อย่างที่เรารู้กันดีกว่า โยเกิร์ต อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อีกทั้งยังมีแคลเซียมที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟัน และยังช่วยลดอาการท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องอืดอีกด้วย คุณแม่หลายคนจึงอาจสงสัยว่า คนท้องกินโยเกิร์ตได้ไหม กินแล้วจะช่วยบำรุงร่างกายอย่างไร วันนี้ theAsianparent Thailand มีบทความดี ๆ จะช่วยไขคำตอบว่าคนท้องกินโยเกิร์ตได้หรือเปล่า พร้อมแล้ว มาดูกันค่ะ
คนท้องกินโยเกิร์ตได้ไหม?
คุณแม่อาจสงสัยว่าคนท้องกินโยเกิร์ตได้หรือเปล่า คำตอบคือ ได้ค่ะ เพราะโยเกิร์ตให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมดิบ และนมพาสเจอไรซ์ หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ควรรับประทานโยเกิร์ตพาสเจอไรซ์ มากกว่าโยเกิร์ตที่ทำมาจากนมดิบ เพราะในน้ำนมดิบนั้น อาจมีแบคทีเรียที่เป็นอันตราย เช่น แบคทีเรียลิสเทอเรีย หรือซัลโมเนลลา เป็นต้น ซึ่งหากรับประทานไปแล้ว ก็อาจทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรรับประทานโยเกิร์ตที่ทำมาจากนมพาสเจอไรซ์ เพราะมีความปลอดภัยมากกว่าค่ะ
คนท้องกินกรีกโยเกิร์ตได้ไหม?
กรีกโยเกิร์ต เป็นโยเกิร์ตที่คุณแม่ควรบริโภคในช่วงตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะให้โปรตีน และวิตามินที่สูง อีกทั้งยังปลอดภัยต่อคนท้องอีกด้วย นอกจากนี้กรีกโยเกิร์ตยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยบำรุงสายตาของทารก และยังช่วยระบบย่อยอาหาร ทำให้คุณแม่ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตามกรีกโยเกิร์ตที่ทำมาจากน้ำนมดิบ หรือนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ ก็อาจส่งผลอันตรายแก่คุณแม่ถึงขั้นแท้งบุตรได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรเลือกรับประทานกรีกโยเกิร์ตที่ทำมาจากพาสเจอไรซ์แทนดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : กรีกโยเกิร์ต โยเกิร์ตอีกชนิด ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อทารกน้อย

โยเกิร์ตแบบไหนที่อันตรายต่อแม่ท้อง?
แม้ว่าโยเกิร์ตจะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ยังมีโยเกิร์ตบางประเภทที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในช่วงตั้งครรภ์ โดยโยเกิร์ตที่เป็นอันตรายต่อคุณแม่ท้อง มีดังนี้
- โยเกิร์ตที่ทำมาจากน้ำนมดิบ : แน่นอนว่าโยเกิร์ตที่ทำมาจากน้ำนมดิบ หรือนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ อาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่ และทำให้เกิดการติดเชื้อ จนนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด หรือการแท้งบุตรได้
- โยเกิร์ตโฮมเมด : แม้ว่าโยเกิร์ตโฮมเมดจะใช้นมที่ผ่านการพาสเจอรไรส์ก็ตาม แต่ก็อาจมีแบคทีเรียปะปนอยู่ได้ เนื่องจากปัจจัยทางด้านเวลา หรืออุณหภูมินั่นเอง
- โยเกิร์ตธรรมดา : โยเกิร์ตธรรมดามีปริมาณไขมันดีที่สูง อาจส่งผลให้แม่ท้องมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรเลือกรับประทานโยเกิร์ตไขมันต่ำแทนดีกว่า
คุณแม่สามารถรับประทานโยเกิร์ตไขมันต่ำ รสธรรมชาติ แบบไม่หวานได้ 600 กรัมต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากโยเกิร์ตแบบเต็ม ๆ โดยคุณแม่อาจรับประทานโยเกิร์ตคู่กับผลไม้ หรือใส่ในสลัด เพื่อช่วยให้รับประทานง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถใส่น้ำผึ้งเล็กน้อยลงในโยเกิร์ต เพื่อช่วยเติมความหวานให้แก่โยเกิร์ตได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : กินโยเกิร์ตมื้อเช้ามีดีกว่าที่คิด เมนูโยเกิร์ตและประโยชน์ของโยเกิร์ตที่ควรรู้

ประโยชน์ของการกินโยเกิร์ตระหว่างตั้งครรภ์
อย่างที่ทราบว่าการรับประทานโยเกิร์ตให้สารอาหารต่าง ๆ มากมาย และยังช่วยลดอาการท้องเสีย ท้องผูก และท้องอืดอีกด้วย นอกจากนี้การรับประทานโยเกิร์ตระหว่างตั้งครรภ์ยังให้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ดังนี้
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียมมากมาย ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันของทารก อีกทั้งยังช่วยในการทำงานด้านอื่น ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้การรับประทานโยเกิร์ตยังช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินในร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์อีกด้วย
โยเกิร์ตมีแบคทีเรียดีที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการบำรุงระบบย่อยอาหาร บรรเทาโรคต่าง ๆ และยังช่วยฟื้นฟูแบคทีเรียในลำไส้ โดยการเพิ่มระดับโปรไบโอติกได้ด้วย
ประโยชน์สำคัญอย่างหนึ่งของโยเกิร์ต ยังสามารถป้องกันความดันโลหิตสูงได้ด้วย เพราะความดันโลหิตสูงอาจส่งผลต่อร่างกายคุณแม่ และลูกในครรภ์ได้ ดังนั้นการบริโภคโยเกิร์ตระหว่างตั้งครรภ์ สามารถควบคุมคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และยังช่วยให้ร่างกายของคุณแม่สงบลงได้
หากคุณแม่อยากรับประทานอาหารรสเผ็ดในช่วงตั้งครรภ์ สามารถรับประทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยลดความอยากทาน และยังช่วยลดอาการเสียดท้อง และลดกรดในกระเพาะอาหารได้อีกเช่นกัน
-
ป้องกันผิวคล้ำ และผิวแห้ง
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งช่วยให้ผิวของคุณแม่แข็งแรงได้ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันผิวคล้ำ และผิวแห้งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : โยเกิร์ตธรรมชาติ ตัวช่วยสำหรับวัยทำงานที่รู้สึกว่าสมองอ่อนล้า

-
ลดความเครียด และความวิตกกังวล
ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจมีอาการเครียด และความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก การรับประทานโยเกิร์ตจะช่วยลดความเครียดได้นั่นเอง อีกทั้งยังดีต่ออารมณ์ ช่วยให้ความหวานแทนการบริโภคของหวานอื่น ๆ เช่น ไอศกรีม หรือเค้ก
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยแบคทีเรียชนิดดี เช่น แบคทีเรียโปรไบโอติก ซึ่งช่วยในการบำรุงระบบย่อยอาหารได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น รวมทั้งยังช่วยรักษาสุขภาพของลำไส้อีกเช่นกัน
แม้ว่าในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น แต่การที่น้ำหนักตัวเพิ่มมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ตัวคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้นการรับประทานโยเกิร์ตในช่วงตั้งครรภ์ สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักตัว โดยเป็นการป้องกันการเพิ่มขึ้นของคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
อีกหนึ่งประโยชน์ของโยเกิร์ต คือการช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ เนื่องจากโยเกิร์ตเป็นแหล่งของโปรตีน และแคลเซียมที่ดี ซึ่งจะช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อ และยังช่วยในการหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้ออีกด้วย
โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรับประทานในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันความดันโลหิตสูง และยังลดความเครียด และความวิตกกังวลอีกด้วย ดังนั้นหากคุณแม่อยากรับประทานโยเกิร์ตในช่วงตั้งครรภ์ สามารถรับประทานโยเกิร์ตที่ผ่านการพาสเจอไรซ์ ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารอาหารเต็ม ๆ นั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินหอยแครงได้ไหม แม่ท้องอยากกินหอยแครง ทำไงดี
คนท้องกินน้ำผึ้งได้ไหม ? มีหลายเรื่องที่ต้องระวัง คุณแม่รู้แล้วหรือยัง ?
5 เมนูโยเกิร์ต อาหารเช้าแสนอร่อย เฮลตี้ พร้อมแจกสูตร โยเกิร์ตโฮมเมด ทำง่าย
ที่มา : hipregnancy, parenting.firstcry, mamastory
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!