10 วิธีในการสอนลูกของคุณให้มี ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
คุณพ่อคุณแม่จะสอนลูก ๆ ของคุณให้มี ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ ได้อย่างไร? การแสดงความห่วงใยความรู้สึกของผู้อื่นและการเป็นคนซื่อสัตย์เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างคุณธรรมของพวกเรา สิ่งเหล่านี้แม้จะเป็นนามธรรม แต่ก็สามารถที่จะสอนลูกของคุณด้วยได้ด้วยตนเอง
ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
เป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้าง ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ ให้แก่พวกเขา
ถ้าหากว่าคุณทั้งคู่ยังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้พวกเขาเห็นอยู่ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรคาดหวังว่าลูก ๆ จะปฏิบัติตัวตามความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความซื่อสัตย์ หรือการมีน้ำใจก็ตาม เพราะพฤติกรรมของพวกคุณจะเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ นั้นเข้าใจว่า พวกเขาสามารถทำได้และทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข หากคุณต้องการที่จะให้ลูกของคุณเป็นคนมีน้ำใจและซื่อสัตย์ คุณจะต้องแสดงให้พวกเขาได้รู้ว่า การกระทำแบบใดถึงจะเรียกว่าความซื่อสัตว์และความมีน้ำใจ
ให้คำชมแก่พวกเขา
หลาย ๆ ครั้งที่ลูก ๆ ของคุณมีพฤติกรรมที่ดี คุณควรให้คำชมแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาได้แสดงพฤติกรรมเหล่านี้เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใด เด็ก ๆ ก็ควรได้รับคำชม แม้ว่าพวกเขาจะแค่ทานอาหารหมด เก็บซองขนมที่ทานไปทิ้งขยะ หรือแม้แต่สามารถแปรงฟันได้เอง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรที่จะให้คำชมพวกเขา เพราะเป็นเหมือนการให้กำลังใจและพลังผลักดันให้พวกเขาได้ทำสิ่งดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ
สอนพวกเขาว่า ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ มีผลอย่างไร
เมื่อคุณต้องการสอนลูก ๆ ว่าควรทำสิ่งใด ไม่ควรทำสิ่งใด คุณควรที่จะยกตัวอย่างและบอกถึงผลลัพธ์ในการกระทำนั้น ๆ ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น “เมื่อลูกช่วยเหลือคนอื่น พวกเขาก็จะรู้สึกดีขึ้น” หรือ “ หากใครไม่ซื่อสัตย์ คนนั้นจะไม่ได้รับความไว้ใจจากใครเลย” สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจในพฤติกรรมเชิงสังคมมากขึ้น เขาจะเริ่มตระหนักว่าความใจดีและความซื่อสัตย์มีผลกระทบกับพวกเขาอย่างไร
มอบหมายหน้าที่ภายในบ้านให้พวกเขา
เป็นเรื่องที่ดีที่คุณพ่อคุณแม่จะกำหนดหน้าที่รับผิดชอบงานบ้านแก่พวกเขา อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ใหญ่โต แต่เป็นงานเล็ก ๆ เพื่อให้พวกเขาได้ฝึก เช่น การช่วยเตรียมอาหารให้กับทุกคนในครอบครัว เป็นต้น การให้หน้าที่ภายในบ้านกับลูกเช่นนี้ จะทำให้ลูกโตขึ้นไปและมีจิตใจที่นึกคิดถึงผู้อื่นและเอาใจใส่ผู้อื่น
ความซื่อสัตย์และมีน้ำ ใจ
พูดถึงเกี่ยวกับการแสดง ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
พยายามหาประเด็นที่เกี่ยวกับการแสดงความห่วงใยผู้อื่นมาพูดคุยกับเด็ก ๆ เพื่อให้เค้าได้แสดงความเห็นและคุณพ่อคุณแม่คอยชี้แนะว่าความเห็นใดที่เหมาะสม เช่น ทำไมผู้คนที่มีฐานะร่ำรวยถึงมักจะบริจาคเงินให้กับเด็ก ๆ ที่ยากไร้ การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีทัศนคติที่ห่วงใยผู้อื่นมากขึ้น
อย่าอดทนกับความไม่ซื่อสัตย์
อย่าปล่อยให้ใครก็ตามแต่มาลบความเชื่อที่ดีจากลูกคุณ เพราะอาจจะมีคนใกล้ตัวเขาเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์และนี่อาจจะทำให้เขาเรียนรู้ อีกทั้งเขาเองอาจจะเป็นคนที่ถูกคนไม่ซื่อสัตย์เหล่านี้กระทำบางอย่างที่ทำให้รู้สึกแย่ ให้คุณอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล หรือบางครั้งอาจจะเป็นลูกคุณเองที่ทำพฤติกรรมดังกล่าว อย่าเพิ่งทำโทษหรือต่อว่าพวกเขา แต่ให้พูดคุยและสอบถามถึงสาเหตุและหาทางแก้ไขไปด้วยกัน จากนั้นจึงค่อยตักเตือนพวกเขาอีกครั้งว่าการกระทำเช่นนี้จะได้รับผลอย่างไร
หาวิธีแก้ไขนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ของลูกให้มี ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ แทน
บางครั้งลูกของคุณอาจจะหลงลืมการกระทำดี ๆ ไปบ้างเนื่องจากวุฒิภาวะต่าง ๆ ลูกของคุณอาจจะไม่มีน้ำใจและไม่มีความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนร่วมห้อง ให้คุณสังเกตพฤติกรรมของลูก จากนั้นให้หาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขกับนิสัยของลูกมาปรับใช้ให้ถูกวิธี
ความ ซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
มีส่วนร่วมในการบริจาค
ไม่ว่าพวกเขาจะมีเงินอยู่ในกระเป๋าสตางค์ หรือในกระปุกออมสินมากเท่าใดก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นแนะนำให้พวกเขาได้ลองทำบุญและบริจาคให้กับโครงการต่าง ๆ ที่ขาดแคลนดู เพราะนี่อาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่สามารถจุดประกายความมีน้ำใจแก่พวกได้ไม่มากก็น้อย
แรงกดดันจากเพื่อน ๆ ในโรงเรียน
เป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่ว่าเด็ก ๆ ทุกคนถูกเลี้ยงดูมาแตกต่างกัน เป็นไปได้อยู่แล้วที่เด็ก ๆ จะมีนิสัยที่แตกต่างกัน ลูก ๆ ของคุณอาจมีมุมมองที่ห่วงใยและเป็นเด็กดีเมื่ออยู่ที่บ้าน แต่เขาอาจต้องเผชิญกับสิ่งแย่ ๆ และความขัดแย้งภายในโรงเรียนก็ได้ ตัวอย่างเช่น กลุ่มเพื่อน ๆ ของเขาอาจจะคิดว่าเป็นการดีที่จะหยอกล้อเด็กที่อ่อนแอกว่า ฉะนั้นคุณอย่าลืมคอยย้ำให้ลูกคุณทราบว่าพฤติกรรมที่เพื่อน ๆ ของเขานั้นทำอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ดี และสอนว่าควรทำอย่างไรให้เป็นเด็กที่มีน้ำใจ
นำสัตว์มาเลี้ยงเพื่อให้พวกเขามี ความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
การนำสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะหมาหรือว่าแมวมาเลี้ยง ถือเป็นการสร้างความรับผิดชอบให้แก่พวกเขา หากคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องการเลี้ยงหมาหรือแมว พวกคุณอาจจะหาสัตว์เล็ก ๆ อย่างปลา และหนูแฮมสเตอร์มาเลี้ยงได้ การเลี้ยงสัตว์นอกจากจะทำให้ลูก ๆ มีความรับผิดชอบแล้ว ยังสามารถทำให้เด็ก ๆ มีความอ่อนโยนและเอาใจใส่มากขึ้น สัตว์เลี้ยงสามารถทำให้พวกเขามีจิตใจที่อ่อนโยนและนึกถึงผู้อื่นแน่นอน
ความซื่อ สัตย์และมีน้ำใจ
เหตุผลที่ทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้เด็กมีความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ
เด็กจะมีความสุข
ในทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่าความรู้สึกที่ดีที่เราได้สัมผัสเมื่อเป็นผู้ให้ หรือเป็นคนใจดีนั้นเกิดจากเอ็นดอร์ฟินที่กระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของสมองที่เกี่ยวข้องกับความสุข ความสัมพันธ์ทางสังคม และความไว้วางใจ
ความซื่อสัตย์ และมีน้ำใจ
ได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ ของเขา
การวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้พิจารณาแล้วว่าการมีน้ำใจเพิ่มการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่น การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กที่มีความสุขที่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนมาก อีกทั้งยังส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
ไม่มีความเครียดและสุขภาพดี
มีการบันทึกไว้อย่างกว้างขวางว่าการมีน้ำใจสามารถกระตุ้นการปล่อยฮอร์โมนออกซิโตซินซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ เนื่องจากสามารถเพิ่มระดับความสุขของบุคคลและลดความเครียดได้ อีกทั้งพบว่ามีบทบาทสำคัญในระบบหัวใจและหลอดเลือดที่ช่วยปกป้องหัวใจด้วยการลดความดันโลหิต ลดอนุมูลอิสระอีกด้วย
การเห็นคุณค่าในตนเองมากขึ้น
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้คนมีจิตใจดี ซื่อสัตย์ มีน้ำใจ สารเอ็นดอร์ฟินจะสร้างความภาคภูมิใจที่ยั่งยืน สร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่พวกเขา แม้การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีน้ำใจก็ยังเพิ่มความรู้สึกดี ๆ ได้ อีกทั้งยังเพิ่มพลังงานและให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการมองโลกในแง่ดีอีกด้วย
มีความกตัญญูกตเวที
เมื่อเด็ก ๆ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ช่วยเหลือผู้อื่นที่ด้อยโอกาสกว่า มันจะทำให้พวกเขามีมุมมองที่แท้จริงและช่วยให้พวกเขาชื่นชมสิ่งดี ๆ ในชีวิตของพวกเขาได้
มีพฤติกรรมและผลการเรียนที่ดีขึ้น
เซโรโทนินซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ความจำ อารมณ์ การนอนหลับ สุขภาพ และการย่อยอาหาร แต่ความมีน้ำใจก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้เด็กรู้สึกดีขึ้น การมีมุมมองที่เป็นบวกจะช่วยให้พวกเขามีสมาธิมากขึ้นและทำให้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อให้ได้ผลการเรียนดีขึ้น
ไม่รังแกผู้อื่น
นักวิจัยคณะแฮร์ริสเบิร์กของเพนน์สเตทแห่งรัฐเพนน์สเตตคลาร์กและบาร์บารามารินานัค กล่าวว่า มันไม่เหมือนวัยรุ่น ๆ ในยุคก่อน ๆ ที่พวกเขามักจะโต้แย้งและกลั่นแกล้งกัน อีกทั้งยังมีในเรื่องความรุนแรงของเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องการสอนให้เด็ก ๆ มีน้ำใจ จะสามารถช่วยลดการรังแกที่เกินขึ้นในโรงเรียนได้
ลดอาการซึมเศร้า
ดร. เวย์นไดเออร์ผู้เขียนและนักพูดชื่อดังระดับโลก กล่าวว่า งานวิจัยได้ค้นพบว่าการกระทำของความเมตตา ช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนิน (สารเคมีธรรมชาติที่ช่วยในการปรับปรุงอารมณ์) ในสมอง นอกจากนี้ยังพบว่าระดับเซโรโทนินเพิ่มขึ้นทั้งผู้ให้และผู้รับ การแสดงความใจดีแก่ผู้อื่น รวมถึงผู้ที่ได้รับสิ่งนั้นจากผู้อื่นทำให้พวกเขามีความสุขมาก
ถึงแม้ว่าหลาย ๆ ครั้งที่พวกเราได้เห็นข่าวสารมากมายที่เกี่ยวกับความทุจริตและเห็นแก่ตัว เป็นเรื่องที่ต้องพยายามยอมรับว่า ทุก ๆ สังคมนั้นมีความแตกต่างในเรื่องอารมณ์และพฤติกรรมกันทั้งนั้น
แต่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย สามารถปลูกฝังนิสัยที่แตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพียงแค่ค่อย ๆ สั่งสอนพวกเขาไปทีละนิด ให้พวกเขาได้ซึมซับสิ่งดี ๆ จากพวกคุณ ให้พวกเขาได้รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และให้พวกเขาได้เคยชินกับการมีน้ำใจและความซื่อสัตย์ หากคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังพวกเขาจนเคยชิน เมื่อพวกเขาเติบโตและใช้ชีวิตในสังคม พวกเขาก็จะเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และมีน้ำใจให้แก่ผู้อื่นแน่นอน
บทความต้นฉบับ TeachThought youngparent
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ถ้าสัตว์เลี้ยงตายคุณจะบอกลูกหรือไม่? ทำอย่างไรดีเมื่อสัตว์เลี้ยงตาย
ทารกใจดี รู้ได้ตั้งแต่ยังเล็ก วิจัยเผยเด็กจะมีจิตใจดี รู้ได้ตั้งแต่ตอนเป็นทารก
18 เรื่องเหลือเชื่อที่เด็กเชื่อ มีอะไรบ้าง ลูกของคุณหรือ คุณตอนเด็กเคยเชื่อมั๊ย?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!