคมาลาเรีย (Malaria) 

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

โรคมาลาเรียหรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อไข้ป่านั้นมียุงก้นปล่องที่อยู่ในป่าเป็นพาหะนำโรค แรก ๆ จะมีอาการเหมือนเป็นหวัดธรรมดา หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน ผู้ป่วยจะอยู่ในช่วงจับไข้เป็นช่วง ๆ อย่างสม่ำเสมอ แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะหนาวสั่น ระยะร้อนและระยะเหงื่อ วนอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ  หากเป็นโรคมาลาเรียที่มีชนิดรุนแรงอาจทำให้ไตวาย ตับอักเสบ ปอดผิดปกติ และไข้มาลาเรียนั้นสามารถขึ้นสมองได้ ควรป้องกันโดยให้เด็กสวมเสื้อผ้ามิดชิด ทายาหรือพ่นยากันยุง นอนในมุ้ง เป็นต้น

 

3.  ไข้สมองอักเสบ (Japanese encephalitis : JE)

เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเจอีที่สมอง โดยมีพาหะสำคัญคือ ยุงรำคาญ ชนิด Culex tritaeniorrhynchus ซึ่งมักแพร่พันธุ์ในนาข้าว โรคนี้เป็นโรคสมองอักเสบ ชนิดที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย ผู้ที่ได้รับเชื้ออาจมี หรือไม่มีอาการป่วยก็ได้ ผู้ป่วยมักแสดงอาการหลังได้รับเชื้อ 5-15 วัน ในระยะแรกจะมีไข้สูง อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ซึ่งจะกินเวลา 1-7 วัน หลังจากนั้น จะมีอาการทางสมอง เช่น คอแข็ง สติสัมปชัญญะเลวลง ซึม เพ้อคลั่ง ชักหมดสติ หรือมือสั่น อัมพาต ระยะนี้กินเวลา 3-6 วัน ผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจถึงตายได้ในระยะนี้ หลังจากนั้นไข้จะค่อย ๆ ลดลงสู่ปกติ และอาการทางสมองจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่รอดชีวิตจะยังมีความผิดปกติทางสมองเหลืออยู่ เช่น เกร็ง อัมพาต ชัก ปัญญาอ่อน หงุดหงิดง่าย พูดไม่ชัด เป็นต้น

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เปิดเทอมหน้าฝนนี้ ลูกควรระวังอะไร และคุณแม่ควรเตรียมของใช้อะไรให้ลูกพกไปโรงเรียนบ้าง

 

4. โรคระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal tract disease)

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคบิดและโรคไทฟอยด์ เกิดจากการติดเชื้อจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปะปนอยู่ ทำให้เด็กมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน และหากติดเชื้อบิดอาจมีมูกหรือเลือดปนอุจจาระได้

 

5.โรคอุจจาระร่วง

โรคท้องเสีย เกิดขึ้นเพราะลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อโรต้าไวรัส ซึ่งมาจากของเล่น อาหาร หรือของใช้ใกล้ตัวเด็กที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่เข้าใจเรื่องของสุขอนามัย จึงมักนำของเล่น หรือของใช้ที่มีเชื้อนี้เข้าปากโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะถูกขับออกทางอุจจาระของผู้ป่วย ไวรัสโรต้าเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วงในเด็กทารก และเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี อาการส่วนใหญ่จะพบว่า ท้องเสีย อาเจียน บางรายจะมีไข้สูง กินได้น้อย งอแง ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ดังนั้นเด็กทารกควรให้กินนมแม่จะช่วยได้ระดับหนึ่ง และดูแลสุขลักษณะการกิน การเล่นให้เหมาะสม ต้องสะอาด

 

6. โรคไอพีดีและปอดบวม Invasive Pneumococcal Disease (IPD)

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

โรคไอพีดี คือ โรคติดเชื้อชนิดรุนแรงที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ “นิวโมคอคคัส” ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและที่เยื่อหุ้มสมอง ซึ่งมีความรุนแรงและอาจทำให้เด็กพิการหรือเสียชีวิตได้ ถ้าติดเชื้อที่ระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เด็กจะมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง เด็กเล็กจะมีอาการงอแง ซึม และชักได้ ส่วนการติดเชื้อในกระแสเลือด เด็กจะมีไข้สูง งอแง ถ้ารุนแรงอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ดีถ้ามีอาการดังกล่าวควรรีบพามาพบแพทย์ทันที

 

7.โรคอีสุกอีใส

หลาย ๆ คนคงงงว่าโรคอีสุกอีใสมาจากหน้าฝนจริงหรือ เพราะดูไม่ได้ร้ายแรงอะไรเท่าไหร่เมื่อเทียบกับโรคอื่น ๆ แต่โรคอีสุกอีใสนี้เมื่อเป็นแล้ว มักจะติดกันเป็นทอด ๆ โดยเฉพาะการติดต่อจากเพื่อนที่โรงเรียน กลุ่มอาการของโรค ผู้ป่วยจะมีไข้ เป็นผื่นแดง และมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นตามตัว โดยเริ่มจากบริเวณท้อง ลามไปตามต้นแขน ขา และใบหน้า หลังจากนั้นจะเกิดเป็นสะเก็ด และแผลเป็นขึ้นได้ มักหายได้เองประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ พยายามดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง เพราะโรคนี้เกิดขึ้นไม่ตรงตามวัย บางรายเป็นตอนเด็ก หรือบางรายอาจเป็นตอนโต ซึ่งถ้าเป็นในตอนโต จะมีอาการ และการขึ้นตุ่มที่รุนแรงกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะของร่างกายด้วย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : อันตรายหน้าฝน แม่ช็อก กิ้งกือสีเทา ทำพิษ ทำลูกนิ้วช้ำเลือดหลังซ่อนอยู่ในรองเท้า

 

8.โรคไข้ฉี่หนู (Leptospirosis)

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

โรคไข้ฉี่หนู เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน มีหนูเป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ เชื้ออาศัยอยู่ในดินที่ชื้นแฉะ หรือแหล่งน้ำท่วมขังและเข้าสู่คนทางผิวหนัง อาการที่สำคัญคือ มีไข้ ปวดศีรษะ ตาแดง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่องหรือโคนขา อาจทำให้มีอาการแทรกซ้อน เช่น ไตวาย มีอาการทางสมองและระบบประสาทจนอาจเสียชีวิตได้ วิธีป้องกัน คือ ให้เด็กสวมรองเท้าบู้ทหากต้องเดินลุยน้ำ ล้างตัวเด็กให้สะอาดทันทีหลังจากสัมผัสกับน้ำท่วมขัง

 

9.โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง (Conjunctivitis หรือ Pink eye)

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

เกิดจากการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง เช่น ไอ จาม หายใจรดกันและใช้สิ่งของร่วมกัน เชื้อที่ทำให้เกิดโรคตาแดงที่พบได้บ่อย คือ เชื้อไวรัส อาการของโรคตาแดงอาจเกิดกับดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างก็ได้  เด็กที่ติดเชื้อไวรัสจะมีอาการตาแดงอย่างรวดเร็ว  เคืองตา  เจ็บตา  น้ำตาไหล  ไม่มีขี้ตา บางรายมีต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตและเจ็บ โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ  ตาดำอักเสบ อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย เนื่องจากโรคตาแดงไม่มียารักษาโดยตรง การป้องกันไม่ให้ติดโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทำได้โดยการแยกเด็กที่ป่วย ห้ามไม่ให้ขยี้ตาและหมั่นล้างมือให้สะอาด

 

10. โรคมือเท้าปาก (Hand-foot-mouth disease)

10 โรคหน้าฝนในเด็ก

โรคมือเท้าปาก พบมากในช่วงหน้าฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ติดต่อกันได้ทางไอ จาม น้ำลายหรืออุจจาระ การสัมผัสของเล่น อาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ อาการของโรคคือ มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ก้น มีแผลร้อนในหลายแผลในปาก มักหายได้เอง ในขณะมีอาการ เด็กบางรายอาจกินอาหารและน้ำไม่ค่อยได้เนื่องจากเจ็บปาก ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ  ต้องระวังไม่ให้เด็กมีไข้สูงจนเกิดอาการชัก เด็กบางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ อัมพาตและอาจเสียชีวิต ป้องกันได้โดยไม่ให้เด็กคลุกคลีกับผู้ป่วยและไม่ใช้ภาชนะร่วมกับคนอื่น

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

โรคเฮอร์แปงไจน่า ตุ่มแผลในปากเด็ก ติดง่าย ระบาดหนักในฤดูฝน พ่อแม่ต้องระวัง!

