TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ไข้เลือดออก คืออะไร มีอาการอะไรบ้าง เป็นภัยร้ายหน้าฝนที่ควรระวัง!!

บทความ 5 นาที
ไข้เลือดออก คืออะไร มีอาการอะไรบ้าง เป็นภัยร้ายหน้าฝนที่ควรระวัง!!

ไข้เลือดออก คืออะไร หลาย ๆ คนคงสงสัยใช่ไหมว่า โรคไข้เลือดออก เป็นแล้วจะมีอาการอะไรบ้าง ไข้เลือดออกเกิดจากอะไร มีสาเหตุมาจากอะไร เป็นโรคไข้เลือดออกมีวิธีรักษาหรือไม่ วิธีป้องกันไข้เลือดออกมีอะไรบ้าง แล้วโรคไข้เลือดออกน่ากลัวไหม มาดูกัน

 

ไข้เลือดออก

เรื่องน่ารู้โรคไข้เลือดออก!

ประเทศไทยมีการแพร่กระจายของยุงลายมาก เพราะเป็นประเทศที่อยู่ในเขตร้อนชื้น ซึ่งอาจพบโรคนี้ได้ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ได้แก่ เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกชุก และมีแอ่งน้ำท่วมขังอยู่ทั่วไป ยุงลายจึงสามารถขยายพันธุ์ได้ดี

จากสถิติของกรมควบคุมโรค ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 10 มิถุนายน 2567 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ถึง 30,353 ราย และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 32 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีอายุระหว่าง 10-24 ปี

 

ไข้เลือดออก คืออะไร

ไข้เลือดออก (Dengue Fever) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue) ที่ได้ทำการแพร่เข้าสู่ร่างกายของคนจากการกัดของยุงลายตัวเมีย ปัจจุบันนี้ ไข้เลือดออก สามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4

โดยปกติแล้ว ระยะเวลาในการฟักตัวของโรคไข้เลือดออก จะอยู่ภายใน 8-12 วัน เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสเดงกีไปกัดคน เชื้อไวรัสในตัวยุงก็จะเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่ถูกกัด ทำให้เกิดอาการติดเชื้อและป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้ภายใน 3 – 15 วัน ค่ะ 

ผู้ป่วยจะมีไข้สูง มีอาการป่วยที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา ยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค เป็นยุงที่ออกหากินเฉพาะในตอนกลางวัน ยุงชอบอาศัยอยู่แถวที่มีอากาศร้อนชื้น  จึงพบได้มากในประเทศที่อยู่ในเขตร้อนในทวีปเอเชีย อเมริกากลางและใต้ แอฟริกา ตอนเหนือของออสเตรเลีย และตามหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก จากการที่โรคแพร่ระบาดเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ทำให้ไข้เลือดออกเป็นหนึ่งในโรคที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความสนใจ

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่เคยได้รับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใด ก็จะมีภูมิคุ้มกันเฉพาะสายพันธุ์นั้นเท่านั้น แต่หากได้รับการรับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ต่างออกไปจากครั้งแรก ๆ ก็สามารถที่จะเป็นไข้เลือดออกได้อีกเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วอาการของโรคไข้เลือดออกครั้งที่สองมักที่จะรุนแรงกว่าครั้งแรก

 

ไข้เลือดออก

 

อาการของโรคไข้เลือดออก

อาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีนั้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามความรุนแรง คือ โรคไข้เดงกี และ โรคไข้เลือดออก ดังนี้

โรคไข้เดงกี

โรคไข้เดงกี (dengue fever) อาการที่พบตอนเป็นไข้เดงกี ได้แก่ อาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ หรือปวดกระดูก มีผื่นขึ้นคล้าย ๆ กับผื่นโรคหัด และอาจจะมีภาวะเลือดออก หรือไม่มีก็ได้เช่นกัน

 

โรคไข้เลือดออก

ส่วนโรคไข้เลือดออกนั้น นอกจากจะมีอาการเช่นเดียวกับโรคไข้เดงกีแล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรค คือ

  • ผู้ที่ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียสประมาณ 2 – 7 วัน
  • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เวียนหัว
  • หน้าแดง อาจจะพบจ้ำเลือด หรือจุดเลือดออกสีแดงเล็ก ๆ ตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกบริเวณอื่น ๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล หรืออาจจะมีอุจจาระมีเลือดปน
  • มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง กดเจ็บชายโครงด้านขวา
  • ในบางรายที่มีอาการรุนแรงมาก หลังจากมีไข้มาแล้วหลายวัน ผู้ป่วยอาจจะเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลว หรือภาวะช็อก และเข้าสู่ระยะที่เรียกกันว่า กลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก โดยผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ วัดชีพจรไม่ได้

 

การรักษาไข้เลือดออก

การรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกนั้น ยังไม่มียารักษาเฉพาะโรค เป็นเพียงการรักษาแบบประคับประคองตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยทั่วไปผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกจะมีไข้สูงมาก และปวดหัวอย่างรุนแรง เบื้องต้นจึงให้ยาระงับอาการ คือ Acetaminophen หรือพาราเซตามอล ซึ่งเป็นยาแก้ปวด และลดไข้ ควรหลีกเลี่ยงการที่จะใช้ยาแอสไพริน ซึ่งจะมีผลต่อเซลล์เม็ดเลือด อาจจะกระทบต่อภาวะที่มีเลือดออกซึ่งทำให้อาการนั้นแย่ลง ในกรณีที่ผู้ป่วยนั้นอาเจียนออกมา และอ่อนเพลียจากไข้ แพทย์จะให้น้ำเกลือเพื่อชดเชยการเสียน้ำในร่างกาย นอกจากนี้ เป็นการรักษาตามอาการที่ป่วย และเฝ้าระวังการเกิดอาการแทรกซ้อน

 

ไข้เลือดออก

 

ภาวะแทรกซ้อนของการเป็นไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกอาจจะพัฒนาความรุนแรงไปสู่ภาวะโรค Dengue Hemorrhagic Fever ซึ่งจะทำให้มีไข้สูงขึ้น มีอาการปวดหัวรุนแรงขึ้น และอาจจะมีภาวะเลือดออกตามเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน และ Dengue Shock Syndrome ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดการเสียเลือดมาก พลาสมารั่ว ความดันโลหิตต่ำ ซึ่งจะนำไปสู่การช็อกที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

 

การป้องกันโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออก สามารถป้องกันได้ ดังนี้

  • ป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยอาจสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด ใช้สิ่งช่วยไล่ยุงต่าง ๆ
  • ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง โดยเฉพาะในบริเวณบ้าน และใกล้เคียง ด้วยการปิดฝา ภาชนะต่าง ๆ ที่มีน้ำขัง เพื่อไม่ให้ยุงเข้าไปวางไข่ได้ โดยควรเปลี่ยนน้ำในภาชนะต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ด้วย ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในบ้านให้สะอาด ปราศจากน้ำขัง และไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง
  • ในผู้ป่วยอายุระหว่าง 9-45 ปี ที่มีประวัติเป็นไข้เลือดออกมาแล้ว แพทย์อาจพิจารณาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก

 

บทความจากพันธมิตร
ไขความลับ เปลี่ยนเมนูทอดของลูก ให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ
ไขความลับ เปลี่ยนเมนูทอดของลูก ให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ
โรคไข้กาฬหลังแอ่น  แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง
โรคไข้กาฬหลังแอ่น แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง
Probiotic และ Prebiotic คู่หูมหัศจรรย์เพื่อลำไส้แข็งแรงและภูมิคุ้มกันที่ดีของลูกน้อย
Probiotic และ Prebiotic คู่หูมหัศจรรย์เพื่อลำไส้แข็งแรงและภูมิคุ้มกันที่ดีของลูกน้อย
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ  ยุงเล็ก เสี่ยงใหญ่ ทำไมเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ยุงเล็ก เสี่ยงใหญ่ ทำไมเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ

วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก

ปัจจุบันนี้ วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกทุกสายพันธุ์ แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • ชนิดที่ 1 

วัคซีนชนิดนี้ จะใช้สำหรับป้องกันไข้เลือดออกในผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อนแล้ว สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 – 45 ปี โดยแนะนำให้ทำการตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีนในกรณีที่ไม่มีประวัติยืนยันการติดเชื้อ โดยจะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ห่างกันเข็มละ 6 เดือน

  • ชนิดที่ 2 

วัคซีนป้องกันไข้เลือดออกในผู้ที่เคยและไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน ซึ่งสามารถฉีดได้ตั้งแต่ อายุ 4 – 60 ปี โดยไม่จำเป็นต้องตรวจเลือด โดยจะฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกันเข็มละ 3 เดือน ค่ะ

 

ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

หลังการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดบริเวณตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน ไปจนถึง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายได้เองภายใน 1 – 3 วัน

อย่างไรก็ตาม แพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนก่อนเวลาที่แพทย์นัดหมาย ควรมาตามนัดและฉีดให้ครบถ้วนเพื่อประสิทธิภาพของวัคซีนค่ะ

 

อ่านประสบการณ์จริงของคุณแม่และลูกเมื่อต้องเผชิญกับโรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออก โรคร้ายที่มากับฝน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิธีรักษาโรควิตกกังวล และโรคเครียด ด้วยวิธีทางธรรมชาติ ทำได้ที่บ้าน ง่าย ๆ ลองทำตามดู

โรคธาลัสซีเมีย หรือ โลหิตจาง เป็นยังไง เป็นแล้วอันตราย หรือไม่ รู้ไว้ไร้กังวล

ลูกฉันเป็นไข้เลือดออก หรือชิคุนกุนยา? ดูอย่างไรว่าลูกเป็นไข้เลือดออก หรือ เป็นชิคุนกุนยา

ที่มา : pobpad , Bumrungrad , Mamastory , Bangkok Hospital

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kittipong Phakklang

  • หน้าแรก
  • /
  • เจ็บป่วย
  • /
  • ไข้เลือดออก คืออะไร มีอาการอะไรบ้าง เป็นภัยร้ายหน้าฝนที่ควรระวัง!!
แชร์ :
  • ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

    ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

  • รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

    รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

  • จุกแน่นลิ้นปี่ อาจไม่ใช่แค่ท้องอืด! สัญญาณเตือน "นิ่วในถุงน้ำดี" ที่พ่อแม่ควรรู้

    จุกแน่นลิ้นปี่ อาจไม่ใช่แค่ท้องอืด! สัญญาณเตือน "นิ่วในถุงน้ำดี" ที่พ่อแม่ควรรู้

  • ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

    ข่าวดี! สปสช. ไฟเขียว ขยายสิทธิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีสำหรับเด็ก ถึง 5 ขวบ

  • รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

    รถเมล์ คะนึงนิจ แชร์อุทาหรณ์ ลูกเป็นมือเท้าปาก หลังเล่น Kids Club

  • จุกแน่นลิ้นปี่ อาจไม่ใช่แค่ท้องอืด! สัญญาณเตือน "นิ่วในถุงน้ำดี" ที่พ่อแม่ควรรู้

    จุกแน่นลิ้นปี่ อาจไม่ใช่แค่ท้องอืด! สัญญาณเตือน "นิ่วในถุงน้ำดี" ที่พ่อแม่ควรรู้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว