X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่ส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคต

บทความ 5 นาที
6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่ส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคต

ลักษณะนิสัยเฉพาะตัวบางอย่างของเด็ก มักจะเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในหลาย ๆ พฤติกรรมก็มักจะติดตัวเด็กไป จนเกิดเป็นผลเสียต่อตัวของเด็กเองในอนาคต หรืออาจจะส่งผลให้บุคลิกภาพโดยรวมของเด็กเสีย เรามาส่องดูว่า พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ต้องพากันกุมขมับกัน แล้วพฤติกรรมเหล่านั้น จะส่งผลอย่างไรกับลูกน้อยของคุณในอนาคตบ้างนะ

 

6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่ส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคต

เมื่อรู้ว่าลูกเริ่มมีพฤติกรรมที่ไม่ดี พ่อแม่ต้องรีบหยุดก่อนที่จะสายเกินไป โดยเฉพาะ 6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก เพราะถ้าลูกโตขึ้นจะฝึก หรือจะปรับเปลี่ยนอะไรย่อมยาก พ่อแม่ต้องใจแข็ง อย่าใจอ่อนเกินไป แต่ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ และได้ปรับตัว โดยที่เราต้องบอกเหตุผล และอธิบายให้เขาเข้าใจด้วย

 

 

1. นอนกัดฟัน

เด็กกว่า 14 – 20 เปอร์เซ็นต์ จะชอบกัดฟันของเขาในตอนกลางคืน และยังสามารถเกิดขึ้นในตอนกลางวันด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติถ้าลูกมีความเครียดและความวิตกกังวล หรืออาจมากจากโรคของเด็ก เช่น ต่อมทอนซิลขนาดใหญ่ โรคเนื้องอกในจมูก ซึ่งมีผลต่อการนอนเช่นเดียวกัน อาการนอนกัดฟันอาจเกิดจากที่เด็กขยับขากรรไกรล่างของพวกเขาไปข้างหน้า เพื่อให้พวกเขาสามารถหายใจได้ดียิ่งขึ้น

หากลูกมีปัญหาเหล่านี้ พ่อแม่ลองไปปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับอาการนอนกัดฟันที่รุนแรง เพื่อเช็คดูว่าลูกมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับหรือไม่ และหาแนวทางให้ลูกเลิกนอนกัดฟัน หรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้น

Advertisement

 

2. ดูดนิ้วมือ

พฤติกรรมการดูดนิ้วมือเป็นเรื่องปกติของเด็กทารก และวัยหัดเดิน เพราะการดูดมือเป็นการปลอบใจตัวเอง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่ได้รับ และระยะเวลา เนื่องจากเด็กบางคนก็หยุดดูดนิ้วไปเองเมื่อโตขึ้น แต่สำหรับเด็กที่โตแล้วยังคงดูดอยู่นั้น อาจส่งผลเสียต่อขากรรไกรของพวกเขาในอนาคต

ซึ่งอาจทำให้ลูกน้อยมีอาการที่เรียกว่า ฟันกัดคล่อม คือ มีลักษณะของฟันหน้าที่หุบเข้าไปด้านใน แทนที่จะออกมาอยู่ด้านนอก และฟันสบลึก คือ ฟันบนหรือขากรรไกรบนที่ยื่นออกมามากกว่าฟันล่างมาก

ดังนั้น พ่อแม่ควรพาลูกน้อยเข้าตรวจสุขภาพฟันประจำปี ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ หรือเมื่อฟันขึ้นครั้งแรก วิธีการที่จะทำให้ลูกน้อยหยุดดูดเล็บ อาจจะทาเล็บสีสวย ๆ  หรือสวมอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้ลูกดูดนิ้ว และพยายามชักชวนให้ลูกน้อยทำกิจกรรมอย่างอื่น

บทความอื่นที่น่าสนใจ : 8 พฤติกรรมไม่ดีของลูก ที่พ่อแม่ควรแก้ไขให้เร็วที่สุด

 

6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก

 

3. เลือกกินอาหาร

เด็กบางคนเลือกกินอาหาร จะกินอยู่เพียงไม่กี่ชนิด และบางคนยังเลือกกินแต่ของไม่มีประโยชน์เสียอีก ทำให้คุณต้องเครียด และเป็นกังวลว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่ครบในแต่ละมื้อ บางคนเคยลองให้ลูกกินผัก ผลไม้ ต่าง ๆ มากมาย แต่ลูกก็คงยังไม่ยอมกินอยู่ดี

วิธีการที่จะทำให้ลูกได้ลองชิม หรือกินอาหารใหม่ ๆ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนคำถามจาก “ลูกอยากกินไหม” “ลูกชอบกินไหม” ลองถามว่า “อาหารพวกนี้มีกลิ่นอย่างไร” “มีลักษณะแบบไหน” โดยพยายามให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับประสาทสัมผัสมากกว่า หรืออาจจะชวนลูกทำอาหารแบบง่าย ๆ เขาก็จะเกิดความเพลิดเพลิน และอยากทานในสิ่งที่ตัวเองได้ทำขึ้น

 

4. แคะขี้มูก

พฤติกรรมแบบนี้คงจะไม่ดีนักถ้าลูกเคยทำจนเป็นนิสัย เพราะมันจะทำให้ลูกมีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และยิ่งเด็กที่เป็นภูมิแพ้ หรือในช่วงที่อากาศเย็นก็จะยิ่งให้เด็กแย่ลงไปอีก

วิธีการจะช่วยให้ลูกหยุดการแคะขี้มูก เพียงแค่เข้าไปเช็คน้ำมูก และล้างจมูกลูก อย่าปล่อยให้ขี้มูกต้องแห้ง เพราะเด็กจะต้องเอานิ้วไปแคะแน่นอน สำหรับวิธีการล้างจมูก สามารถอ่านต่อได้ที่นี่

บทความอื่นที่น่าสนใจ : พฤติกรรมเด็ก : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

 

6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก

 

5. คาบขวดนม

ถ้าพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกต้องติดการคาบขวดนม แนะนำให้เปลี่ยนจากขวดนมไปเป็นใช้ถ้วยแทน และต้องระวังถ้าลูกดื่มนมมากเกินไป จะทำให้ลูกไม่ยอมทานข้าวในมื้ออาหาร และจะทำให้ขาดสารอาหารในที่สุด อีกทั้งยัง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกฝันพุ จากการคาบขวดนมอีกด้วย

ซึ่งทางสถาบัน American Academy of Pediatrics (AAP) ได้แนะนำว่า ให้ลูกน้อยได้เปลี่ยนไปใช้ถ้วยหัดดื่มแทน เมื่อเด็กเริ่มมีอายุได้ 15 เดือน แต่ผู้เชี่ยวชาญบางท่าน แนะนำให้ใช้กับลูกน้อยตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน พอเด็กอายุได้ 1 ขวบ ก็จะเลิกใช้ขวดนมได้พอดี พอเด็กเริ่มเข้าใจในการใช้ถ้วยแล้ว ก็สามารถดื่มน้ำ หรือนมจากแก้วได้ตามปกติ

 

6. กินแต่ขนมตลอดวัน

พ่อแม่บางคนเคยให้ลูกได้กินขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวันจนเคยตัว ทำให้เด็กติดนิสัยกินขนม แม้จะไม่หิวก็ตาม เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ลูกออกห่างจากอาหารที่มีประโยชน์ไปอีก เพราะเมื่อถึงเวลาถึงมื้ออาหาร ลูกอาจจะกินได้น้อยลง หรือไม่ยอมกินเลย

เมื่อลูกน้อยเริ่มมีพฤติกรรมไม่ยอมกินข้าว พ่อแม่จะต้องหาวิธีจัดการกับการกินของลูกน้อยอย่างจริงจัง โดยที่ให้ลูกน้อยได้กินอาหารหลัก และขนมขบเคี้ยวตามตารางเวลา แล้วบอกว่าเวลาไหนควรกินข้าว ขนมจุบจิบ รวมถึงผลไม้ด้วย

 

6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก

 

 

บทความจากพันธมิตร
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
วิธีเลือกยาสีฟันเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรเรียนรู้
วิธีเลือกยาสีฟันเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรเรียนรู้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

พฤติกรรมเลียนแบบของลูก ตัวอย่างที่ดีที่สุดของลูกคือพ่อแม่

ทายนิสัยลูกจากราศีเกิด 12 ราศี

จริงมั้ย? คนท้องเกลียดใคร บ่นใคร นินทาใคร ลูกคลอดออกมาจะเป็นแบบนั้น

ที่มา : foxnews

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่ส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคต
แชร์ :
  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

    เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

    เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว