เชื่อว่าในทุกบ้านที่มีลูก คงจะเจอกับปัญหาเดียวกัน นั่นคือ “ของทอด” เมนูทอดยอดฮิตที่ครองใจเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอดชิ้นโต ผักชุบแป้งทอดจิ้มซอส เฟรนช์ฟรายส์ หรือชีสสติ๊ก ก็ล้วนเป็นเมนูที่ทำให้ลูกๆ ยิ้มแก้มปริได้เสมอ แต่ในฐานะคนเป็นแม่ พอเห็นลูกกินของทอดอย่างเอร็ดอร่อย ก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้ใช่ไหมคะว่า ของอร่อยเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกในระยะยาวหรือเปล่า
ความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในใจทุกครั้ง ทำให้คุณแม่หลายคนต้องเลือกระหว่าง “ความสุข”
กับ “สุขภาพ” ของลูกรัก
แต่จริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเลยค่ะ เพราะการจะทำ เมนูทอด ที่ดีต่อสุขภาพนั้นง่ายกว่าที่คิด และนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่คือการได้มอบความสุขควบคู่ไปกับสุขภาพที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก และความรู้สึกปลอดภัยสบายใจที่คุณแม่ได้รับจากการดูแลลูกรักอย่างดีที่สุดนั่นเองค่ะ
แค่เริ่มต้นจากการเลือกใช้น้ำมันประกอบอาหารที่ถูกต้อง ก็สามารถเปลี่ยนความกังวลให้กลายเป็นความสบายใจได้ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาดูกันว่าการเลือกน้ำมันที่ดีจะช่วยให้ลูกได้กินของอร่อยดีต่อใจ และคุณแม่ก็สบายใจหายห่วงได้อย่างไรค่ะ
ไขความลับ ทำไมไขมันถึงจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก?
คุณแม่หลายคนอาจยังมีความเข้าใจผิดว่า “ไขมัน” คือวายร้ายที่ต้องหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมนูของทอดแสนอร่อยของลูก แต่แท้จริงแล้วไขมันมีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกมากกว่าที่คิดค่ะ
1. แหล่งพลังงานชั้นยอดสำหรับเด็กวัยเจริญเติบโต
เด็ก ๆ มีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานสูงในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเล่น การเรียนรู้ หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไขมันเป็นพลังงานสำคัญสำหรับเด็กวัยเจริญเติบโต ให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนมากกว่า 2 เท่า ช่วยให้เด็กมีแรงทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง การที่ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเพียงพอจึงเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต
2. ตัวช่วยสำคัญในการดูดซึมวิตามินที่จำเป็น
ไขมันทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิดที่ละลายได้ในไขมันเท่านั้น ได้แก่ วิตามิน A, D, E, และ K วิตามินเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการมองเห็น (A), การเสริมสร้างกระดูกและฟัน (D), การต้านอนุมูลอิสระ (E) และการแข็งตัวของเลือด (K) หากร่างกายขาดไขมัน วิตามินเหล่านี้ก็จะไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ไม่ใช่งด!! เมนูทอด แต่ให้เลือกใช้น้ำมันที่ดี
เมื่อทราบถึงความสำคัญของไขมันแล้ว คุณแม่ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไปเมื่อทำของทอดให้ลูกกิน
การงดเมนูทอดไปเลยอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เพราะนอกจากจะทำให้ลูกขาดความสุขแล้ว ยังอาจทำให้ลูกขาดสารอาหารบางอย่างด้วย เช่น กลุ่มวิตามินที่ละลายในไขมัน สิ่งสำคัญกว่าคือ การเปลี่ยนความกังวลเป็นการเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้เป็นเมนูที่แสนอร่อย เป็นเมนูที่ไม่น่ากังวลอีกต่อไป ลูก ๆ ก็ได้ทั้งความอร่อย และมีความสุข ดังนั้น แทนที่จะงดของทอด ลองมาเลือกใช้น้ำมันทอดอาหารที่ใช่กันดีกว่าค่ะ

ไขความลับ 7 คุณประโยชน์จากน้ำมันรำข้าว
ในเมื่อเราไม่จำเป็นต้องงดของทอดเพื่อลูกน้อยแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาก็คือการเลือกใช้น้ำมันที่ดีสำหรับเมนูทอดเพื่อให้ลูกได้กินของอร่อยอย่างมีความสุข และคุณแม่ก็สบายใจหายห่วงได้เลย ซึ่งนั่นก็คือ “น้ำมันรำข้าว” นั่นเองค่ะ เพราะน้ำมันรำข้าวมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการทอด และยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์จากธรรมชาติที่พร้อมดูแลสุขภาพของลูกน้อยอย่างครบถ้วน ถ้าพร้อมแล้ว เรามาดูไปพร้อมกันเลยค่ะว่า 7 คุณประโยชน์จากน้ำมันรำข้าวมีอะไรบ้าง ที่ทำให้คุณแม่มั่นใจในทุกเมนูทอดของลูกได้
1. อุดมด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ
น้ำมันรำข้าว อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็ก
2. มีสารโอรีซานอล (Oryzanol)
โอรีซานอล เป็นสารอาหารธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า และพบได้เฉพาะในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น
3. มีไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)
ไฟโตสเตอรอล ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในร่างกาย
4. มีวิตามินอี 2 กลุ่ม
น้ำมันรำข้าวมีวิตามินอีทั้งกลุ่ม โทโคฟีรอล และ โทโคไตรอีนอล ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
5. สัดส่วนไขมันสมดุล ดีต่อใจและสุขภาพลูก
น้ำมันรำข้าว โดดเด่นด้วยสัดส่วนของกรดไขมันที่เหมาะสมและมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) สูง กรดไขมันชนิดนี้มีส่วนช่วยในการ ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ขณะเดียวกันก็ช่วยคงระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ในร่างกายได้ ด้วยเหตุนี้ น้ำมันรำข้าวจึงเป็นตัวเลือกที่ดีต่อใจและสุขภาพของลูกน้อย เหมาะสมสำหรับการนำมาบริโภคในทุก ๆ วัน ถึงไขมันจะเป็นสารอาหารสำคัญ แต่ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ
6. ใช้งานง่าย ทำได้ทุกเมนู ชูกลิ่นวัตถุดิบ
น้ำมันรำข้าวเหมาะกับการทำอาหารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ผัด ทอด หรือใช้เป็นส่วนผสมในน้ำสลัดและขนมอบ ที่สำคัญคือ น้ำมันชนิดนี้ ไม่มีกลิ่นและรสชาติเป็นกลาง จึงไม่เข้าไปรบกวนหรือทำให้กลิ่นและรสชาติของอาหารเปลี่ยนไป ช่วยให้คุณแม่คงความอร่อยดั้งเดิมของวัตถุดิบไว้ได้อย่างเต็มที่ค่ะ
7. ปลอดการดัดแปลงทางพันธุกรรม (GMO Free)
น้ำมันรำข้าวผลิตจากข้าวไทย 100% ที่ปลอดจากการดัดแปลงทางพันธุกรรม จะช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกจะได้รับสิ่งที่ดีและเป็นธรรมชาติที่สุดในทุกมื้ออาหาร
เมนูทอด สำหรับลูกรัก เลือกน้ำมันรำข้าวอย่างไรให้มั่นใจ?
เมื่อคุณแม่ทราบถึงคุณประโยชน์ของ “น้ำมันรำข้าว” แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกซื้ออย่างไรให้มั่นใจว่าได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีสำหรับลูกรัก อย่าเลือกเพียงเพราะชื่อเรียก เพราะน้ำมันรำข้าวที่ดูเหมือนกันนั้น แท้จริงแล้ว อาจมีบางอย่างต่างกัน เช่น แหล่งที่มาของวัตถุดิบ หรือมาตรฐานการผลิต เป็นต้น
การเลือกสิ่งที่ใช่จึงไม่ใช่แค่การหยิบขวดไหนก็ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อ คุณแม่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมองหาจุดสำคัญเหล่านี้ ลองใช้เช็กลิสต์นี้เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อนะคะ
สิ่งที่ต้องมองหาก่อนตัดสินใจซื้อน้ำมันรำข้าว
1. ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากอย่างละเอียด
ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ให้คุณแม่พลิกดูฉลากและตรวจสอบข้อมูลสำคัญ ได้แก่ วันหมดอายุ
ส่วนประกอบ และที่สำคัญคือ “ค่ากรดไขมันทรานส์” ต้องเป็น 0 กรัม เพื่อให้มั่นใจว่าลูกจะได้รับแต่สิ่งดีๆ
2. เลือกจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ
การเลือกซื้อน้ำมันรำข้าวจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือจะมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการบรรจุขวด ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีความสะอาดและปลอดภัย
3. มองหาตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ”
หนึ่งในจุดเด่นที่ช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้อย่างเต็มที่คือ ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” จากมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะมีสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสมต่อการบริโภค และมีไขมันอิ่มตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด จึงเป็นตัวช่วยที่น่าเชื่อถือในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีสำหรับลูกรัก
การเลือกน้ำมันรำข้าวที่มีคุณภาพสูง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เมนูของทอดกลายเป็นอาหารอร่อย ดีต่อใจลูก แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าคุณแม่ได้มอบสิ่งที่ดีให้แก่ลูกรักในทุกมื้ออาหารนั่นเองค่ะ การใส่ใจเลือกใช้น้ำมันที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำอาหารให้ปลอดภัย แต่คือการสร้างรากฐานที่ดีให้กับสุขภาพของลูกตั้งแต่วัยเยาว์ ทุกคำที่ลูกได้กินคือความสุขที่ปราศจากความกังวลของคุณแม่
เป็นความสุขที่ส่งตรงจากใจ จนคุณแม่รู้สึกได้ ที่ได้เห็นลูกเติบโตอย่างแข็งแรง มีความสุขกับเมนูโปรดโดยที่คุณแม่ไม่ต้องแอบรู้สึกผิดอีกต่อไป และนั่นคือคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณแม่ได้มอบให้กับลูกรัก จน ‘ใจรู้สึกได้’ ค่ะ
เครดิต
- โภชนาการสำหรับวัยรุ่น, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- ความรู้ด้านโภชนาการสำหรับเด็ก, โรงพยาบาลวิภาวิดี
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!