TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

5 วิธี เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ งดงามจากภายใน อยู่ที่ไหนใครๆ ก็รัก

บทความ 5 นาที
5 วิธี เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ งดงามจากภายใน อยู่ที่ไหนใครๆ ก็รัก

เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ ปลูกฝัง empathy ให้ลูกรู้จักใส่ใจความรู้สึกของอื่น ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนใครๆ ก็รักและเอ็นดู

เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ เริ่มจากการเป็นแบบอย่างที่ลูกได้ “รู้สึก” มากกว่าการ “สอน” บทความนี้จะพาไปเข้าใจวิธี เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ ปลูกฝัง Empathy ให้ลูกรู้จักใส่ใจความรู้สึกของอื่น ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนใครๆ ก็รักและเอ็นดู

 

เมื่อคำว่า “เห็นอกเห็นใจ” ถูกเข้าใจผิด

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและการแข่งขัน หลายครอบครัวอาจเผลอให้ความสำคัญกับความเก่ง ความแกร่ง หรือการคิดถึงตัวเองมากกว่าการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น พ่อแม่หลายคนอยาก เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ อยากให้ลูกเป็นคนดี มีน้ำใจ มี Empathy แต่กลับใช้วิธีผิด เช่น สั่งให้ช่วยเพื่อน หรือดูลูกว่า อย่าเอาแต่ใจตัวเอง โดยลืมไปว่า…เด็กจะเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้ ก็ต่อเมื่อเขา เคยได้รับความเข้าใจมาก่อน

 

ความเห็นอกเห็นใจคืออะไร (Empathy vs Sympathy)

Empathy คือความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร และสามารถ “รู้สึกร่วม” ได้อย่างแท้จริง ต่างจาก Sympathy ที่เป็นเพียงความสงสารหรือความรู้สึกจากระยะไกล

ยกตัวอย่าง:

  • Sympathy: “โถ น่าสงสารจังเลย”
  • Empathy: “ฉันเข้าใจเลยว่ามันคงยากมากๆ สำหรับเธอ…”

ในแง่ของเด็ก ความเห็นอกเห็นใจไม่ใช่แค่การสอนให้พูดว่า ขอโทษ แต่เป็นการเข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นจริงๆ

งานวิจัยจาก Harvard’s Making Caring Common Project พบว่า เด็กที่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากพ่อแม่อย่างสม่ำเสมอ จะมีแนวโน้มแสดงความเมตตาและช่วยเหลือผู้อื่นสูงกว่าเด็กที่ถูกสอนด้วยคำสั่งหรือบังคับให้ “ต้องมีน้ำใจ”

 

เด็กเกิดมาพร้อมความเห็นอกเห็นใจหรือไม่?

มีคำถามเสมอว่า “เด็กเล็กยังไม่รู้ความ จะเห็นใจใครได้ยังไง?” แต่ความจริงคือ เด็กมีศักยภาพของ Empathy มาตั้งแต่เกิด และสามารถพัฒนาได้อย่างมากในช่วงวัยก่อน 6 ขวบ

  • University of Washington (2014): พบว่าเด็กวัย 18 เดือนสามารถเข้าใจอารมณ์ผู้อื่นและแสดงความช่วยเหลือได้เมื่อเห็นใครบางคนกำลังลำบาก
  • ระบบสมองที่เกี่ยวข้องกับ empathy เช่น Mirror Neurons เริ่มทำงานตั้งแต่ยังเล็ก เด็กจะเลียนแบบท่าทาง สีหน้า และอารมณ์ของผู้ใหญ่โดยไม่รู้ตัว

ซึ่งหมายความว่า…ลูกกำลังเรียนรู้วิธีเห็นอกเห็นใจผ่าน “ทุกสิ่งที่คุณทำ” ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณพูด

 

เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ

 

5 วิธี “เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ” 

1. ฟังลูกให้มากกว่าที่คิด

เด็กที่รู้ว่าพ่อแม่ฟังเขา จะรู้สึกว่าความรู้สึกของเขามีคุณค่า และสิ่งนี้เองที่จะทำให้เขารู้จักรับฟังคนอื่นได้ในอนาคต ฟังแบบไม่ตัดบท ไม่แก้ไข ไม่รีบสอน แค่ “อยู่ตรงนั้น” กับความรู้สึกของลูกพอแล้ว เช่น

  • “หนูเสียใจใช่ไหม ที่วันนี้ไม่มีใครชวนเล่นเลย” แสดงให้ลูกเห็นว่าเรารับรู้ความโดดเดี่ยวของเขา โดยไม่รีบปลอบหรือบอกว่า “ไม่เป็นไร”

  • “หนูโกรธมากเลยเนอะ ที่พี่แย่งของเล่นไปทั้งที่ยังเล่นไม่เสร็จ” แทนที่จะบอกว่า “อย่าโกรธเลย” เราช่วยลูกตั้งชื่ออารมณ์และยอมรับความรู้สึกนั้น

  • “แม่ได้ยินนะว่าหนูบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน…มันต้องมีอะไรทำให้รู้สึกไม่ดีแน่ ๆ ใช่ไหมลูก” เปิดใจรับฟังโดยไม่บังคับให้ลุกไปโรงเรียนทันที

  • “แม่เข้าใจนะ ว่าหนูเหนื่อยและอยากอยู่กับแม่ต่ออีกนิด” ฟังและเข้าใจความผูกพันของลูก แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องแยกจากกัน

  • “หนูอาจรู้สึกว่าทำผิด…แต่แม่ก็ยังอยู่ตรงนี้นะ ถ้าหนูอยากเล่าเมื่อพร้อม” เว้นที่ว่างให้ลูกได้แสดงออกตามจังหวะของตัวเอง โดยไม่เร่งรัดหรือขู่ว่าต้องสารภาพ

 

2. สะท้อนความรู้สึก แทนที่จะสั่งให้หยุดร้อง

“อย่าร้องไห้” หรือ “เรื่องแค่นี้เอง” เป็นประโยคที่บั่นทอนความสามารถในการแสดงความเห็นอกเห็นใจของเด็ก แทนที่จะกดทับอารมณ์ เราควร “ยืนยันความรู้สึก” เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าทุกอารมณ์มีที่ทางในใจเรา เช่น

  • “แม่รู้ว่าหนูเสียใจมาก เพราะตั้งใจวาดรูปนี้สุด ๆ แล้วโดนน้ำหกใส่” ยืนยันอารมณ์เสียใจ และเห็นความตั้งใจของลูก ไม่ใช่แค่ปลอบว่า “ไว้วาดใหม่ก็ได้”

  • “แม่เข้าใจนะ ว่าหนูหงุดหงิดที่ต้องหยุดเล่น ทั้งที่กำลังสนุกอยู่” แทนที่จะพูดว่า “แค่นี้เอง ทำไมต้องงอแง” เราเลือกที่จะเข้าใจมุมมองของลูกก่อน

  • “แม่ได้ยินเลยว่าหนูไม่พอใจที่พี่ไม่แบ่งขนมให้ ทั้งที่เมื่อกี้หนูแบ่งให้พี่ก่อน” สะท้อนความรู้สึกไม่เป็นธรรมในใจลูก โดยไม่รีบสอนให้ “เสียสละ”

  • “แม่เห็นนะว่าหนูกำลังกลัวเสียงฟ้าร้องมากเลยตอนนี้” แทนการพูดว่า “ไม่มีอะไรน่ากลัว” การยอมรับความกลัวจะช่วยให้เด็กสงบลงได้เร็วกว่า

  • “หนูคงรู้สึกอายมากเลยใช่ไหม ที่ถูกเพื่อนล้อหน้าเพื่อน ๆ” แทนที่จะบอกว่า “ไม่เห็นต้องอายเลย” เราเลือกที่จะยืนข้างความรู้สึกของเขาก่อน

เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

3. พูดถึงอารมณ์ในชีวิตประจำวัน

สอนคำศัพท์เกี่ยวกับอารมณ์ผ่านเหตุการณ์ เช่น 

  • “หนูตื่นเต้นใช่ไหม ที่พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ” ช่วยให้ลูกเข้าใจคำว่า “ตื่นเต้น” และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ดี ๆ

  • “หนูผิดหวังมากเลยใช่ไหม ที่ฝนตกแล้วไม่ได้ออกไปขี่จักรยาน” คำว่า “ผิดหวัง” เป็นอารมณ์ที่เด็กควรเรียนรู้ เพราะเกิดบ่อยในชีวิตจริง

  • “หนูภูมิใจในตัวเองมากเลยเนอะ ที่เก็บของเล่นเองได้หมด” ใช้โอกาสนี้ฝึกคำว่า “ภูมิใจ” และเสริม Self-Esteem ไปพร้อมกัน

  • “หนูอิจฉาใช่ไหม ที่เห็นพี่ได้ของเล่นชิ้นใหม่” สอนให้ลูกรู้จักคำว่า “อิจฉา” อย่างไม่ตัดสินว่าเป็นอารมณ์ไม่ดี แต่ช่วยเข้าใจมัน

  • “หนูกำลังรู้สึกเบื่อใช่ไหม เพราะนั่งรอแม่ทำงานนานแล้ว” เด็กเล็กมักไม่รู้จักคำว่า “เบื่อ” และอาจแสดงออกด้วยความงอแง การช่วยตั้งชื่อนี้ให้ จะทำให้เขาสื่อสารอารมณ์

งานวิจัยจาก Yale Center for Emotional Intelligence พบว่าเด็กที่สามารถระบุและเข้าใจอารมณ์ได้ดี จะมีความสามารถในการจัดการอารมณ์และเข้าสังคมดีกว่า

 

4. ใช้หนังสือ นิทาน และภาพยนตร์เป็นเครื่องมือฝึกใจ

การตั้งคำถามชวนคิดหลังนิทาน เช่น “หนูคิดว่าเต่าเสียใจไหมที่ถูกล้อเรื่องเดินช้า?” หรือ “หมีกำลังรู้สึกยังไงตอนเพื่อนไม่ชวนเล่น?” เป็นวิธีฝึกให้เด็ก “มองโลกจากมุมของผู้อื่น” ซึ่งคือแก่นของ empathy

นักจิตวิทยา Paul Zak (Claremont Graduate University) ชี้ว่า การฟังเรื่องเล่าที่กระตุ้นอารมณ์จะช่วยหลั่งสารออกซิโทซิน oxytocin ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเห็นอกเห็นใจ

แนะนำหนังสือเด็ก ที่สอนเรื่อง Empathy

  • เมื่อสงครามมาเยือน สนพ. Sandclock Books
  • คุณหมีหลงทาง สนพ. Amarin Kids
  • เด็กชายผมดอกไม้ สนพ. Amarin Kids

5. เป็นแบบอย่างของความเห็นอกเห็นใจทุกวัน

ลูกไม่เรียนรู้จากคำสั่ง แต่เรียนรู้จากพฤติกรรมของพ่อแม่ เช่น ขอบคุณคนส่งของ ขอโทษเมื่อลูกเห็นว่าเราทำผิด แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อคู่ชีวิตเวลาเหนื่อย

  • พูดกับคุณตาคุณยายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้ท่านจะพูดซ้ำเรื่องเดิมหลายรอบ ลูกจะเรียนรู้ว่าการอดทนและให้เกียรติคนที่อ่อนแอกว่า คือการแสดงความเข้าใจและเคารพ

  • ถามพนักงานส่งของว่า “วันนี้เหนื่อยไหมคะ” แล้วกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ ลูกจะเห็นว่าการเห็นใจคนอื่นไม่ได้จำกัดแค่ในครอบครัว แต่ขยายได้สู่คนแปลกหน้า

  • เมื่อเห็นคนกำลังลำบาก เช่น หกล้ม หรือถือของหนัก พ่อแม่รีบเข้าไปช่วยโดยไม่ลังเล ลูกจะเรียนรู้ว่า “ถ้าเห็นใครลำบาก เราช่วยได้เสมอ” แม้เขาจะไม่ร้องขอ

