คนท้องห้ามไปงานแต่ง จริงหรือ? ชวนดู 8 ข้อห้ามคนท้อง ที่คุณแม่ต้องใส่ใจ

lead image

คุณแม่ตั้งครรภ์มักพบเจอกับความเชื่อของครอบครัวที่หลากหลายค่ะ หนึ่งในนั้นคือ คนท้องห้ามไปงานแต่ง ทำไมห้าม? มาดูกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างว่ามีความเชื่อเกี่ยวกับการที่แม่ท้องไม่ควรไปงานศพ หรืองานอวมงคล แต่ทราบไหมคะว่า ความเชื่อที่ว่า คนท้องห้ามไปงานแต่ง ก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน และยังคงถูกนำไปปฏิบัติตามในหลายครอบครัว แล้วความเชื่อนี้มีที่มาอย่างไร มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือศาสตร์อื่นใดสนับสนุนข้อห้ามนี้บ้าง มาทำความเข้าใจและพิจารณาอย่างมีเหตุผลไปพร้อมกันค่ะ

คนท้องห้ามไปงานแต่ง

ที่มาของความเชื่อ คนท้องห้ามไปงานแต่ง

การสืบค้นถึงที่มาของความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง นั้นค่อนข้างยากที่จะระบุจุดเริ่มต้นได้อย่างชัดเจนค่ะ แต่ก็อาจสันนิษฐานถึงปัจจัยหลายประการที่น่าจะเป็นรากฐานของความเชื่อดังกล่าว คือ

  • ความเชื่อเรื่องพลังงานและสิ่งอัปมงคล

ในสมัยโบราณ ผู้คนมีความเชื่ออย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องของพลังงานและสิ่งอัปมงคล ซึ่งงานแต่งงานเป็นพิธีมงคลที่มีความสุขและความยินดี ในขณะที่คนท้องอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ การไปร่วมงานที่มีผู้คนพลุกพล่านและอาจมีกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ อาจถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์

นอกจากนี้ บางความเชื่ออาจมองว่าการที่คนท้องซึ่งมี “พลังชีวิต” อีกหนึ่งชีวิตอยู่ในตัว ไปร่วมงานที่มี “พลังแห่งความสุข” อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของพลังงาน หรืออาจนำพาสิ่งอัปมงคลจากภายนอกเข้าสู่ครรภ์ได้

  • ความกังวลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย

ในอดีต การแพทย์และสุขอนามัยยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่าปัจจุบัน คุณแม่ตั้งครรภ์จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป การเดินทางไปยังสถานที่จัดงานแต่งงาน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือการกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์ได้ ความเชื่อนี้จึงอาจเป็นกุศโลบายเพื่อให้คนท้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจเป็นความเสี่ยงนั่นเองค่ะ

  • ความเชื่อเรื่อง “ปีชง”

ในบางครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน มีความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง เนื่องจากกังวลว่าคนที่มาร่วมงานอาจจะเป็นปีชงกับทารกในครรภ์ที่กำลังจะเกิดมา อย่างไรก็ตาม อาจเป็นกุศโลบายให้แม่ตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการอยู่ในบรรยากาศที่คนเยอะ เสี่ยงต่อการชน การกระแทก จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบกับลูกน้อยมากกว่าค่ะ

คนท้องห้ามไปงานแต่ง ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์

ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าการที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไปร่วมงานแต่งงานจะเป็นอันตรายโดยตรงต่อตนเองหรือทารกในครรภ์นะคะ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณแม่ควรพิจารณาในการไปร่วมงาน คือ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ร่างกายของแม่ท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกันค่ะ บางคนอาจมีอาการแพ้ท้อง อ่อนเพลีย หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ การเดินทางและเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมากอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายและเหนื่อยล้าได้
  2. สภาพแวดล้อมภายในงาน งานแต่งบางแห่งอาจมีเสียงดัง แสงสว่างจ้า หรือมีการเบียดเสียด ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับคนท้องที่ต้องการความสงบและการพักผ่อนนะคะ
  3. ความเสี่ยงในการติดเชื้อ การอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากย่อมเพิ่มความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่ท้องที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าปกติ

 

ความเชื่อเกี่ยวกับการห้ามคนท้องเข้าร่วมพิธีกรรมบางอย่างไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่งานแต่งเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่ออื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ เช่น ห้ามคนท้องไปงานศพ หรือห้ามเยี่ยมผู้ป่วยหนัก ซึ่งมีรากฐานมาจากความกังวลเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย และอิทธิพลของพลังงานต่างๆ เช่นกัน ดังนั้น หากแม่ท้องมีความจำเป็นต้องไปร่วมงานต่างๆ เหล่านี้ ควรพิจารณาสภาพร่างกายของตนเอง คาดการณ์สภาพแวดล้อมของงาน และปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนนะคะ

8 ข้อห้ามคนท้อง ที่คุณแม่ต้องใส่ใจจริงๆ

ความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง น่าจะพอช่วยให้คุณแม่ระมัดระวังตัวเองได้ในกรณีที่ต้องออกไปทำธุระหรือร่วมงานพิธีต่างๆ นอกบ้าน อย่างไรก็ตาม มี ข้อห้ามคนท้อง อีกหลายข้อที่คุณแม่ต้องใส่ใจจริงๆ เพื่อการดูแลร่างกายตัวเองให้ดีในขณะที่ตั้งครรภ์ ให้ทารกคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย มาดูกันค่ะว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างที่คนท้องไม่ควรทำ

  1. ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

คุณแม่ไม่ควรสูบบุหรี่ในระหว่างที่ตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด รวมถึงไม่ควรใช้สารเสพติดอื่นๆ ด้วย เพราะสามารถทำอันตรายต่อเด็กในครรภ์ ทำให้การเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้แม่ท้องไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วย เพราะอาจทำให้ทารกมีพัฒนาการการเจริญเติบโตในท้องที่ไม่สมบูรณ์เช่นกัน โดยอาจทำให้มีพัฒนาการช้า คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด หรือเด็กที่เกิดมาอาจพิการและรักษาไม่หายได้

  1. แม่ท้องห้ามเครียด

เมื่อคุณแม่มีความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามาก ทำให้หลอดเลือดบริเวณมดลูกหดตัว ออกซิเจนไปเลี้ยงลูกในครรภ์ได้น้อยลง เด็กเจริญเติบโตในครรภ์ได้ช้าลง ทำให้คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้ยังอาจทำให้เด็กเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเมื่อเกิดมา มีความดันเลือดสูง เป็นเบาหวาน เรียนรู้ได้ช้า สมาธิสั้น และเป็นออทิสติก

  1. กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สารอาหารไปเลี้ยงลูกน้อย แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่คุณแม่ควรเลี่ยง เช่น อาหารที่เผ็ดจัด อาหารหวาน มัน ปรุงไม่สุก เพราะอาจทำให้คุณแม่ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายท้องได้ รวมถึงไม่ควรกินอาหารกระป๋อง อาหารที่มีผงชูรส เนื่องจากอาจมีสารเคมีที่อาจทำอันตรายต่อเด็กได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. แม่ท้องไม่ควรดื่มนมมากกว่าวันละ 1 แก้ว

คุณแม่ควรกินนมวันละ 1 แก้วเท่านั้น โดยเน้นกินนมวัว นมถั่วเหลือง ควบคู่กับการกินปลา ผักใบเขียว งาดำ และอัลมอนด์ ซึ่งหากกินนมในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เด็กแพ้โปรตีนในนมได้ ดังนั้นจึงควรกินแต่พอดี

  1. ห้ามกินยาพร่ำเพรื่อ

คุณแม่ที่กำลังท้องควรระมัดระวังเรื่องการกินยาให้มาก โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก หรือไตรมาสที่ 3 ซึ่งในไตรมาสแรก จะเป็นช่วงที่อวัยวะของเด็กเริ่มงอกออกมา และเริ่มมีพัฒนาการด้านระบบประสาท หากกินยาที่มีส่วนผสมที่ทำอันตรายอาจทำให้เติบโตได้ช้า เกิดมาพิการ หรือเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ได้ โดยคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนกินยาทุกชนิด

  1. ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายแต่พอดี ไม่ออกแรงเยอะ หรือหักโหมเกินไป และไม่ควรออกกำลังกายนานเกิน 30 นาที เพราะอาจทำให้ตัวเองเหนื่อย และทำให้เด็กขาดออกซิเจน จนส่งผลต่อการเจริญเติบโต และในระหว่างที่ออกกำลังกายควรดื่มน้ำทุกๆ 10-15 นาที เพื่อไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำเยอะเกินไป และช่วยให้ร่างกายระบายความร้อน

  1. อย่ายืนและนอนเป็นเวลานาน

คุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้ายไม่ควรยืนเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ขาและเท้าบวม จนเกิดเส้นเลือดขอดที่ขา และปวดหลัง รวมทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้อีกด้วย นอกจากนี้ คุณแม่ไม่ควรนอนนานเกินไป เพราะน้ำหนักที่ท้อง อาจจะกดทับกระเพาะอาหารและลำไส้ จนทำให้จุกเสียด แน่นท้อง เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีพอ จนอาจหน้ามืด หรือเป็นลมได้ แนะนำให้เปลี่ยนท่านอนทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และเปลี่ยนท่านั่งบ่อยๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

  1. อบไอน้ำ อบซาวน่า

คนท้องไม่ควรเข้าอบไอน้ำหรือซาวน่าเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แท้งลูกได้ เนื่องจากความร้อนจากไอน้ำจะทำให้คุณแม่ขาดน้ำและเกลือแร่ จนเลือดข้นขึ้นและเส้นเลือดอุดตัน เลือดไปเลี้ยงร่างกายเด็กไม่เพียงพอและเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ความเชื่อเรื่อง คนท้องห้ามไปงานแต่ง เป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย สุขภาพ และอิทธิพลของพลังงานต่างๆ แม้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนความเชื่อนี้โดยตรง แต่การตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาอย่างรอบคอบและมีเหตุผล โดยคำนึงถึงสุขภาพและความสบายของทั้งแม่และเด็กเป็นสำคัญ และการเปิดใจพูดคุยและทำความเข้าใจกับผู้ที่มีความเชื่อแตกต่างกันก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อให้เกิดความราบรื่นและความเข้าใจที่ดีในครอบครัวนะคะ

 

ที่มา : www.samitivejhospitals.com , bangpo-hospital.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คนท้องกินแคนตาลูปได้ไหม ? ประโยชน์ vs โทษแฝง ที่ต้องใส่ใจ

อย่าละเลย! 9 อาการระหว่างตั้งครรภ์ ลูกอาจเสี่ยงอันตรายถ้าไม่เช็ก

คนท้องเป็นร้อนใน ส่งผลต่อครรภ์ไหม? ใช้ยาอะไรได้บ้าง รับมือยังไงให้หายไว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

จันทนา ชัยมี