เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมคนท้องถึงชอบกินของหวาน คนท้องชอบกินของหวาน อันตรายไหม มาทำความเข้าใจที่ถูกต้องกันค่ะว่า คนท้องกินของหวานได้ไหม กินยังไงให้เหมาะสม พร้อมเคล็ดลับช่วยให้คุณแม่ท้องควบคุมของหวานแต่พอดี เพื่อสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรง ปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อย
ทำไม คนท้องชอบกินของหวาน ?
ในช่วงเวลาที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ คุณแม่ท้องอาจสังเกตว่าตัวเองโหยหา “ของหวาน” เป็นพิเศษ ความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญค่ะ แต่มีสาเหตุดังนี้
ในระหว่างการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ฮอร์โมนสำคัญ เช่น Human Chorionic Gonadotropin (hCG) ซึ่งสูงขึ้นในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดอาการแพ้ท้อง ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้สึกอยากอาหารและทำให้บางคนรู้สึกอยากอาหารที่มีรสชาติเฉพาะเจาะจง เช่น รสหวาน นอกจากนี้ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และ โปรเจสเตอโรน ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลต่อประสาทรับรสและกลิ่น ทำให้ความรู้สึกต่อรสชาติต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป และบางครั้งรสหวานอาจเป็นรสชาติที่รู้สึกสบายและดึงดูดมากกว่ารสอื่นๆ
-
ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของคุณแม่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ร่างกายจึงต้องการพลังงาน (แคลอรี่) ที่มากขึ้นเพื่อสนับสนุนกระบวนการเหล่านี้ ของหวานส่วนใหญ่มักให้พลังงานสูงและรวดเร็ว ทำให้ร่างกายของคุณแม่โหยหาเพื่อเติมเต็มความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นนี้เอง
อาการแพ้ท้องที่เกิดขึ้นในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจทำให้คุณแม่รับประทานอาหารได้น้อยลงหรือไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายจะส่งสัญญาณให้ต้องการอาหารที่สามารถเพิ่มระดับน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาหารที่มีรสหวาน เช่น น้ำตาล ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
ในช่วงตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลกระทบต่อประสาทรับรสและกลิ่นของคุณแม่ ทำให้ความไวต่อรสชาติและกลิ่นบางชนิดเปลี่ยนแปลงไป บางครั้งรสชาติที่เคยชอบอาจไม่รู้สึกอร่อยเหมือนเดิม ในขณะที่รสหวานอาจกลายเป็นรสชาติที่น่าพึงพอใจและช่วยบรรเทาอาการไม่สบายต่างๆ ได้
-
ของหวานทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ คุณแม่อาจรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือต้องการความสบายใจ การรับประทานของหวานสามารถกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟินในสมอง ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้รู้สึกดีและผ่อนคลาย ดังนั้น ความอยากของหวานจึงอาจเป็นกลไกทางจิตใจอย่างหนึ่งในการตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์ในช่วงนี้
แม่ท้องกินของหวานมากเกินไป อันตรายอย่างไร ?
แม้ว่าความอยากของหวานจะเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ แต่หากกินของหวานมากเกินไปอาจเกิดผลกระทบต่อทั้งสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ มาดูกันว่า หากแม่ท้องกินของหวานมากเกินไปอาจส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

-
เสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์
การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จะนำไปสู่ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นภาวะที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ต่อทั้งคุณแม่ เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะครรภ์เป็นพิษ การคลอดก่อนกำหนด และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต สำหรับทารกในครรภ์
ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้คลอดยาก บาดเจ็บระหว่างคลอด หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหลังคลอด นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนและเบาหวานในอนาคตของทารกอีกด้วย
ของหวานส่วนใหญ่มักมีแคลอรี่สูงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ หากกินมากเกินไปโดยไม่สมดุลกับกิจกรรมทางกายจะทำให้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากเกินเกณฑ์ที่แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณแม่ เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะครรภ์เป็นพิษ เบาหวานขณะตั้งครรภ์ อาการปวดหลัง และยังเพิ่มโอกาสในการคลอดบุตรยาก หรือต้องผ่าคลอดอีกด้วย
มีการศึกษาที่เชื่อมโยงการกินน้ำตาลมากเกินไปและการมีน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วขณะตั้งครรภ์กับความเสี่ยงภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งมีลักษณะของความดันโลหิตสูงและมีโปรตีนในปัสสาวะ ภาวะนี้เป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ของหวานมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องปาก แบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายน้ำตาลและปล่อยกรดออกมาทำลายเคลือบฟัน ทำให้คนท้องฟันผุได้ง่ายขึ้น ในช่วงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปอาจทำให้เหงือกบอบบางและอักเสบง่ายขึ้น การกินของหวานมากเกินไปจึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาในช่องปาก
คนท้องชอบกินของหวาน เสี่ยงลูกพิการจริงไหม ?
