สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ คงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ ” คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม ” น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีข้อควรระวังเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และลูกน้อยในครรภ์ theAsianparent จะพาไปไขข้อสงสัยนี้กันค่ะ
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ อาจมีข้อสงสัยว่าสามารถดื่มน้ำอัดลมได้หรือไม่ และจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างไร
คำตอบคือ ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด
แม้ว่าการดื่มน้ำอัดลมในปริมาณน้อยอาจไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณการดื่ม เนื่องจากน้ำอัดลมมีส่วนประกอบที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยได้ดังนี้
- ปริมาณน้ำตาลสูง: น้ำอัดลมส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้คุณแม่มีน้ำหนักเกินขณะตั้งครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้
- แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์: แก๊สในน้ำอัดลมอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และไม่สบายท้อง ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
- คาเฟอีน: น้ำอัดลมบางชนิดมีส่วนผสมของคาเฟอีน ซึ่งอาจส่งผลต่อการนอนหลับของทารกในครรภ์ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด หากคุณแม่ดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะทำให้ได้รับคาเฟอีนมากถึง 37 มิลลิกรัม
- สารปรุงแต่ง: น้ำอัดลมมักมีสารปรุงแต่ง สี และกลิ่น ซึ่งอาจไม่มีคุณค่าทางโภชนาการและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ดื่มน้ำอัดลมเยอะ ในระหว่างตั้งครรภ์ มีผลเสียอย่างไร แม่ควรรู้
คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม ..ผลเสียจากการกินน้ำอัดลมขณะตั้งครรภ์
แน่นอนว่าการดื่มน้ำอัดลมขณะตั้งครรภ์ ย่อมส่งผลเสียต่อลูกน้อย และตัวคุณแม่อีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าจะมีผลเสียอะไรบ้าง
-
ส่งผลต่อทักษะการเรียนรู้ และความจำของลูก
งานวิจัยในวารสาร the American Journal of Preventive Medicine ได้เผยว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ อาจส่งผลกระทบต่อทักษะการเรียนรู้ และความจำของลูกที่คลอดออกมาได้ เพราะเมื่อคุณแม่บริโภคน้ำอัดลม น้ำตาลในน้ำอัดลมจะส่งผลเสียต่อระบบความจำของลูก โดยเฉพาะในด้านทักษะในการสื่อสาร นอกจากนี้การดื่มน้ำอัดลมที่เป็น 0 แคลอรี ก็ยังส่งผลเสียต่อระบบการมองเห็นของลูกน้อยในครรภ์ได้เช่นกัน
น้ำอัดลมมีการแต่งสี และรสชาติด้วยน้ำตาลเทียม (saccharin) จำนวนมาก ซึ่งน้ำตาลเทียมเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะพิการแต่กำเนิดของลูกน้อยได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรอ่านฉลาก และข้อมูลโภชนาการก่อนว่า น้ำอัดลมเหล่านั้นมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยหรือเปล่า
การดื่มน้ำอัดลมอาจทำให้คุณแม่นอนไม่หลับ เนื่องจากในน้ำอัดลมมีปริมาณคาเฟอีนจำนวนมาก ซึ่งคาเฟอีนเหล่านี้จะส่งผลให้คุณแม่นอนไม่หลับ และยังส่งผลต่อระดับแคลเซียมในร่างกายอีกด้วย ซึ่งแคลเซียมเหล่านี้ล้วนเป็นแร่ธาตุที่จำเป็น เพราะช่วยในการสร้างกระดูก และฟันของทารก นอกจากนี้งานวิจัยบางส่วนยังเผยว่า แม่ท้องที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน อาจนำไปสู่การแท้งบุตรได้
น้ำอัดลมสามารถทำให้คุณแม่เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ เนื่องจากคาเฟอีนที่อยู่ในน้ำอัดลม สามารถทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนรุนแรง ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสามของการตั้งครรภ์ หากคุณแม่บริโภคน้ำอัดลม แล้วเกิดอาการกรดไหลย้อนอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย และลูกในท้องได้ ดังนั้นจึงควรหยุดดื่มน้ำอัดลมทันที หากมีอาการเหล่านี้
-
ให้สารอาหารที่ไม่มีประโยชน์
ในน้ำอัดลมมีสารอาหารที่น้อยมาก ซึ่งสารอาหารเหล่านั้นอาจไม่มีประโยชน์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ รวมถึงยังให้แคลอรีที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร รวมถึงวิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการพัฒนาทารกในครรภ์เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากคุณแม่มีอาการติดน้ำอัดลม ควรใช้วิธีการจิบเพียงเล็กน้อย ไม่รับประทานบ่อยก็อาจไม่เป็นอันตรายได้
แม่ท้องสามารถดื่มน้ำอัดลมได้มากเท่าไหร่?
คุณแม่ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนในช่วงตั้งครรภ์ โดยไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งโดยปกติแล้ว น้ำอัดลมจะมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 35-55 มิลลิกรัม คุณแม่อาจต้องนับปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับจากอาหารอื่น ๆ ด้วย เช่น ชา กาแฟ ช็อกโกแลต และเครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงควรระวังไม่ให้ปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวันสูงเกินไปอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : “น้ำอัดลม” น้ำหวานสุดอร่อย กินได้แค่ไหนไม่อันตรายต่อลูกในท้อง
![คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2017/07/Soft-Drinks.jpg?width=700&quality=10)
คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม ..โทษของการดื่มน้ำอัดลม
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากมาย การดื่มน้ำอัดลมในปริมาณมากและเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งโทษของการดื่มน้ำอัดลมมีดังนี้
1. ปริมาณน้ำตาลสูง
- น้ำอัดลมส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำตาลสูงมาก การดื่มน้ำอัดลมเพียง 1 กระป๋องก็อาจได้รับน้ำตาลเกินกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- การได้รับน้ำตาลในปริมาณมากจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายต้องหลั่งอินซูลินออกมามากเกินไป
- ภาวะเช่นนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคอื่นๆ อีกมากมาย
2. ฟันผุ
- น้ำอัดลมมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งสามารถกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้ฟันผุได้ง่าย
- นอกจากนี้ น้ำตาลในน้ำอัดลมยังเป็นอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งจะผลิตกรดออกมาทำลายฟัน
3. โรคกระดูกพรุน
- น้ำอัดลมมีฟอสฟอรัสเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
- การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอจะทำให้กระดูกอ่อนแอและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
4. โรคอ้วน
- น้ำอัดลมให้พลังงานสูงแต่ไม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์
- การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะทำให้ได้รับพลังงานส่วนเกิน ซึ่งจะถูกสะสมในรูปของไขมันและทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
- โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งบางชนิด
5. โรคหัวใจและหลอดเลือด
- การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- น้ำตาลในน้ำอัดลมจะเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์และลดระดับไขมันดี (HDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
- นอกจากนี้ น้ำอัดลมยังเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
การดื่มน้ำอัดลมไม่ว่าจะอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย การลดหรือเลิกดื่มน้ำอัดลมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ในช่วงที่กำลังครรภ์นะคะ
![คนท้องกินน้ำอัดลมได้ไหม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2017/07/Pregnancy-Drink-Water.jpg?width=700&quality=10)
เครื่องดื่มแบบไหนที่แม่ท้องควรดื่มแทนน้ำอัดลม?
สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ การเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงและสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น น้ำอัดลม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน รวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น ลดอาการท้องผูก และช่วยในการสร้างน้ำนม ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่สามารถดื่มน้ำเปล่าได้มากถึงวันละ 8 ถึง 12 แก้วต่อวัน
น้ำผลไม้คั้นสดเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ แต่ควรเลือกน้ำผลไม้ที่ไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม หรือผสมน้ำเปล่าเพื่อลดความหวาน
นมเป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ควรเลือกนมพร่องมันเนยหรือนมที่ไม่มีน้ำตาล
ชาสมุนไพรบางชนิด เช่น ชาคาโมมายล์หรือชาขิง สามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องหรือช่วยในการย่อยอาหารได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม
การดื่มน้ำอัดลมขณะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยได้ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนท้องคือการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ และเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น น้ำผลไม้คั้นสด หรือนมจืด ทั้งนี้หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลครรภ์อีกครั้งนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
น้ำอัดลม เหมาะกับเด็กจริงหรือไม่? ควรให้หรือไม่ให้ลูกกิน?
คนท้องกินเบียร์ได้ไหม ? จริงหรือมั่วที่เบียร์จะช่วยล้างไขหุ้มตัวลูก
อาหารขยะ คนท้องกินได้ไหม? จังก์ฟู้ดปลอดภัยสำหรับคนท้องหรือเปล่า
ที่มา : โรงพยาบาลเพชรเวช , news.com.au , motherhow, healthline, mamastory
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!