วิตามินเด็ก ต้องเสริมอะไรบ้าง? ทำไมเด็กถึงต้องกิน มีความจำเป็นอย่างไร?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิตามินเด็ก อาหารเสริมวิตามินสำหรับเด็ก ที่คุณแม่หลายท่านแอบสงสัยว่าทำไมลูกของเราจึงต้องกิน และต้องกินอะไรบ้างถึงจะดีต่อร่างกายของพวกเขา สามารถเสริมวิตามินให้ลูกได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ และวิตามินเด็กนั้นปลอดภัยจริงหรือไม่ มาลองหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ

 

ทารกจำเป็นต้องทานวิตามินเด็กทุกคนหรือไม่?

ในกรณีส่วนใหญ่ เด็กที่ดื่มนมแม่ หรือนมเสริมสำหรับทารก ในช่วง 4-6 เดือนแรก จะถูกแนะนำให้มีการเสริมวิตามินสำหรับเด็กในปริมาณ 32 ออนซ์ต่อวัน และหลังจากอายุ 4-6 เดือน ทารกจะเริ่มทานอาหารที่มีความแข็งได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแพทย์ของคุณอาจให้คุณหยุดการให้วิตามินเด็กกับลูกน้อยของคุณ และเริ่มให้ทานเป็นอาหารบดแทน

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับการแนะนำให้ทานวิตามินเด็ก การหยุดทานวิตามินเสริม หรือการแนะนำอาหารสำหรับทารกในช่วงวัย หลังจาก 4-6 เดือนแรก แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีทารกที่มีความจำเป็นในการเสริมวิตามินตั้งแต่แรกเกิด หรือจำเป็นที่จะต้องมีการรับวิตามินต่าง ๆ ตั้งแต่ในช่วงอายุ 0-4 เดือน อาทิ ทารกที่คลอดก่อนกำหนด และมีน้ำหนักน้อยกว่า 3.3 ปอนด์ หรือ 1.5 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเล็กมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องการวิตามินและแร่ธาตุเพิ่มเติมจากนมของแม่ หรือการรับประทานเองโดยตรง แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานวิตามินเสริมควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และการแนะนำจากเภสัชกรโดยตรง

 

 

วิตามินใดบ้างที่มีความสำคัญกับเด็ก

อาหารเสริม หรือวิตามินเด็ก เป็นสิ่งที่ถูกนำมาให้เด็กทารกรับประทานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพาะทารกบางคนที่ต้องการเสริมวิตามินบางชนิดเพิ่มเติมหลังจากลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือน ซึ่งวิตามินที่ทารกต้องการในช่วงแรกหลังเกิด ได้แก่

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • วิตามินเค

แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทารกที่มีการคลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักไม่เป็นไปตามเกณฑ์ หรือแม้แต่เด็กทั่วไปนั้นรับวิตามินเค 1 ครั้งหลังจากการคลอดไม่ได้นานนัก เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเลือดออก (Hemorrhagic disease) ซึ่งวิตามินเคเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกายของมนุษย์เราเป็นอย่างมาก ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นโมเลกุลบางอย่างที่ช่วยให้เลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม

 

  • โอเมก้า 3 / DHA

DHA เป็นกรดไขมันชนิดหนึ่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการทางด้านสมองและดวงตาของทารก ซึ่งปกติแล้วทารกจะได้รับ DHA จากน้ำนมของคุณแม่ในช่วงของการให้นมบุตร โดยส่วนใหญ่แล้วโอเมก้า 3 นั้นจะพบมากในอาหารทะเล และเนื้อสัตว์ ซึ่งสำหรับคุณแม่ที่เป็นมังสวิรัติ หรือวีแกน อาจจะต้องพิจารณาเรื่องของการเสริม DHA เพิ่มเติม ดังนั้นคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้ทารกได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วน

 

  • วิตามินดี

ในช่วงแรกของทารกแรกเกิดมักจะได้รับวิตามินดีจากนมของแม่อยู่แล้ว ซึ่งวิตามินดีนั้นช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมและกักเก็บแคลเซียม และฟอสฟอรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยการขาดวิตามินดีนั้นอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุน และการพัฒนาการของกระดูกไม่เต็มที่ในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปีแรก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทั้งนี้จากที่ได้กล่าวว่าในนมของแม่นั้นมีวิตามินดี แต่ไม่ใช่ปริมาณที่เพียงพอต่อทารก และทารกทุกคนควรได้รับอาหารเสริมวิตามินดี เพราะว่าอย่างน้อยทารก 1 คนควรได้รับปริมาณวิตามินดีประมาณ 32 ออนซ์ต่อวัน จึงจะเป็นปริมาณที่มากเพียงพอต่อพวกเขา

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินดี หาได้จากไหน ป้องกันโรคประสาทเสื่อมแข็งในเด็กได้จริงหรือ

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • วิตามินบี 12

คุณแม่หลายท่านทราบเป็นอย่างดีว่าวิตามินบี 12 นั้นมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบประสาท และเซลล์เม็ดเลือดของร่างกายของทารกเป็นอย่างมาก และยังช่วยสร้าง DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมในทุกเซลล์ในร่างกายของเราอีกด้วย โดยการขาดวิตามินบี 12 นั้นอาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางชนิดที่เรียกว่า Megaloblastic Anemia ซึ่งส่งผลให้ทารกรู้สึกเหนื่อย และอ่อนเพลียง่ายกว่าเด็กปกติทั่วไป ทั้งนี้ทารกที่ดื่มแต่นมแม่จะมีภาวะขาดวิตามินบี 12 เมื่ออายุ 2-6 เดือน แต่อาจไม่ปรากฏอาการใด ๆ จนกว่าอายุจะถึง 6-12 เดือน โดยจะแสดงอาการดังต่อไปนี้

    • อาเจียน
    • ง่วงซึม
    • โลหิตจาง
    • เจริญเติบโตไม่เต็มที่
    • ภาวะของกล้ามเนื้อต่ำ (Hypotonia)
    • พัฒนาการล่าช้า/ ถดถอย

 

  • ธาตุเหล็ก

นมแม่ที่ทารกดื่มนั้นช่วงแรกหลังคลอดนั้นมีธาตุเหล็กต่ำมาก แต่ทารกส่วนใหญ่มักเกิดมาพร้อมกับธาตุเหล็กที่เพียงพอสำหรับการป้องกันโรคโลหิตจางอยู่แล้ว โดยสามารถป้องกันได้จนถึงอายุ 4-6 เดือน หากคุณแม่มีอาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ หรือมีการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกมีขนาดน้อยกว่า 2.7 กิโลกรัม ธาตุเหล็กสำหรับทารกอาจจะไม่เพียงพอ

ซึ่งถ้าหากลูกของคุณดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว แพทย์อาจมีการแนะนำให้ทานอาหารเสริมธาตุเหล็กในช่วงอายุ 4-6 เดือน และบริโภคจนกว่าจะเริ่มทานอาหารแข็งที่มีธาตุเหล็กได้ เช่น เนื้อปลา ถั่ว ผัก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็ก เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เสริมธาตุเหล็กให้ลูกน้อยวัย 6-12 เดือน ด้วยหลากหลาย เมนูตับสำหรับลูกน้อย

 

 

ทารกที่ดื่มนมผงจำเป็นต้องทานวิตามินหรือไม่?

เมื่อพูดถึงวิตามิน และแร่ธาตุในนมผงสำหรับเด็กที่มีช่วงอายุ 0-4 เดือนนั้นตอบได้เลยว่าในนมผงเหล่านั้นมีสารอาหารเพียงพอ เพราะนมผงเหล่านั้นมีการคำนวณสูตร และได้รับการเสริมวิตามินดี ธาตุเหล็ก และสารอาหารอื่น ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามทารกจะต้องได้รับนมในปริมาณ 32 ออนซ์ต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารเหล่านั้นอย่างเพียงพอในช่วงวัยของพวกเขา และสิ่งที่ควรระวังคือ ไม่ควรผสมวิตามิน และธาตุเหล็กลงในผลิตภัณฑ์นม หรืออาหารที่ให้ทารกดื่มหรือทานเด็ดขาด เพราะอาหารเหล่านั้นจะทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุลดลง

 

วิธีเลือก วิตามินเด็ก ควรเลือกอย่างไรดี

วิตามินเด็ก หรืออาหารเสริมของเด็กทารกมีมากมายหลายยี่ห้อที่ถูกขายในห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่การขายในรูปแบบออนไลน์ โดยแต่ละชนิดจะให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป โดยในการเลือกวิตามินเด็กที่เหมาะสำหรับลูกของคุณ คุณควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ปลอดภัยสำหรับทารกหรือไม่
  • วิตามินที่ได้รับการแนะนำเด็กรับประทานได้หรือไม่
  • ราคาของผลิตภัณฑ์
  • การปรุงแต่งรสชาติ หรือการใส่สารที่อาจเป็นอันตราย
  • คุณประโยชน์ และสารอาหารที่ถูกใส่มาในวิตามินเสริม
  • ผลิตภัณฑ์เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ หรือมีความเกี่ยวเนื่องกับสัตว์หรือไม่ (สำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ)
  • วิธีการทาน และปริมาณที่ทารกจะได้รับ

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าคุณแม่จะได้รับการแนะนำจากญาติพี่น้อง หรือแม้แต่การแนะนำจากเภสัชกรที่ร้านขายยาแล้วก็ตาม คุณแม่ควรปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ที่ดูแลทารกก่อนทุกครั้ง เพราะว่าแพทย์นั้นจะเข้าใจ และรับรู้ถึงการป่วย หรือความต้องการของทารกมากที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่า สำหรับเด็กบางคนแล้วอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินเสริมนั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิตามินเด็กที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะเราไม่มีทางทราบได้เลยว่าลูกน้อยของเรานั้นต้องการวิตามินและแร่ธาตุใดบ้าง หรือบางครั้งการรับรู้ที่ช้าจนเกินไปอาจส่งผลต่อร่างกายทารกต่าง ๆ ดังนั้นการพบแพทย์หลังคลอดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ควรไปตามนัดคุณหมอทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของทารก และจะได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพของทารกได้ทันท่วงทีด้วยนะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิตามินเด็ก ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรก ลูกวัยนี้ควรกินวิตามินอะไรเสริมดี

คุณแม่ควรให้ลูกน้อยทาน วิตามิน หรือ ยาเสริมธาตุเหล็กทารก หรือไม่?

วิตามินทารก 1 ปี ต้องเพื่อเสริมอะไรบ้าง? พร้อม 10 ยี่ห้อที่แม่แนะนำว่าต้องเลือก

ที่มา : happyfamilyorganics, babycenter, NHS, whattoexpect, mamastory

บทความโดย

Siriluck Chanakit