เมื่อลูกอ้วก อาเจียนบ่อย แต่ไม่มีไข้ คุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าลูกมีอาการแหวะนม แต่ความจริงแล้ว หากลูกอ้วกอาจไม่ใช่อาการแหวะนมแต่อย่างใด แต่อาจเป็นสัญญาณอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อยได้ วันนี้ theAsianparent จะพาคุณพ่อคุณแม่มาดูกันว่า ทารกอ้วก อาเจียนบ่อย เกิดจากอะไร อาการอ้วกแบบไหนที่เป็นอันตรายต่อลูก พร้อมวิธีรับมือเมื่อลูกอ้วกบ่อย ไปติดตามกันค่ะ
ทารกอ้วก กับแหวะนมต่างกันอย่างไร
เมื่อลูกอ้วก คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเข้าใจว่าลูกมีอาการแหวะนม แต่ความจริงแล้วทั้งสองอาการนี้ ค่อนข้างมีความแตกต่างกัน โดยอาการแหวะนมอาจเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่หากลูกมีอาการอาเจียน ก็จะเกิดขึ้นเมื่อลูกมีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หรืออาการป่วยอื่น ๆ เท่านั้น โดยคุณพ่อคุณแม่อาจแยกความแตกต่างได้ดังนี้
- อาหารแหวะนม : อาการแหวะนมเป็นอาหารที่เกิดการไหลเวียนย้อนกลับของอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นภายในท้องของทารก และไม่ไหลออกจากปาก แต่จะมีบางครั้งที่ไหลย้อนออกจากจมูก คล้ายกับอาการกรดไหลย้อน นอกจากนี้ อาการแหวะนมจะมีลักษณะสีขาวขุ่น ต่างจากเมื่อลูกอาเจียน
- อาการอาเจียน : อาการอาเจียนเป็นอาหารที่ทารกสำรอกเอาอาหาร หรือของเหลวออกจากปาก โดยลูกอาจมีน้ำลายไหลออกมาจากปากนั่นเอง
ลูกอ้วก เกิดจากอะไร
ลูกอ้วกบ่อย อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นไวรัสลงกระเพาะ อาการไอ อาการติดเชื้อ แพ้อาหาร หรือแพ้นม เป็นต้น โดยเราสามารถแบ่งสาเหตุของอาการลูกอ้วก ได้ดังนี้
- ไวรัสลงกระเพาะ : เมื่อลูกมีอาการติดเชื้อไวรัสในกระเพาะอาหาร อาจทำให้ลูกมีอาการอ้วก หรือท้องเสียได้ โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วง 12-24 ชั่วโมง
- เป็นหวัด : เด็กเล็กสามารถเป็นหวัดได้ง่าย เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็ง ซึ่งหากลูกมีอาการไข้หวัด ก็อาจทำให้เขาอาเจียนออกมา ร่วมกับอาการอื่น ๆ
- กรดไหลย้อน : ทารกสามารถเป็นกรดไหลย้อนได้เหมือนผู้ใหญ่เช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่นั้น เมื่อลูกมีอาการกรดไหลย้อน ก็จะทำให้เขาอาเจียนออกมาหลังจากดื่มนมไปไม่นาน
- ไออย่างรุนแรง : หากลูกน้อยมีอาการไอเรื้อรัง และไออย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เด็กทารกอาเจียนได้ ซึ่งอาการไอเช่นนี้ มักพบได้บ่อยกับเด็กที่เป็นกรดไหลย้อน
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการอ้วกในเด็ก ทำอย่างไรเมื่อลูกอ้วก สาเหตุเกิดจากอะไร

- แพ้อาหาร : ทารกบางคนอาจมีอาการแพ้อาหารบางชนิด ซึ่งหากลูกรับประทานเข้าไป ก็จะเกิดอาการแพ้จนทำให้อาเจียนออกมา
- แพ้นม : ทารกที่แพ้นมอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนหลังจากดื่มนมเข้าไป อีกทั้งยังทำให้เกิดผื่นผิวหนัง และมีอาการคันตามมาได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยต่อไป
- อากาศร้อน : คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจไม่รู้ว่า อากาศร้อน ๆ อาจส่งผลให้ลูกอาเจียนได้เช่นกัน เนื่องจากร่างกายของลูกยังไม่สามารถขับเหงื่อได้ดี หากลูกอยู่ในสภาพอากาศร้อน ๆ ก็อาจทำให้เขาเกิดอ้วกขึ้นมา และทำให้เกิดภาวะขาดน้ำตามมาอีกด้วย
- การติดเชื้อ : การที่ลูกมีอาการอ้วก อาเจียนบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณที่แสดงว่าลูกอาจมีภาวะติดเชื้อในร่างกายได้ โดยการติดเชื้อที่พบได้บ่อย คือ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อที่หูชั้นกลาง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และโรคปอดบวม เป็นต้น
ทารกอ้วกแบบไหนอาจเป็นอันตราย
ถ้าลูกมีอาการอาเจียนไม่มาก ก็จะหายไปในวันหรือสองวันค่ะ แต่หากลูกมาอาการอาเจียนนานกว่าปกติ หรืออาเจียนเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา และมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็อาจเป็นสัญญาณอันตรายต่อร่างกายลูกได้ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการอ้วกผิดปกติของลูกดังนี้
สำหรับทารกที่มีอายุต่ำกว่า 2 เดือน และมีอาการอ้วกพุ่ง อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารได้ รวมถึงอาจเกิดจากกระเพาะอาหารตีบ ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณล่างสุดของกระเพาะอาหารหนาผิดปกติ จนทำให้ช่องหูรูดแคบลง ส่งผลให้ลูกอาเจียนบ่อย ๆ นั่นเอง ซึ่งลักษณะอาเจียนเช่นนี้ อาจทำให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
เด็กที่มีอาการอาเจียน และมีไข้สูงมากกว่า 37.8 องศา อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเดินอาหารส่วนบน หากคุณแม่สังเกตว่าลูกมีอาการอาเจียน และมีไข้สูง ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกอาเจียน บอกสัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ควรระวัง

-
อาเจียนเป็นสีเขียว หรือสีเหลืองปนเขียว
หากลูกอาเจียนออกมาเป็นสีเขียว หรือสีเหลืองปนเขียว อาจเกิดจากน้ำดีที่ปนออกมาด้วย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการอุดตันในลำไส้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกน้อยมีการอาเจียนในลักษณะนี้ ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยต่อไป
อย่างที่รู้กันว่า เมื่ออาเจียนเป็นเลือด ถือเป็นภาวะอันตรายที่เกิดจากการมีเลือดออกในทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ หรือหลอดอาหารอักเสบ หากลูกมีอาเจียนเป็นเลือด ก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดอาการช็อก และหมดสติตามมา หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกอาเจียนเป็นเลือด และมีอาการตัวซีด ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที
ทารกมีโอกาสในการเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ ยิ่งหากลูกมีอาการอาเจียนบ่อย ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าสังเกตลูกเป็นพิเศษ หากลูกมีการเสียน้ำจากการอาเจียนมาก ๆ ให้ป้อนนม หรือน้ำอยู่เรื่อย ๆ เพื่อช่วยลดอาการขาดน้ำ หากลูกมีอาการรุนแรง อาจต้องใช้น้ำเกลือสำหรับเด็กตามที่แพทย์สั่ง โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการขาดน้ำได้ เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะน้อย ตาลึก ลูกซึม และไม่ร่าเริง เป็นต้น
-
อาเจียน และมีอาการถ่ายผิดปกติ
นอกจากอาการอาเจียนแล้ว ทารกบางคนอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งแสดงว่าลูกมีการติดเชื้อในทางเดินอาหาร หรือลำไส้ ยิ่งหากลูกมีอาการท้องอืด และไม่ขับถ่ายด้วย อาจเกิดจากภาวะลำไส้อุดตัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 8 วิธีรับมือเมื่อลูกคลื่นไส้อาเจียน ทำอย่างไรดีเมื่อลูกป่วย มีวิธีบรรเทาอาการไหม

วิธีรับมือเมื่อลูกอ้วกบ่อย
ถ้าลูกอาเจียนเป็นครั้งคราว อาจไม่มีอะไรที่ผิดปกติ แต่หากลูกมีอาการอาเจียนแบบพุ่ง มีสิ่งเจือปน และอาเจียนแบบต่าง ๆ ข้างต้น ควรสังเกตลักษณะอาเจียนเพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ง่ายขึ้น หากลูกมีการอ้วกบ่อย ๆ คุณแม่ควรปฏิบัติตนดังนี้
- หากลูกมีอาการอาเจียน ควรให้ลูกกินนมต่อไป เพราะการหยุดให้นมนั้น อาจทำให้ลูกขาดสารอาหาร และขาดน้ำได้
- หากทารกกินนม แล้วมีอาการอาเจียนทางปาก และจมูก อาจส่งผลให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ จนเป็นหวัด มีน้ำมูก และมีเสียงครืดคราดในท้องได้
- เมื่อทารกอาเจียนออกทางจมูกเพียงครั้ง หรือสองครั้ง อาจไม่เป็นอันตราย แต่จะทำให้ลูกไออย่างแรง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรรีบจับลูกคว่ำลง แล้วให้ศีรษะต่ำ เพื่อให้นมออกทางปากแทนจมูก
- หากทารกอาเจียนถี่ และอาเจียนบ่อยอย่างต่อเนื่องมากกว่า 14 ชั่วโมง ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป
โดยทั่วไป หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าทารกอาเจียน ทารกอ้วก อาจเป็นอาการทั่วไปที่สามารถพบได้ และไม่เป็นอันตราย แต่หากทารกมีการอาเจียนติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจแสดงว่าลูกมีอาการติดเชื้อ หรือเจ็บป่วยอื่น ๆ ได้ ทางที่ดีควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกแหวะบ่อย สำรอกบ่อย ทำอย่างไรดี วิธีไหนช่วยไม่ให้ลูกแหวะนม
เทคนิคดี ๆ เมื่อลูกอาเจียนหรือท้องเสีย ทำยังไงให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
ลูกอาเจียนบ่อย แหวะนมบ่อย อาจเป็นโรคกรดไหลย้อน พ่อแม่อย่ามองข้าม
ที่มา : 1, 2
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!