TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

โรคไข้กาฬหลังแอ่น แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง

บทความ 8 นาที
โรคไข้กาฬหลังแอ่น  แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง

.

ไข้กาฬหลังแอ่น

 

โรคไข้กาฬหลังแอ่น อาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูมากนักในประเทศไทย เพราะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อย แต่กลับเป็นโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงและคาดเดาไม่ได้2 การทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ theAsianparent จะชวนมาทำความรู้จักกับโรคนี้อย่างละเอียด ตั้งแต่ความรุนแรงของโรค ไปจนถึงวิธีการป้องกันที่สำคัญที่สุดอย่าง “วัคซีน” เพื่อปกป้องลูกน้อยจากไข้กาฬหลังแอ่นกันค่ะ

 

คุณพ่อคุณแม่ มาทำความรู้จักกับ โรคไข้กาฬหลังแอ่น

คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อาจไม่ค่อยคุ้นหูนักกับชื่อ “โรคไข้กาฬหลังแอ่น” แต่รู้ไหมคะว่านี่คือโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงมาก แม้จะพบได้ไม่บ่อยในประเทศไทย โดยมีรายงานเพียงปีละประมาณ 20–30 รายเท่านั้น3 แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็สร้างความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว1

โรคไข้กาฬหลังแอ่น มีชื่อทางการแพทย์ว่า Meningococcemia หรือ Meningococcal meningitis เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria meningitidis  ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบอย่างรุนแรง เชื้อนี้มีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในไทยคือ สายพันธุ์ B ค่ะ2

โรคไข้กาฬหลังแอ่น เสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง

อาการโรคไข้กาฬหลังแอ่น

อาการของโรคไข้กาฬหลังแอ่นมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและรวดเร็ว หลังได้รับเชื้อประมาณ 2-10 วัน4 อาการเริ่มต้น  เหมือนไข้หวัดเลยค่ะ คือ มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย และปวดเมื่อย5 แต่โรคจะลุกลามไวภายในไม่กี่ชั่วโมง1 โดยแบ่งอาการที่รุนแรงได้เป็น 2 แบบค่ะ

  • อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ: ผู้ป่วยจะมีไข้สูง คอแข็ง อาเจียน ปวดศีรษะรุนแรง ซึมลง4,5
  • ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด: ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ผื่นจ้ำเลือด มือเท้าเย็น และอาจมีภาวะความดันโลหิตต่ำ ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะช็อกและอวัยวะล้มเหลวได้ในที่สุด4,5  อาการจะรุนแรงจนอาจนำไปสู่การเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงได้เลยค่ะ1

 สำหรับในเด็กเล็กจะมีอาการที่สังเกตได้แตกต่างออกไป เช่น ร้องไห้ผิดปกติ ซึมลง และไม่ยอมกินอาหารคู่6

ความรุนแรงของโรคนี้อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง แม้จะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมแล้วก็ตาม1 โดยมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10-15 % โดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี จะมีความเสี่ยงสูงและอาการจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีกค่ะ2

นอกจากความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตแล้ว ผลกระทบของโรคยังไม่หมดแค่นั้นค่ะ เพราะในบรรดาผู้ที่รอดชีวิต 1 ใน 5 อาจต้องเผชิญกับความพิการที่หลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นความพิการทางสมอง โรคลมชัก หรือการสูญเสียแขนขาและการได้ยิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกน้อยในระยะยาวค่ะ5,7

 ที่น่าตกใจคือมีการศึกษาในเด็กและวัยรุ่นไทยพบว่า มีเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นเกาะอยู่ที่คอถึง 14.2% แม้ว่าจะไม่แสดงอาการ8 แต่ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรตระหนักถึงนะคะ เพราะหากลูกน้อยเกิดอาการขึ้นมาแล้ว การรับมืออย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ

ไข้กาฬหลังแอ่น

ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ?2,9

รู้ไหมคะว่า จริงๆ แล้วเราทุกคนต่างก็เสี่ยงต่อโรคไข้กาฬหลังแอ่นกันค่ะ แต่มีบางกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและป้องกันมากเป็นพิเศษ ดังนี้ค่ะ

