ระยะหลังคลอด หรือช่วง 6 สัปดาห์แรก นับเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างหนักหน่วง สำหรับแม่ลูกอ่อน ทั้งตัวลูกน้อยที่กำลังปรับตัวเข้าสู่โลกใบใหม่ และตัวคุณแม่เอง ทึ่จะต้องเผชิญกับภาวะหลังคลอด ความเครียด ความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่ประดังประเดเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือสภาวะจิตใจ ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดที่บอบช้ำ จากการให้กำเนิดนั้น อาจต้องเผชิญกับอาการต่อไปนี้ เช่น แผลหลังคลอด กี่วันหาย
ภาวะความเจ็บปวดทางร่างกาย
- เลือดไหลไม่หยุด
- เป็นไข้
- มึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม
- ปวดหัวอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา
- รู้สึกเจ็บ ขณะปัสสาวะ
- ปวดขา ขาบวม
- ปวดกล้ามเนื้อบริเวณท้อง
นอกจากนี้ คุณแม่ยังต้องคอยดูแลแผล ที่เกิดจากการคลอดด้วย หลังจากมีการฉีกขาดขณะคลอดลูก คุณหมอจะเย็บบริเวณทวารหนัก หลังจากคลอดแล้ว คุณแม่อาจเจ็บบริเวณช่องคลอด การดูแลตัวเองหลังคลอดเป็นสิ่งจำเป็น ที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ป้องกันการติดเชื้อ และเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต
ภาวะความเจ็บปวดทางจิตใจ
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
- รู้สึกเศร้า เสียใจ หมดหวัง
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด โกรธง่าย หรืออยู่ไม่สุข
- วิตกกังวลมาก ผิดปกติ
- มีปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนหลับมากผิดปกติ นอนไม่หลับ เป็นต้น
- ร้องไห้มากกว่าปกติ หรือร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล
- มีปัญหาเรื่องสมาธิ การจดจำรายละเอียด หรือการตัดสินใจ
- หมดความสนใจในสิ่งที่ชอบ หรืองานอดิเรก
- รับประทานอาหารน้อยลง หรือรับประทานมากขึ้น อย่างผิดปกติ
- มีปัญหาสุขภาพโดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น ปวดศีรษะบ่อย ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เป็นต้น
- เก็บตัว หรือหลีกเลี่ยงการพบเจอเพื่อน และคนในครอบครัว
- มีปัญหาในการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างแม่ลูก
แผลหลังคลอด กี่วันหาย ???!!!
ช่วง 2-3 อาทิตย์หลังคลอด คุณอาจจะเจ็บบริเวณฝีเย็บได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณหมอเย็บแผลฝีเย็บให้ วิธีการดูแลบริเวณ การกระชับฝีเย็บ โดยทั่วไปคือ การรักษาความสะอาดบริเวณนั้นอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการปวดร่วมด้วยเราพอมีวิธีดูแลตัวเองมากฝากดังนี้
- พยายามล้างด้วยน้ำอุ่น ทุกครั้ง หลังเสร็จภารกิจในห้องน้ำ อย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้ง
- หากปวดมากให้ใช้การประคบเย็นเข้าช่วย สเปรย์สำหรับป้องกันการติดเชื้อ ก็มีประโยชน์สำหรับแผลขนาดใหญ่
- กินอาหารที่มีเส้นใยสูง เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
ภาพประกอบจาก www.finder6.com
การกระชับฝีเย็บ
การกระชับฝีเย็บคือ การสร้างความแข็งแรงให้ฝีเย็บ และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับแม่มือใหม่ทุกคน ไม่ว่าจะคลอดเอง หรือผ่าคลอดก็ตาม เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ สามารถทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่กระชับ หลังจากคลอดลูก คุณหมอจะนัดดูแผล และอาการ โดยทั่วไปของคุณ คุณหมอจะบอกว่าแผลของคุณดีขึ้นมากขนาดไหนแล้ว คุณต้องรอให้ครบ 8 สัปดาห์ก่อน จึงจะออกกำลังกายเพื่อกระชับฝีเย็บได้ เพราะแผลบริเวณนี้ ควรหายดีเสียก่อน หากมีเลือดไหล ควรหยุดออกกำลังกายทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง : แผลฝีเย็บ แผลหลังคลอด คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างไร
วิธีดูแลแผลฝีเย็บ และการกระชับฝีเย็บ
- ปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการบริหารอุ้งเชิงกรานโดยตรง เพื่อทดสอบความแข็งแรง และการควบคุมกล้ามเนื้อฝีเย็บเพื่อจะดูว่าการกระชับกล้มเนื้อฝีเย็บแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
- การใช้ไฟฟ้ากระตุ้น เพื่อฝึกการขมิบฝีเย็บ ก็เป็นวิธีหนึ่ง
- การออกกำลังกายตามหลักของคีเกิล (หรือการขมิบ) ก่อน และหลังตั้งครรภ์ เพื่อรักษารูปร่างของฝีเย็บ
- สำหรับผู้หญิงที่ต้องการกระชับหน้าท้อง เพื่อกำจัดน้ำหนักส่วนเกินหลังตั้งครรภ์ ควรเริ่มด้วยการออกกำลังกายฝีเย็บก่อน เพราะการออกกำลังกายบริเวณหน้าท้องจะทำให้ฝีเย็บทำงานหนักขึ้น ควรรอสักประมาณ 3 เดือน ก่อนจะกลับไปออกกำลังกายเหมือนเดิมจะดีที่สุด
คุณแม่ทุกคนควรออกกำลังกาย เพื่อบริหารอุ้งเชิงกรานก่อน และหลังตั้งครรภ์เพื่อกระชับฝีเย็บ คุณสามารถทำได้แทบจะทุกที่เพียงแค่ขมิบกล้ามเนื้อบริเวณเชิงกราน เหมือนเวลาคุณจะปัสสาวะสัก 10 วินาที และค่อยคลาย ทำอย่างนี้วันละ 3 เวลา ครั้งละ 10 ที
ประโยชน์ของการกระชับกล้ามเนื้อฝีเย็บ
มีหลายเหตุผลที่คุณควรระวังแผลฝีเย็บหลังคลอด และควรทำตามเทคนิคการกระชับฝีเย็บที่ถูกต้อง
การดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด
- การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวกลับคืนสู่สภาพก่อนตั้งครรภ์ได้
- ช่วยป้องกันปัสสาวะเล็ดซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยให้ผู้หญิงที่คลอดลูกแบบธรรมชาติ
- ช่วยป้องกันมดลูกหย่อนซึ่งต้องอาศัยการผ่าตัดเพื่อรักษา
- ช่วยเพิ่มความรื่นรมย์ให้กิจกรรมบนเตียง และป้องกันความเจ็บปวดระหว่างมีเซ็กส์ได้
คุณสามารถป้องกันการฉีกขาดของฝีเย็บก่อนคลอดได้ หรือไม่?
ช่วงตั้งท้องว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย ควรเตรียมกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้พร้อมสำหรับ เตรียมพร้อมก่อนคลอด จะได้หลีกเลี่ยงการฉีกขาด และการกรีดฝีเย็บจากแพทย์ ดังนี้
การออกกำลังกายเพื่อบริหารอุ้งเชิงกรานตามแบบของคีเกิล
โดยการขมิบช่องคลอดนั่นเอง แต่วิธีออกกำลังกายก็มีข้อแนะนำที่เหมาะสมอยู่ เพื่อให้สาวๆ บริหารกล้ามเนื้อได้ถูกส่วน ซึ่งได้แก่
- หามัดกล้ามเนื้อที่ถูกต้อง กล้ามเนื้อส่วนที่เราต้องการคือกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งได้ โดยขณะกำลังปัสสาวะ ให้พยายามขมิบหูรูดเพื่อหยุดปัสสาวะไว้โดยห้ามเกร็งหน้าท้องหรือหนีบขา หากสามารถหยุดปัสสาวะกลางคันได้ก็แสดงว่าเราเจอกล้ามเนื้อที่ถูกต้องแล้ว
- บริหารกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม ให้ใช้วิธีขมิบเกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานค้างไว้ 5 วินาที และปล่อย 5 วินาที ทำสลับกันไป 4-5 รอบ เมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้วอาจเปลี่ยนมาขมิบเกร็งกล้ามเนื้อคราวละ 10 วินาที และปล่อย 10 วินาทีก็ได้
- โฟกัสที่กล้ามเนื้อ ระหว่างขมิบเกร็ง ให้เราเพ่งสมาธิไปที่กล้ามเนื้อส่วนดังกล่าวด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเราบริหารกล้ามเนื้อถูกจุด โดยพยายามหลีกเลี่ยงการเกร็งหน้าท้อง หนีบเกร็งขา หรือกลั้นหายใจ ขณะออกกำลังกายแบบคีเกล
การออกกำลังกายแบบคีเกลเป็นประจำ จะช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงและกระชับ ทำให้อวัยวะที่ถูกรองรับนั้นไม่หย่อนยาน
ใช้ครีมสูตรธรรมชาติเพื่อนวดบริเวณฝีเย็บทุกวัน
2-3 เดือนก่อนคลอด ครีมจะช่วยให้กล้ามเนื้อฝีเย็บยืดหยุ่นเวลาคลอด
คุณควรบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหลังคลอดด้วยเช่นกัน การปฏิบัติตามคำแนะนำที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยลดความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นกับฝีเย็บได้ และยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ระยะของการฟื้นตัวของคุณแม่หลังคลอด ไม่ได้เหมือนกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการคลอดแบบธรรมชาติ การผ่าคลอด หรือวิธีการอื่น ๆ คุณแม่หลาย ๆ คน สามารถฟื้นตัวได้ และหายเป็นปกติจากความเจ็บปวดหลังคลอด ภายในเวลา 6 – 8 สัปดาห์ หากแต่ว่าบางคนก็ใช้เวลานานกว่านั้น คุณแม่อาจจะรู้สึกเจ็บปวด และไม่สบายตัวไปสักระยะ คุณอาจจะวุ่น ๆ กับการดูแลลูกน้อยแรกเกิด แต่ก็ต้องอย่าลืม ที่จะดูแลตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ จนกว่าจะหายดี เพราะว่าคุณแม่ ก็คือคนที่สำคัญที่สุดของลูกเช่นกัน เรามี เมนูหลังคลอด มาแนะนำให้คุณแม่ เช่น ข้าวต้มปลาแซลมอน สลัดผลไม้ แกงฟักทอง ไข่ตุ๋น
อ้างอิง: https://www.healthline.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
การดูแลหลังผ่าท้อง ต่างจากการคลอดธรรมชาติอย่างไร
รวมท่าออกกำลังกายหลังคลอด สำหรับแม่ผ่าคลอดท้องไม่ยุบ
ควันบุหรี่มีผลต่อทารกในครรภ์ อันตรายจากการสูบบุหรี่ของแม่ท้อง!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!