ผศ. พญ. อัจจิมา สูงสถิตานนท์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ อธิบายไว้ว่า คนท้องชอบกินของหวาน ไม่ได้ทำให้ลูกพิการ เพราะจริงๆ แล้ว อาหารหวานโดยตรงไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงพิการในทารก แต่ความเสี่ยงจะมาจากการที่อาหารหวาน เพิ่มโอกาสให้คุณแม่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หากควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ทารกเสียชีวิตในครรภ์ ทารกตัวใหญ่จนคลอดติดไหล่ หรือคุณแม่ตกเลือดหลังคลอด
สิ่งที่ควรระวังคือ คุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานอยู่ก่อนตั้งครรภ์ จะมีความเสี่ยงสูงที่ทารกจะเกิดความผิดปกติหรือพิการในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากระดับน้ำตาลสะสมสูง
เคล็ดลับคุณแม่ท้อง ควบคุมของหวานอย่างพอดี
เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ คุณแม่ท้องควรกินของหวานแต่พอดี และนี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่ควบคุมความอยากของหวานได้อย่างเหมาะสมค่ะ
- เลือกของหวานที่ดีต่อสุขภาพ แทนที่จะเลือกขนมหวานแปรรูปที่มีน้ำตาลสูง ลองเปลี่ยนมาเป็น ผลไม้สด ที่มีความหวานตามธรรมชาติและมีวิตามิน รวมถึงใยอาหารที่เป็นประโยชน์ หรือเลือก โยเกิร์ตธรรมชาติ ที่อาจเติมความหวานได้เล็กน้อยจากผลไม้ หรือมองหา ของหวานที่มีน้ำตาลน้อย เป็นทางเลือก เช่น ขนมอบโฮมเมดที่ลดปริมาณน้ำตาลลง
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และตรงเวลา การทานอาหารหลักให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ในแต่ละมื้อ และรับประทานอาหารให้ตรงเวลา จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ลดโอกาสที่ร่างกายจะโหยหาของหวานเพื่อเติมพลังงานอย่างรวดเร็ว การมีอาหารที่มีโปรตีนและใยอาหารเพียงพอจะช่วยให้อิ่มนานขึ้นและลดความอยากอาหารที่ไม่จำเป็น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอตลอดวัน นอกจากจะช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นแล้ว ยังอาจช่วยลดความรู้สึกอยากของหวานลงได้
- หากิจกรรมอื่นๆ ทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เมื่อรู้สึกอยากของหวาน ลองหากิจกรรมอื่นๆ ที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น การเดินเล่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงานอดิเรก หรือพูดคุยกับคนในครอบครัว การทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยลดความคิดถึงของหวานและทำให้ลืมความอยากไปได้ชั่วขณะ
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ หากคุณแม่มีความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมความอยากของหวาน หรือมีภาวะสุขภาพพิเศษ เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาวะสุขภาพของคุณแม่ค่ะ
ความอยากของหวานเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อย ควรเลือกกินของหวานที่มีประโยชน์ และกินแต่พอดี คุณแม่ก็จะได้มีความสุขกับของหวาน และยังคงสุขภาพที่ดีไว้ได้ในเวลาเดียวกันค่ะ
ที่มา: PPTV HD 36
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คนท้องกินลูกพลับได้ไหม ลูกพลับช่วยบำรุงคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร?
คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม เป็นอันตรายต่อลูกหรือเปล่า?
คนท้องกินอีโนได้ไหม ลมในท้องเยอะ อาหารไม่ย่อย คนท้องควรทำอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!