  • กลุ่มเสี่ยงด้านอายุ: พบรุนแรงมากที่สุดในทารกและเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี
  • กลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพ: ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ที่ไม่มีม้าม รวมถึงผู้ที่ได้รับยากดภูมิบางชนิด
  • กลุ่มเสี่ยงจากการเดินทางหรือสัมผัสโรค: ผู้ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อโดยตรง และผู้ที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้กาฬหลังแอ่น และวัยรุ่นที่อาศัยในพื้นที่แออัด เช่น หอพักในวิทยาลัย ก็เป็นกลุ่มที่ควรระมัดระวังเช่นกันค่ะ

 

การป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น

คุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่า โรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่เมื่อเทียบกับความร้ายแรงของโรคแล้ว การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวนั้นสำคัญที่สุดค่ะ มาดูมาตรการป้องกัน 3 ขั้นตอนง่ายๆ กันนะคะ

1. การป้องกันการติดเชื้อ10

โรคนี้ติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย รวมถึงการสัมผัสใกล้ชิด ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในสถานที่แออัดค่ะ

2. การให้ยาปฏิชีวนะ5

การให้ยาปฏิชีวนะป้องกันภายหลังสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น

3. การรับวัคซีน2,9

การรับวัคซีนถือเป็นเครื่องมือสำคัญและจำเป็นที่สุดในการป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นในปัจจุบัน สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ได้แนะนำให้พิจารณาวัคซีนชนิดนี้เป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับเด็กในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งสามารถ รับวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะในกลุ่มต่อไปนี้ค่ะ

  • ทารกและเด็กเล็ก ตั้งแต่อายุ 2 เดือน – 2 ปี
  • เด็กในกลุ่มเสี่ยง จากโรคประจำตัว หรือการได้รับยาบางชนิด
  • วัยรุ่นและนักศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เช่น อเมริกาหรืออังกฤษ ซึ่งประเทศเหล่านี้มักมีข้อกำหนดให้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น และผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ที่มีการระบาด

 

คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและร่วมกันตัดสินใจเกี่ยวกับการรับวัคซีนได้นะคะ เพราะแม้โรคไข้กาฬหลังแอ่นจะเป็นโรคที่รุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูง แต่เราก็สามารถป้องกันได้ด้วยมาตรการต่างๆ รวมถึงการรับวัคซีนที่ช่วยปกป้องลูกน้อยได้ค่ะ

 โรคนี้เป็นโรคติดเชื้อที่อันตรายอย่างยิ่ง แม้จะพบไม่บ่อยในไทย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็สร้างความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอจะต่อสู้กับเชื้อได้ ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง1,2 และในบรรดาผู้ที่รอดชีวิต 1 ใน  5 อาจต้องเผชิญกับความพิการถาวร ไม่ว่าจะเป็นความพิการทางสมอง หรือการสูญเสียอวัยวะ4,5

ด้วยความรุนแรงของโรคที่คาดเดาไม่ได้ การป้องกันความเสี่ยงให้กับลูกน้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะการให้ลูกได้รับการรับวัคซีนป้องกันไข้กาฬหลังแอ่น คุณพ่อคุณแม่สามารถขอคำปรึกษาเรื่องวัคซีนได้จากโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือกุมารแพทย์ของลูกน้อยได้เลยค่ะ

 

 

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Apicella, M. A., et al. (2025). Epidemiology of Neisseria meningitidis infection. UpToDate. Retrieved September 16, 2025, from https://www.uptodate.com/contents/epidemiology-of-neisseria-meningitidis-infection.
  2. Pediatric Infectious Disease Society of Thailand. (2025). Recommendations for meningococcal vaccination in Thai children and adolescents. Bangkok: PIDST. Retrieved September 4, 2025, from pidst.or.th/A1527.html
  3. กระทรวงสาธารณสุข. (2015, มีนาคม 8). สธ. ย้ำประชาชนไทยไม่มี โรคไข้กาฬหลังแอ่น ระบาด ไทยพบผู้ป่วยน้อยมาก ปีละ 20 – 30 ราย. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน, 2025, จาก https://pr.moph.go.th/online/index/news/71379
  4. Mbaeyi, S., et al. (2021, April 25). Meningococcal disease. In E. Hall, A. P. Wodi, J. Hamborsky, et al. (Eds.), Epidemiology and prevention of vaccine-preventable diseases (14th ed.). Retrieved September 10, 2025, from https://www.cdc.gov/pinkbook/hcp/table-of-contents/chapter-14-meningococcal-disease.html.
  5. American Academy of Pediatrics. (2021). Red Book: 2021–2024 report of the Committee on Infectious Diseases (32nd ed., pp. 519-532). American Academy of Pediatrics.
  6. Thompson, M., et al. (2006). Clinical recognition of meningococcal disease in children and adolescents. Lancet, 367, 397-403.
  7. Pace, D., et al. (2012). Meningococcal disease: Clinical presentation and sequelae. Vaccine, 30S, B3-9.
  8. Serra, L., et al. (2020). Carriage of Neisseria Meningitidis in Low and Middle Income Countries of the Americas and Asia: A Review of the Literature. Infectious diseases and therapy, 9(2), 209–240.
  9. Center of Disease Control and Prevention. (2020, Sep 25). Meningococcal Vaccination: Recommendations of the Advisory Committee on Immunization Practices, United States, 2020. MMWR Recommendation and Reports, 69(9), 1-42.
  10. Department of Disease Control. (2023). Annual epidemiological surveillance report 2022 (pp. 26-30). Department of Disease Control.

 

Non–Promotional Material

NP–TH–MNU–WCNT–250007 I 10/25

###

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

theAsianparent Editorial Team

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพและโภชนาการ
  • /
  • โรคไข้กาฬหลังแอ่น แม้พบไม่บ่อย แต่อาจคร่าชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง
แชร์ :
  • MIT ชี้! อยากให้ลูกฉลาดรอบด้าน ควรให้เรียนดนตรี? หรือเรียน Coding?

    MIT ชี้! อยากให้ลูกฉลาดรอบด้าน ควรให้เรียนดนตรี? หรือเรียน Coding?

  • หมดกังวลเรื่องสารอาหาร! "เมจิ อีซี่คิวบ์" ทางเลือกง่ายๆ สำหรับแม่ยุคใหม่และลูกวัยขวบ
    บทความจากพันธมิตร

    หมดกังวลเรื่องสารอาหาร! "เมจิ อีซี่คิวบ์" ทางเลือกง่ายๆ สำหรับแม่ยุคใหม่และลูกวัยขวบ

  • เสริมเกราะให้ลำไส้ลูก แลคตาเดริน สารอาหารมหัศจรรย์ในนมแม่
    บทความจากพันธมิตร

    เสริมเกราะให้ลำไส้ลูก แลคตาเดริน สารอาหารมหัศจรรย์ในนมแม่

  • MIT ชี้! อยากให้ลูกฉลาดรอบด้าน ควรให้เรียนดนตรี? หรือเรียน Coding?

    MIT ชี้! อยากให้ลูกฉลาดรอบด้าน ควรให้เรียนดนตรี? หรือเรียน Coding?

  • หมดกังวลเรื่องสารอาหาร! "เมจิ อีซี่คิวบ์" ทางเลือกง่ายๆ สำหรับแม่ยุคใหม่และลูกวัยขวบ
    บทความจากพันธมิตร

    หมดกังวลเรื่องสารอาหาร! "เมจิ อีซี่คิวบ์" ทางเลือกง่ายๆ สำหรับแม่ยุคใหม่และลูกวัยขวบ

  • เสริมเกราะให้ลำไส้ลูก แลคตาเดริน สารอาหารมหัศจรรย์ในนมแม่
    บทความจากพันธมิตร

    เสริมเกราะให้ลำไส้ลูก แลคตาเดริน สารอาหารมหัศจรรย์ในนมแม่

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว