X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ปวดท้องคลอด อาการเป็นอย่างไร สัญญาณแบบไหนแสดงว่าใกล้คลอด?

บทความ 5 นาที
ปวดท้องคลอด อาการเป็นอย่างไร สัญญาณแบบไหนแสดงว่าใกล้คลอด?

ปวดท้องคลอด เป็นอาการที่คุณแม่หลายคนกังวลใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาการปวดท้องคลอดเป็นอาการที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะก่อนคลอดนั้น คุณแม่จะได้พบกับสัญญาณเตือนใกล้คลอดต่าง ๆ รวมถึงยังมีวิธีรับมือกับความเจ็บปวดเมื่อปวดท้องคลอดอีกด้วย จึงถือเป็นเรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรศึกษา และเตรียมตัวให้ดี วันนี้ theAsianparent Thailand มีข้อมูลดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่ได้พร้อมรับมือกับอาการปวดท้องเช่นนี้ค่ะ

 

 

ปวดท้องคลอด อาการเป็นอย่างไร?

ปวดท้องคลอดเกิดจากการบีบตัวของมดลูกเพื่อให้ทารกคลอดออกมา แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดอาการปวดท้องในขณะคลอดได้ด้วย เช่น ขนาดตัวของลูก ตำแหน่งของลูก ระยะเวลาในการคลอด และความแรงในการบีบตัวของมดลูก เป็นต้น ซึ่งอาการปวดท้องคลอด สามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

  • อาการเจ็บท้องเตือน : การเจ็บท้องเตือนเกิดจากกล้ามเนื้อ เตรียมพร้อมในการคลอดที่กำลังมา โดยคุณแม่จะรู้สึกแน่นบริเวณช่องท้อง และรู้สึกเจ็บปวดเป็นช่วง ๆ ซึ่งบริเวณที่เจ็บนั้น อาจเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อคุณแม่นั่งพัก เดิน หรือเปลี่ยนท่านั่ง
  • อาการเจ็บท้องจริง : การเจ็บท้องจริงเกิดจากการบีบตัวของมดลูก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด โดยจะมีอาการแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งอาการที่มักพบได้บ่อยนั้น จะมีลักษณะปวดบริเวณท้องน้อย และบริเวณหลัง แม่ท้องบางคนอาจมีอาการปวดบริเวณต้นขา และข้างลำตัว ซึ่งจะมีอาการคล้ายกับปวดประจำเดือน และท้องเสีย แต่จะมีอาการปวดที่รุนแรงกว่ามาก ซึ่งอาการเจ็บท้องจริงนี้ จะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ และจะรุนแรงตามการบีบตัวของมดลูก อย่างไรก็ตาม คุณแม่อาจไม่สามารถบรรเทาอาการเจ็บท้องจริงได้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนท่าทาง หรือรับประทานยาแก้ปวดก็ตาม

ทั้งนี้ อาการปวดทั้งสองแบบ อาจไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าถึงเวลาใกล้คลอดแล้วหรือยัง แม่ท้องบางคนจึงอาจมีอาการปวดท้องติดต่อกันหลายวัน และไม่มีการเปลี่ยนบริเวณอุ้งเชิงกรานที่เป็นสัญญาณเตือนในการคลอดลูกนั่นเอง แต่หากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องอย่างต่อเนื่อง เจ็บทุก 5 นาที ติดต่อกัน 1 ชั่วโมง และมีอาการน้ำเดิน มีปัสสาวะไหลออกมาจำนวนมาก และมีมูกเลือกออกมา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ผิดปกติของการใกล้คลอดค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เจ็บท้องหลอก ต่างจากเจ็บท้องจริงอย่างไร เจ็บแบบไหนเรียกว่าปวดท้องใกล้คลอด

 

ปวดท้องคลอด

 

เจ็บท้องเตือนต่างเจ็บท้องจริงอย่างไร?

เจ็บท้องเตือน

เจ็บท้องจริง

ปวดท้องไม่สม่ำเสมอ ปวดเป็นพัก ๆ ปวดท้องสม่ำเสมอ ปวดทุก 10 นาที
ปวดท้องเป็นช่วง ๆ ชั่วโมงละครั้ง ปวดท้องเรื่อย ๆ จาก 10 นาที เป็น 5 นาที
ปวดท้องไม่มาก ปวดท้องขึ้นเรื่อย ๆ
ปวดบริเวณช่องท้อง ปวดท้องน้อย ปวดหลัง ปวดบริเวณต้นขา และข้างลำตัว
ปากมดลูกไม่เปิดขยาย ปากมดลูกเปิดขยาย
สามารถใช้ยาแก้ปวด เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวด หรือให้มดลูกหยุดบีบตัวได้

 

รับมืออย่างไรกับอาการปวดท้องคลอด?

เมื่อมีอาการปวดท้องคลอด คุณแม่อาจไม่สามารถลดความรุนแรงในการปวดท้องได้ แต่คุณแม่สามารถใช้วิธีบรรเทาอาการปวดท้องได้เล็กน้อย ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • ศึกษาการคลอดล่วงหน้า

คุณแม่สามารถศึกษาขั้นตอนการคลอดว่าต้องทำอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมทั้งการฝึกเบ่งคลอดเบื้องต้นก่อนวันคลอดจริง ก็สามารถช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลใจได้ค่ะ คุณแม่สามารถศึกษาด้วยตนเอง ปรึกษากับแพทย์ หรือเข้าคอร์สอบรมเตรียมคลอดได้

 

  • ฝึกควบคุมลมหายใจ

การฝึกควบคุมลมหายใจ เป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในระหว่างคลอดได้ค่ะ คุณแม่สามารถใช้การควบคุมจังหวะหายใจขณะออกกำลังกายได้ โดยอาจใช้วิธีหายใจลึก ๆ ช้า ๆ ให้ลมหายใจออกจากกะบังลม เป็นต้น

 

  • แช่น้ำอุ่น

คุณแม่สามารถอาบน้ำอุ่นด้วยฝักบัว เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และเป็นการนวดร่างกายอีกทางหนึ่ง รวมถึงยังสามารถใช้วิธีการแช่น้ำอุ่นเพื่อช่วยลดอาการปวดท้องขณะคลอดลูกได้ อย่างไรก็ตาม การแช่น้ำที่ลึกเกิน 4 เซนติเมตรอาจทำให้คลอดได้ช้าลง ดังนั้นคุณแม่อาจต้องปรึกษากับแพทย์ประจำตัวก่อนใช้วิธีนี้

 

  • ผ่อนคลายจิตใจ

วิธีผ่อนคลายจิตใจถือเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลใจได้ โดยคุณแม่สามารถนั่งสมาธิ เปิดเพลงฟัง ฝึกลมหายใจ หรือใช้น้ำมันหอมระเหย เพื่อช่วยให้ผ่อนคลายได้มากขึ้นค่ะ

 

  • ใช้ยาบรรเทาอาการปวดท้อง

หากคุณแม่มีอาการปวดท้องคลอด อาจใช้ยาบรรเทาอาการปวดท้องได้ ทั้งนี้คุณแม่ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะยาบางชนิดให้สรรพคุณ และผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน โดยอาจมียาที่ทำให้คุณแม่รู้สึกง่วง และส่งผลกระทบต่อการหายใจของลูกน้อยได้ ทั้งนี้การใช้ยาบรรเทาอาการปวดท้องคลอด เป็นวิธีที่คุณแม่ควรศึกษาอย่างเข้าใจ และควรอยู่ในความใกล้ชิดของแพทย์เสมอ

 

  • ออกกำลังกายเบา ๆ

การออกกำลังกายเบา ๆ และการเคลื่อนไหวไปมา อาจช่วยบรรเทาอาการปวดท้องขณะคลอดได้ อย่างไรก็ตามคุณแม่ไม่ควรใช้แรงมากเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหว และการกลับหัวของลูกในครรภ์ได้เช่นกันค่ะ

 

  • นวดขณะคลอด

แน่นอนว่าการนวด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาอาการปวดท้องขณะคลอดได้เช่นกัน โดยคุณแม่อาจให้สามีนวดบริเวณขมับมือ บริเวณแผ่นหลัง และบริเวณเท้าได้ เพราะนอกจากการนวดจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดให้คุณแม่แล้ว ยังสามารถช่วยผ่อนคลายได้อีกเช่นกัน

 

  • ให้สามีอยู่ใกล้ ๆ เวลาคลอด

หากคุณแม่มีสามี คนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิทอยู่ด้วยในเวลาคลอด ก็จะช่วยคลายความกังวลใจได้เป็นอย่างดี เพราะคนใกล้ชิดจะสามารถช่วยคุณแม่สื่อสารกับแพทย์ และช่วยควบคุมลมหายใจได้ด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องปวดท้องน้อย เจ็บท้องน้อย เป็นอันตรายกับลูกในครรภ์หรือไม่?

 

ปวดท้องคลอด

 

บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย

สัญญาณเตือนเมื่อถึงเวลาใกล้คลอด

เมื่อถึงเวลาใกล้คลอด คุณแม่จะมีอาการปวดท้อง และอาการอื่น ๆ แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของคุณแม่แต่ละคน ซึ่งบางคนอาจมีน้ำเดิน และปวดท้องอย่างรุนแรง โดยคุณแม่สามารถสังเกตสัญญาณเตือนใกล้คลอด ได้ดังนี้

  • อาการท้องลด

อาการท้องลด เป็นอาการที่ทารกในครรภ์จะเริ่มเคลื่อนศีรษะมาอยู่ที่อุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจทำให้คุณแม่รู้สึกโล่ง หายใจสะดวกขึ้น ไม่อึดอัด และท้องมีขนาดเล็กลง ซึ่งอาการท้องลดจะเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หรือชั่วโมงก่อนคลอด อย่างไรก็ตามคุณบางคนอาจไม่มีอาการท้องลดเลยเมื่อถึงเวลาคลอดลูก

 

  • มีเมือกไหลออกทางช่องคลอด

ในช่วงตั้งครรภ์ บริเวณปากมดลูกจะมีเมือกที่คอยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเมื่อถึงเวลาคลอด ปากมดลูกจะเริ่มเปิด และบางลง ทำให้เมือกนี้หลุดออกมา ซึ่งบางครั้งก็อาจมีเลือดปนออกมาอีกด้วยค่ะ

 

  • ปวดหลัง

แม้ว่าอาการปวดหลัง จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับแม่ท้อง แต่หากคุณแม่มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง อาจเป็นสัญญาณเตือนในการใกล้คลอดได้เช่นกัน เพราะอาจมาจากการที่ศีรษะของทารกในครรภ์ ไปสัมผัสกับกระดูกสันหลังของคุณแม่นั่นเอง

 

  • ท้องเสีย

การท้องเสีย ก็เป็นอีกสัญญาณในการใกล้คลอดเช่นกันค่ะ โดยเมื่อถึงเวลาใกล้คลอด ร่างกายจะปล่อยสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งทำให้มดลูกหดตัว ซึ่งเมื่อคุณแม่มีอาการท้องเสีย ก็จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะการขาดน้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการเสี่ยงของการบีบตัวมดลูก ที่จะนำไปสู่การคลอดได้เช่นกัน

 

  • ถุงน้ำคร่ำแตก

ถุงน้ำคร่ำแตก หรือน้ำเดิน เป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่ามดลูกเริ่มบีบตัวเล็กลง เพื่อให้ศีรษะของทารกเคลื่อนตัวสู่อุ้งเชิงกราน โดยน้ำคร่ำจะมีลักษณะใส ๆ คล้ายน้ำปัสสาวะ ซึ่งแม่ท้องจะมีโอกาสน้ำเดินมากถึง 80% ในช่วงเวลาใกล้คลอด หากคุณแม่มีอาการเช่นนี้ ต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

 

วิธีป้องกันถุงน้ำคร่ำแตกก่อนปวดท้องคลอด

  • ไม่พยายามทำงานหนัก
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น
  • รักษาความสะอาดของช่องคลอด
  • ดูแลรักษาไม่ให้ฟันผุ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่เกี่ยวกับถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการปวดท้องคลอด

บทความที่เกี่ยวข้อง : ถุงน้ำคร่ำรั่ว น้ำเดินก่อนคลอด ถุงน้ำคร่ำแตก แม่ท้องทำยังไงดี?