มาดู ภาพเชื้อโรคบนมือสุดสยอง เหตุผลว่า ทำไมต้องล้างมือ เพราะมันอี๋มาก

โรคฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ โรคระบาดร้ายแรงในอดีตเกิดจากอะไร รุนแรงแค่ไหน?

Source : 1 , 2

บทความจากพันธมิตร
โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย และการป้องกันเบื้องต้น ที่แม่ต้องรู้
วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย และการป้องกันเบื้องต้น ที่แม่ต้องรู้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Jitawat Jansuwan

  • หน้าแรก
  • /
  • เจ็บป่วย
  • /
  • 10 โรคหน้าฝนในเด็ก 2022 โรคหน้าฝนสุดฮิตที่เด็กมักเป็น คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง
แชร์ :
  • พ่อแม่ต้องอ่าน 20 โรคหน้าร้อนในเด็ก 2020 เตรียมพร้อมรับมือ ดูแลลูกให้ดีกว่าเดิม

    พ่อแม่ต้องอ่าน 20 โรคหน้าร้อนในเด็ก 2020 เตรียมพร้อมรับมือ ดูแลลูกให้ดีกว่าเดิม

  • กรมควบคุมโรค เตือนให้ เฝ้าระวัง โรคไข้เลือดออกในเด็ก ในช่วงนี้!!

    กรมควบคุมโรค เตือนให้ เฝ้าระวัง โรคไข้เลือดออกในเด็ก ในช่วงนี้!!

  • สามี-ภรรยา เกิดมาร่วมกันในชาตินี้ แสดงว่าทำกรรมร่วมกันมา แต่อดีตชาติจริงหรือ?

    สามี-ภรรยา เกิดมาร่วมกันในชาตินี้ แสดงว่าทำกรรมร่วมกันมา แต่อดีตชาติจริงหรือ?

  • 10 ท่วงท่าสู่จุดสุดยอด Woman On Top ท่าเซ็ก ผู้หญิงอยู่บน 10 ท่ายาก จัดเต็ม

    10 ท่วงท่าสู่จุดสุดยอด Woman On Top ท่าเซ็ก ผู้หญิงอยู่บน 10 ท่ายาก จัดเต็ม

app info
get app banner
  • พ่อแม่ต้องอ่าน 20 โรคหน้าร้อนในเด็ก 2020 เตรียมพร้อมรับมือ ดูแลลูกให้ดีกว่าเดิม

    พ่อแม่ต้องอ่าน 20 โรคหน้าร้อนในเด็ก 2020 เตรียมพร้อมรับมือ ดูแลลูกให้ดีกว่าเดิม

  • กรมควบคุมโรค เตือนให้ เฝ้าระวัง โรคไข้เลือดออกในเด็ก ในช่วงนี้!!

    กรมควบคุมโรค เตือนให้ เฝ้าระวัง โรคไข้เลือดออกในเด็ก ในช่วงนี้!!

  • สามี-ภรรยา เกิดมาร่วมกันในชาตินี้ แสดงว่าทำกรรมร่วมกันมา แต่อดีตชาติจริงหรือ?

    สามี-ภรรยา เกิดมาร่วมกันในชาตินี้ แสดงว่าทำกรรมร่วมกันมา แต่อดีตชาติจริงหรือ?

  • 10 ท่วงท่าสู่จุดสุดยอด Woman On Top ท่าเซ็ก ผู้หญิงอยู่บน 10 ท่ายาก จัดเต็ม

    10 ท่วงท่าสู่จุดสุดยอด Woman On Top ท่าเซ็ก ผู้หญิงอยู่บน 10 ท่ายาก จัดเต็ม

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2022. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