ทราบหรือไม่คะ? ปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ทำให้ลูกน้อยมีความเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้สูงกว่าที่เคยเป็นมา แต่คุณแม่สามารถ ป้องกันภูมิแพ้ ให้ลูกได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ด้วยพลังมหัศจรรย์จาก H.A. (Hypoallergenic) เป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในน้ำนมแม่ มาดูกันว่า H.A. ที่ว่านี้จะช่วยปกป้องลูกรักจากภูมิแพ้ได้อย่างไร เพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพดีและเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
พันธุกรรม รากเหง้าของโรคภูมิแพ้
รู้ไหมคะว่าโรคภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูกได้ โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้
- หากพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้: ลูกมีความเสี่ยงประมาณ 20% – 40% ที่จะเป็นโรคนี้
- หากพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ทั้งคู่: ความเสี่ยงจะพุ่งสูงถึง 60% – 80%
อย่างไรก็ตาม ชนิดของภูมิแพ้ที่ลูกเป็นอาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกับพ่อแม่เสมอไป เช่น พ่อเป็นภูมิแพ้อากาศ แต่ลูกอาจเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือแพ้อาหารได้
สิ่งแวดล้อม ปัจจัยกระตุ้นภายนอก
แม้ว่าพันธุกรรมจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่สิ่งแวดล้อมก็มีบทบาทไม่แพ้กัน โดยพบว่าประมาณ 15% ของผู้เป็นภูมิแพ้ไม่มีประวัติในครอบครัว อาจเป็นเพราะการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน เช่น
- ไรฝุ่น และ แมลงสาบ ที่พบได้ทั่วไปในบ้าน
- ขนสัตว์เลี้ยง และ ละอองเกสรดอกไม้
- ควันบุหรี่ หรือ มลพิษจากรถยนต์
อาการของโรคภูมิแพ้ในเด็กที่พบได้บ่อย
โรคภูมิแพ้ในเด็กมีอาการแสดงที่หลากหลายและมักส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งคุณแม่สามารถสังเกตได้ดังนี้ค่ะ
- โรคหืด (Asthma): เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทำให้เยื่อบุและผนังหลอดลมตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นจากภายใน และจากสิ่งแวดล้อมมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการบวมและตีบแคบ หายใจลำบาก หอบ แน่นหน้าอก และอาจมีเสียง “วี้ด” ร่วมด้วย อาการมักเกิดขึ้นตอนกลางคืนหรือขณะออกกำลังกาย
- โรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis): ทำให้ลูกมีอาการจามบ่อย คัน คัดจมูก และมีน้ำมูกใสแบบเรื้อรัง อาการอาจกำเริบได้ตลอดปีหรือตามฤดูกาล เช่น ช่วงหน้าฝน
- โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis): มักพบในเด็กเล็ก มีผื่นแดง คัน และผิวหนังแห้ง อาการจะกำเริบเมื่อถูกกระตุ้น เช่น อากาศร้อน เหงื่อออก หรือจากการแพ้อาหาร
- ผื่นลมพิษ (Urticaria): เป็นผื่นนูนแดงและคันอย่างรุนแรง อาจเกิดจากการแพ้ยาหรืออาหารบางชนิด หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
- อาการแพ้อาหาร (Food Allergy): เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อโปรตีนในอาหารที่แพ้ อาจส่งผลกระทบต่อหลายระบบ เช่น ระบบทางเดินอาหาร (ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย) ระบบผิวหนัง (ผื่นลมพิษ) หรือระบบทางเดินหายใจ (หอบ คัดจมูก)
- โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Conjunctivitis): ทำให้เกิดอาการแสบตา คันตา น้ำตาไหล และขยี้ตาบ่อย ซึ่งอาจพบร่วมกับโรคเยื่อบุจมูกอักเสบได้
อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าลูกอาจเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า “Allergic March” หรือ “ลูกโซ่ภูมิแพ้” ได้ค่ะ
ทำความรู้จักกับ “ลูกโซ่ภูมิแพ้” (Allergic March)
คุณแม่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า “ลูกโซ่ภูมิแพ้” (Allergic March) ซึ่งเป็นกระบวนการที่โรคภูมิแพ้ในเด็กมีพัฒนาการเปลี่ยนไปตามช่วงวัย เปรียบเสมือนลูกโซ่ที่อาการภูมิแพ้ชนิดหนึ่งจะนำไปสู่อีกชนิดหนึ่ง โดยมีลำดับขั้นที่เกิดขึ้นได้บ่อย ดังนี้ค่ะ
-
ขั้นตอนของ Allergic March