 

ปวดท้องคลอด

 

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?

หากคุณแม่มีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันทีเพื่อเข้ารับการคลอดบุตรอย่างทันท่วงที

  • อาเจียนไม่หยุด
  • มีเลือดออกทางช่องคลอด
  • ลูกไม่ดิ้น หรือดิ้นน้อยกว่าปกติ
  • น้ำคร่ำเป็นสีเขียว สีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สีใส และสีชมพู

 

ปวดท้องคลอด เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่คุณแม่ควรศึกษาอย่างเข้าใจ และไม่ควรกังวลใจจนเกินไป เพราะอาการนี้ มักมีสัญญาณเตือน และวิธีที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ แต่หากคุณแม่เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง น้ำคร่ำแตก และมีเลือดออกทางช่องคลอด ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาต่อไป

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ท้องอ่อนๆ ปวดท้องน้อย ทำไมปวดมาก เสี่ยงแท้งหรือเปล่า?

10 อาหารที่ทําให้ท้องอืด อาหารที่ทำให้ปวดท้อง ยิ่งกินยิ่งปวดท้อง!

ปวดท้องหลังคลอด ปวดมดลูกหลังคลอดเกิดจากอะไร มีวิธีลดอาการปวดไหม

ที่มา : 1, 2, 3, 4

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Sittikorn Klanarong

  • หน้าแรก
  • /
  • การคลอด
  • /
  • ปวดท้องคลอด อาการเป็นอย่างไร สัญญาณแบบไหนแสดงว่าใกล้คลอด?
แชร์ :
  • โรคธาลัสซีเมียอันตรายมากแค่ไหน ตรวจธาลัสซีเมีย ระหว่างตั้งครรภ์ได้หรือไม่?

    โรคธาลัสซีเมียอันตรายมากแค่ไหน ตรวจธาลัสซีเมีย ระหว่างตั้งครรภ์ได้หรือไม่?

  • ขนาดท้องคนท้อง บ่งบอกอะไรได้บ้าง ทำไมคนท้องแต่ละคนมีขนาดท้องไม่เท่ากัน

    ขนาดท้องคนท้อง บ่งบอกอะไรได้บ้าง ทำไมคนท้องแต่ละคนมีขนาดท้องไม่เท่ากัน

  • คนท้องกินข้าวโพดอบเนยได้ไหม ข้าวโพดคลุกเนย กินไม่พอดีเสี่ยงหลายอย่าง

    คนท้องกินข้าวโพดอบเนยได้ไหม ข้าวโพดคลุกเนย กินไม่พอดีเสี่ยงหลายอย่าง

  • โรคธาลัสซีเมียอันตรายมากแค่ไหน ตรวจธาลัสซีเมีย ระหว่างตั้งครรภ์ได้หรือไม่?

    โรคธาลัสซีเมียอันตรายมากแค่ไหน ตรวจธาลัสซีเมีย ระหว่างตั้งครรภ์ได้หรือไม่?

  • ขนาดท้องคนท้อง บ่งบอกอะไรได้บ้าง ทำไมคนท้องแต่ละคนมีขนาดท้องไม่เท่ากัน

    ขนาดท้องคนท้อง บ่งบอกอะไรได้บ้าง ทำไมคนท้องแต่ละคนมีขนาดท้องไม่เท่ากัน

  • คนท้องกินข้าวโพดอบเนยได้ไหม ข้าวโพดคลุกเนย กินไม่พอดีเสี่ยงหลายอย่าง

    คนท้องกินข้าวโพดอบเนยได้ไหม ข้าวโพดคลุกเนย กินไม่พอดีเสี่ยงหลายอย่าง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