X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ตาแดง โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา

บทความ 5 นาที
ตาแดง โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา

หลาย ๆ คนคงสงสัยใช่ไหมว่า อาการตาแดงเป็นอย่างไร โรคตาแดงมีอาการอย่างไรบ้าง สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร มีวิธีรักษาหรือไม่ มาดูกัน

 

ตาแดง โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา

 

ตาแดง

โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา

ตาแดง คืออะไร

ตาแดง คือ เป็นอาการที่เยื้อบุดวงตาทั้ง 2 ข้างหรือ ข้างใดข้างหนึ่งงนั้นเป็นสีแดงจากหลอดเลือดฝอยที่เยื้อตาขยายตัวมักจะเกิดจากการอักเสบ หรือการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุตา ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อย ๆ เลยคือ การสัมผัสดวงตา การขยี้ตา ฝุ่นผงเข้าตา การบาดเจ็บบริเวณดวงตา ตาแห้ง หรือเนื้อเยื่อดวงตาเกิดมีการติดเชื้อ เป็นต้น อาการตาแดงสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการจะไม่รุนแรงมากนัก และหายเองได้ภายใน 1 – 2 วัน แต่ถ้าหากสังเกตเห็นว่าอาการตาแดงเริ่มจจะรุนแรวขึ้น หรืออาจเกี่ยวข้องกับโรคตาอื่น ๆ ผู้ป่วยควรที่จะไปพบแพทย์ทันทีเพื่อที่จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม

 

อาการตาแดง

อาการตาแดงนั้น อาจจะเป็นแค่ตาจ้างใดข้างหนึ่ง หรือเป็นทั้ง 2 ข้างพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุด้วย

  • คันตา หรือคันที่บริเวณเปลือกตา
  • เปลือกตาบวม หรือเปลือกตาอักเสบ และลอก
  • แสบตา น้ำตาไหล
  • มีขี้ตาเหลว หรือเป็นก้อนแข็ง ๆ
  • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด
  • ปวดศีรษะ มีไข้ และไอ
  • ขนตาร่วง

ทั้งนี้ หากผู้ป่วยมีอาการตาแดงนานเกิน 2 วัน แล้วยังไม่มีทีท่าว่าอาการจะดีขึ้น หรือตาแดงหลังจากรับประทานยาวาร์ฟาริน ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสม

 

ควรไปพบแพทย์เมื่อใด

อย่างไรก็ตาม หากว่าผู้ป่วยที่เป็นตาแดง และมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

  • ตาไวต่อแสง
  • ปวดตา
  • การมองเห็นเปลี่ยนไป หรือมองเห็นแสงกระจายเป็นรัศมีรอบ ๆ เป็นดวงไฟ
  • รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา
  • มีวัถุแปลกปลอมในตา หรือมีสารเคมีเข้าตา
  • มีอาการบวมในตา หรือนอกดวงตา
  • ลืมตา หรือหลับตาไม่สนิท
  • รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง หรือปวดหัวร่วมกบ อาการสับสนและมองเห็นไม่ชัด
  • เป็นไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
  • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

 

ตาแดง

โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา

สาเหตุของตาแดง

สาเหตุการเกิดอาการตาแดงนั้นมีหลายสาเหตุ บางครั้งก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัวที่สามารถทำให้เกิดอาการตาแดงได้ อย่างเช่น การใส่คอนแทคเลนส์นานเกินไป หรือการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่หยุดพัก และสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ เปลือกตาอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ตาแห้ง อาการบาดเจ็บที่ตา หรือต้อหิน

การแพ้

เมื่อสารระคายเคือง เช่น ละอองเกสร สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง ฝุ่น หรือสารเคมีบางชนิดที่พบในเครื่องสำอางหรือคอนแทคเลนส์) เข้าสู่ร่างกายของบุคคล ระบบภูมิคุ้มกันจะทำปฏิกิริยา ร่างกายจะหลั่งฮีสตามีนเพื่อต่อสู้กับสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งทำให้หลอดเลือดในดวงตาขยายใหญ่ขึ้น และดวงตาจะกลายเป็นสีแดง  และเกิดอาการคัน

เปลือกตาอักเสบ

เปลือกตาอักเสบเป็นภาวะปกติที่ทำให้เปลือกตากลายเป็นสีแดง และอักเสบ นอกจากเปลือกตาบวมแดงแล้ว ดวงตายังอาจไหม้ คัน ไวต่อแสง และมีน้ำตาเยอะมากอีกด้วย

เยื่อบุตาอักเสบ

เยื่อบุตาอักเสบเป็นหนึ่งในการติดเชื้อที่ตาที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเด็ก มันเกิดขึ้นเมื่อเยื่อบุลูกตาซึ่งเป็นเยื่อบาง ๆ โปร่งใสซึ่งปิดตาขาวและเส้นเปลือกตาได้รับการติดเชื้อ เมื่อเยื่อบุลูกตาติดเชื้อ หลอดเลือดภายในจะระคายเคืองและบวม ทำให้ตาดูเป็นสีแดงหรือชมพู หลายครั้งที่เปลือกตายังปล่อยเหนียวเหนอะและขนตาสามารถติดกันได้
ตาสีชมพูมีหลายประเภท การติดเชื้อไวรัสที่ตา มักดีขึ้นเอง และไม่ต้องใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ การติดเชื้อแบคทีเรียที่ตาต้องใช้ยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อทั้งสองประเภท โดยเฉพาะไวรัส ติดต่อและแพร่กระจายได้ง่าย
เด็กมักจะเป็นโรคตาแดงเนื่องจากใกล้ชิดกับผู้อื่นในโรงเรียนหรือศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เนื่องจากตาสีชมพูบางชนิดเป็นโรคติดต่อได้ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาการติดเชื้อที่ถูกต้อง แพทย์ประจำครอบครัวหรือกุมารแพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาโรคตาบางชนิดได้

ตาแห้ง

เมื่อตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอหรือผลิตน้ำตาที่ขาดส่วนไขมัน ตาแห้งเป็นผล. น้ำตาที่เพียงพอและทำงานได้ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับดวงตาที่แข็งแรงและสบายตา อาการตาแห้ง ได้แก่ แสบหรือแสบร้อน น้ำตาไหลตามมาเป็นระยะๆ แห้ง และอาจมีน้ำมูกไหลออกมา อาการอาจเจ็บปวดและตาอาจเป็นสีแดง ผู้ชายและผู้หญิงอาจมีอาการตาแห้งได้ แม้ว่าจะพบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เมื่ออายุมากขึ้น น้ำตาก็จะผลิตไขมันบางส่วนน้อยลง ซึ่งทำให้เสี่ยงที่จะเป็นโรคตาแห้งมากขึ้น ตาแห้งก็เป็นผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิดเช่นกัน เงื่อนไขแรกสามารถจัดการได้โดยการทำให้ตาเปียกด้วยน้ำตาเทียม

การบาดเจ็บที่ตา

การบาดเจ็บหรือการบาดเจ็บที่ดวงตาอาจทำให้ตาแดงและแดงได้ หลอดเลือดในตาขยาย (เปิด) เพื่อให้เลือดไปยังบริเวณที่บาดเจ็บได้มากขึ้นเพื่อให้หายเร็วขึ้น หลอดเลือดเปิดเหล่านี้เป็นสาเหตุของตาแดง การบาดเจ็บที่ตาอาจรวมถึงการถลอกของกระจกตา (รอยขีดข่วนที่พื้นผิวของดวงตา) บาดแผลจากการเจาะ และแผลไหม้จากสารเคมี อาการบาดเจ็บที่ตาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลทันที และควรได้รับการปฏิบัติเหมือนกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์

ต้อหิน

ในกรณีส่วนใหญ่ โรคต้อหินจะค่อย ๆ เกิดขึ้นและมักจะไม่มีอาการในตอนแรก โรคต้อหินเฉียบพลันหรือรุนแรงเป็นภาวะที่คุกคามสายตาซึ่งจำเป็นต้องไปพบแพทย์โดยด่วน ตื่นตัวต่ออาการตาแดงก่ำที่เจ็บปวดอย่างกะทันหัน ควบคู่ไปกับการมองเห็นรัศมีรอบๆ แสงไฟ สูญเสียการมองเห็น และคลื่นไส้

 

การรักษาอาการตาแดง

การเยียวยาสำหรับตาแดงมีหลากหลาย หลายๆ ครั้ง การพักผ่อน ประคบเย็นที่ดวงตาที่ปิดสนิท นวดเปลือกตาเบาๆ ล้างเปลือกตาเบาๆ และ/หรือยาหยอดตาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ อาจบรรเทาอาการได้ ในบางครั้ง จักษุแพทย์อาจแนะนำและสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะ ยาหยอดตาพิเศษ หรือขี้ผึ้ง

การรักษาสำหรับเงื่อนไขเฉพาะรวมถึงต่อไปนี้:

  • ตาแดงจากการแพ้ นอกจากการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้แล้ว (หากทราบ) การรักษามักประกอบด้วยยาหยอดตาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ การใช้น้ำตาเทียมจะล้างสารก่อภูมิแพ้ออกจากดวงตาและเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งและระคายเคือง ยาหยอดตาลดอาการตาแดงจากการแพ้ ยาหยอดตาที่ลดความรู้สึกระคายเคืองด้วยยาต้านฮีสตามีนจะช่วยบรรเทาอาการคันได้
  • เปลือกตาอักเสบ การรักษามักจะเกี่ยวข้องกับการรักษาความสะอาดเปลือกตา การชุบผ้าชุบน้ำอุ่น บิดน้ำส่วนเกินออก แล้วจับที่เปลือกตาปิดเป็นเวลาหลายวินาทีสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ การจุ่มสำลีก้านลงในส่วนผสมของน้ำและแชมพูเด็กล้างเปลือกตาเบาๆ ก็จะช่วยได้เช่นกัน เมื่อเกิดภาวะนี้ มักจะไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น การทำความสะอาดเปลือกตาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในบางกรณี จักษุแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะหรือยาหยอดตาสเตียรอยด์
  • ตาแดงจากแบคทีเรียหรือไวรัส:
    • วางผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เหนือดวงตาที่ปิดสนิทสักสองสามนาที วิธีนี้จะทำให้เมือกแห้งคลายตัวได้หากขนตาหรือเปลือกตาติดกัน
    • ใช้ผ้าสะอาดทุกครั้งเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย
    • ถ้าตาแดงอยู่ในตาทั้งสองข้าง ให้ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดตาแต่ละข้างต่างกัน
    • ใช้ยาหยอดตาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (น้ำตาเทียม)

 

บทความจากพันธมิตร
5 วิธี เสริมภูมิคุ้มกัน กุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกรักแข็งแรง พร้อมเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
5 วิธี เสริมภูมิคุ้มกัน กุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกรักแข็งแรง พร้อมเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
ป้องกัน ลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ฉบับคุณแม่มือโปร ด้วย Breeze Baby
ป้องกัน ลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ฉบับคุณแม่มือโปร ด้วย Breeze Baby
วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
ตาแดง

โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา

การป้องกันการเป็นตาแดง

หากตัวเอง หรือคนรอบข้างนั้นเป็นโรคตาแดง ควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ เพื่อปเองกันการเป็นตาแดง

  • ควรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า หรือสบู่ก่อนที่จะสัมผัสใบหน้า และบริเวณรอบ ๆ ดวงตา
  • ควรล้างเครื่องสำอาง หรือเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้าให้หมดก่อนนอน โดยเฉพาะรอบ ๆ ดวงตา
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางแต่งตาร่วมกับคนอื่น ๆ และเปลี่ยนเครื่องสำอางแต่งตาทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันตาแดง
  • เมื่อมีสิ่งสกปรกเข้าตา ควรล้างดวงตาด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น
  • ห้ามใส่คอนแทคเลนส์นานเกินกำหนด โดยห้ามใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกันกับผู้อื่น ๆ และควรล้างคอนแทคเลนส์ให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ
  • ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเพ่งเล็งสายตา หรือใช้สายตามาก ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการตาล้า
  • ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า และหมอนร่วมกันกับผู้อื่น

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ภูมิแพ้อากาศ โรคภูมิแพ้อากาศเป็นอย่างไร ภูมิแพ้อากาศเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร

โรคมะเร็ง เกิดจากอะไร วิธีสังเกตตัวเอง เตรียมพร้อมก่อนสายเกินแก้!

โรครูมาตอยด์ ไขข้ออักเสบ สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : 1 , 2 , 3

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kittipong Phakklang

  • หน้าแรก
  • /
  • เจ็บป่วย
  • /
  • ตาแดง โรคตาแดงมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุการเกิดโรคตาแดงมาจากอะไร พร้อมวิธีรักษา
แชร์ :
  • การตรวจเลือดเพื่อหาความพิการแต่กำเนิด คืออะไร จำเป็นต้องตรวจหรือไม่ ?

    การตรวจเลือดเพื่อหาความพิการแต่กำเนิด คืออะไร จำเป็นต้องตรวจหรือไม่ ?

  • มือลอก มือแตกแห้ง เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของอาการขาดวิตามินจริงไหม?

    มือลอก มือแตกแห้ง เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของอาการขาดวิตามินจริงไหม?

  • เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

    เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

  • การตรวจเลือดเพื่อหาความพิการแต่กำเนิด คืออะไร จำเป็นต้องตรวจหรือไม่ ?

    การตรวจเลือดเพื่อหาความพิการแต่กำเนิด คืออะไร จำเป็นต้องตรวจหรือไม่ ?

  • มือลอก มือแตกแห้ง เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของอาการขาดวิตามินจริงไหม?

    มือลอก มือแตกแห้ง เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของอาการขาดวิตามินจริงไหม?

  • เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

    เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