1. การแพ้อาหาร: มักเป็นจุดเริ่มต้นที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ซึ่งอาจแสดงอาการ เช่น ผื่นลมพิษ หรืออาการทางระบบทางเดินอาหาร
2. โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้: อาจเริ่มตั้งแต่อายุไม่กี่เดือน โดยมีอาการเด่นคือ ผิวแห้ง คัน มีผื่นแดง โดยเฉพาะตามบริเวณแก้ม ด้านนอกของแขน และขาที่สัมผัสสารระคายเคือง
3. โรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้จมูก: เมื่อลูกโตขึ้นในช่วงอายุ 1-2 ปีขึ้นไป อาการแพ้จะเริ่มส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ โดยอาจแสดงอาการของโรคหอบหืด เช่น หายใจลำบาก ไอ หรือโรคภูมิแพ้จมูก เช่น จาม คัดจมูก และมีน้ำมูกเรื้อรัง
การที่ลูกมีอาการภูมิแพ้ในช่วงวัยใดวัยหนึ่ง จึงเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญว่าลูกอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคภูมิแพ้ในรูปแบบอื่น ๆ ตามมาได้ในอนาคต ดังนั้น การดูแลและป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ค่ะ

นมแม่ เกราะป้องกันภูมิแพ้จากธรรมชาติที่ดีที่สุด
การป้องกันโรคภูมิแพ้ในลูกน้อยตั้งแต่ขวบปีแรกมีความสำคัญอย่างยิ่ง และวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการให้ลูกกิน นมแม่ เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน หรือนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
-
ทำไมนมแม่จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด?
1. นมแม่ มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic): ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ได้สูงถึง 42% และยังมีสารอาหารหลากหลายมากกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย
2. มีโปรตีนย่อยง่าย (Partially Hydrolyzed Proteins – PHP): โปรตีนในนมแม่บางส่วนถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ลูกน้อยสามารถย่อยและดูดซึมไปใช้ได้อย่างง่ายดาย ลดโอกาสที่ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาแพ้ต่อโปรตีนที่ยังไม่ได้ถูกย่อย
3. มีพรีไบโอติก HMOs (Human Milk Oligosaccharides): นมแม่มีกลุ่มใยอาหารหลัก ซึ่งมีใยอาหาร 5 ชนิด (5 HMO) ที่พบมากในกลุ่มนี้ ได้แก่ 2’FL, DFL, LNT, 6’SL, และ 3’SL ซึ่งใยอาหารเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยให้แข็งแรงและช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่าง ๆ ได้
นมแม่ คือของขวัญล้ำค่าจากธรรมชาติที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลดความเสี่ยงโรคภูมิแพ้ เพราะใน นมแม่ มีสารอาหารและองค์ประกอบสำคัญมากมาย เพื่อปกป้องลูกจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพค่ะ
อย่างไรก็ตามหากคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะคุณแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันภูมิแพ้สำหรับเด็ก เพื่อให้ลูกรักเติบโตได้อย่างแข็งแรงสมวัยได้ หรือหากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สารอาหารที่มีประโยชน์ในนมแม่และมีบทบาทต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อย เข้าชมได้ที่ S-Mom Club ที่เว็บไซต์ https://www.s-momclub.com/ สามารถสมัครสมาชิกเพื่อปรึกษาทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะคะ หรือสามารถปรึกษา-พูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพโภชนาการและพัฒนาการสำหรับคุณแม่และลูกน้อยตามช่วงวัย โดยทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ Line: S-Mom คลับเด็กแพ้ง่าย
คุณแม่สามารถเช็กความเสี่ยงภูมิแพ้ของลูกได้ที่ https://www.s-momclub.com/baby-allergies
Reference
- Bergmann RL, et al. Clin Exp Allergy 1997:27:752-760
- Chad Z. Paediatr Child Health 2001:6(8):555-566.
- Hill DA and Spergel JM. Ann Allergy Asthma Immunol 2018;120:131-137.
- เข้าใจโรคภูมิแพ้ – BNH HOSPITAL
- ภูมิแพ้ในเด็ก รู้สาเหตุเราชนะได้, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
- เมื่อลูกรักเป็นภูมิแพ้…พ่อแม่ต้องทำไง, โรงพยาบาลพญาไท 2
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!