  • พูดกับลูกว่า “เมื่อกี้แม่พูดแรงไป แม่ขอโทษนะ แม่จะพยายามใจเย็นกว่านี้” ลูกจะเข้าใจว่า คนเราผิดได้ และความกล้าหาญที่แท้จริงคือการขอโทษอย่างจริงใจ

  • แสดงความห่วงใยคู่ชีวิต เช่น “พ่อดูเหนื่อยนะ อยากให้พักก่อน เดี๋ยวแม่ช่วยดูแลลูกเอง” ลูกจะเห็นภาพของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการแบ่งเบา ไม่ใช่แค่แบ่งหน้าที่

ทุกการกระทำเหล่านี้คือ “บทเรียนชีวิต” ที่จะฝังลึกในใจลูกไปตลอดชีวิต

เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ

เมื่อเด็กไม่ได้รับ Empathy จะเป็นอย่างไร

เมื่อเด็กไม่ได้รับ Empathy …พวกเขาจะ “ปิดใจ” มากกว่า “เปิดใจ”

การเลี้ยงดูที่เต็มไปด้วยคำตำหนิ เสียงดุด่า การตี หรือการเปรียบเทียบ จะทำให้เด็กพัฒนาเกราะป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวดทางอารมณ์ และกลายเป็นคนที่ไม่เปิดรับความรู้สึกของผู้อื่น

Dr. Becky Kennedy (Good Inside) กล่าวว่า “เด็กที่ได้รับความเข้าใจจากผู้ใหญ่ จะสามารถยอมรับและเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้” ในทางกลับกัน ถ้าเด็กไม่เคยถูกเข้าใจ เขาก็ไม่มีทางเข้าใจคนอื่นได้เช่นกัน

 

อย่าวัดความสำเร็จของ Empathy จากการที่ลูกพูดว่า “ขอโทษ” ต่อหน้าคนอื่น

หลายครั้งพ่อแม่เผลอบังคับให้ลูก “พูดขอโทษ” ทั้งที่เด็กยังไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร

  • การขอโทษที่ไม่มีใจ เป็นเพียงมารยาท
  • การเห็นใจที่มาจากความเข้าใจจริง เป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่ดีตลอดชีวิต

Carol Dweck (Stanford University) กล่าวไว้ว่า การสอนเรื่องจริยธรรมและ Empathy ควรเน้นที่ “กระบวนการคิดและรู้สึก” ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์หรือการกระทำภายนอก

สิ่งที่ลูกเห็นและรู้สึกจากพ่อแม่ในทุกๆ วัน คือครูที่ดีที่สุด

อยากให้ลูกมีน้ำใจ? พ่อแม่แสดงความเมตตาให้เขาเห็นหรือยัง
อยากให้ลูกรู้จักฟังคนอื่น? วันนี้พ่อแม่ฟังเขาแบบไม่ขัดหรือยัง
อยากให้ลูกเข้าใจคนอื่น? พ่อแม่เข้าใจลูกก่อนหรือเปล่า

เพราะในท้ายที่สุด…ความเห็นอกเห็นใจ ไม่ได้เติบโตจากคำสอน แต่งอกงามในหัวใจของเด็กที่เคยได้รับความเข้าใจจากผู้ใหญ่ที่รักเขาต่างหาก

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เทคนิค เลี้ยงลูกให้รับข่าวสารเป็น เสพสื่ออย่างมีสติ เหมาะสมกับวัย

เลี้ยงลูกให้อดทน ในโลกที่เร่งรีบ พร้อมวิธีฝึกความอดทน ในเด็กแต่ละวัย

เลี้ยงลูกให้เห็นคุณค่าในแบบของตัวเอง เรียนไม่เก่งก็ประสบความสำเร็จได้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 5 วิธี เลี้ยงลูกให้มีความเห็นอกเห็นใจ งดงามจากภายใน อยู่ที่ไหนใครๆ ก็รัก
แชร์ :
  • 10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

    10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

  • 10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

    10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

  • วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

    วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

  • 10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

    10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

  • 10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

    10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

  • วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

    วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว