วิตามินเอ ดีต่อคนท้องอย่างไร? ส่วนใหญ่พบมากในผักผลไม้ คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถกินวิตามินเอได้ไหม อันตรายหรือเปล่า และวิตามินเอในผักผลไม้จะทำให้ทารกในครรภ์เป็นอันตรายหรือไม่ ทำให้พิการได้ไหม วันนี้ เรานำเกร็ดความรู้เรื่องของวิตามินเอ มาฝากคุณแม่กันค่ะ จะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง หาทานได้จากที่ไหน ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
วิตามินเอ คืออะไร ?
วิตามินเอ หรือ Retinoid เป็นวิตามินหนึ่งที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น และการเจริญเติบโตของเซลล์ ทั้งยังเสริมสร้างให้กระดูก ฟัน และเล็บแข็งแรง นอกจากนี้ยังป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร, ระบบทางเดินหายใจและระบบปัสสาวะ ผิวและผมแข็งแรง ช่วยบรรเทาโรคที่เกี่ยวกับไทรอยด์ได้ โดยเราสามารถรับวิตามินเอได้จากผลิตภัณฑ์จากสัตว์เป็นหลัก และสามารถรับวิตามินเอเพิ่มเติมได้จากพืชด้วยการรับประทานผักและผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนในด้านของผิวพรรณนั้น วิตามินเอ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่, ลดอาการอักเสบของผิว, ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ วิตามินเอจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการลดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ในอุตสาหกรรมเวชสำอาง จึงได้นำวิตามินเอมาผสมทั้งครีม, แป้ง และผลิตภัณฑ์อีกหลาย ๆ ตัว
อาหารที่มีวิตามินเอโดยธรรมชาติ จะอยู่ในผักใบเขียว ใบเหลือง ไข่แดง ตับ นม เนย ปลา มะเขือเทศ แครอท เป็นต้น โดยวิตามินเอ ที่ได้จากเนื้อสัตว์จะดูดซึมได้ดีกว่า ในด้านของอาหารเสริม จะมีการนำวิตามินเอมาผสมในปริมาณ 5,000 – 10,000 IU ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณ ที่กำลังพอดีต่อร่างกาย และได้มีการนำมาทำแบบเป็นน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์ในการทาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 14 สารอาหารจำเป็นสำหรับคนท้อง แม่ท้องควรกินวิตามินอะไรบำรุงลูกในท้องบ้าง
วิตามินเอมีดีอย่างไร ทำไมจึงสำคัญ ?
เรตินอยด์ หรือวิตามินเอ นั้นมีส่วนช่วยซ่อมแซมเซลล์ของร่างกาย และลดความเสี่ยงของโรค โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
วิตามินเอมักถูกใส่ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวประเภทยาทา และอาหารเสริมวิตามินเอที่มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบของสิว การเกิดสิว ลดริ้วรอย ลดและรอยด่างดำ แต่มีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวแห้งกร้าน
การวิจัยพบว่าผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคจอประสาทเสื่อมสภาพที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นภาพอย่างชัดเจนในผู้สูงอายุนั้น เมื่อได้รับประทานอาหารเสริมวิตามินซีสามารถช่วยลดความเสี่ยงในภาวะดังกล่าวได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ โดยการใช้วิตามินเอเฉพาะ แต่ยังไม่มีผลการวิจัยพบว่าเบต้าแคโรทีนมีส่วนช่วยในเรื่องนี้เช่นกัน
การศึกษาพบว่าวิตามินเอมีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของมะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งชนิดอื่น ๆ
ผลการวิจัยพบว่าการทานอาหารเสริมวิตามินเอที่มีการแนะนำสำหรับเด็ก ทำให้เด็กนั้นมีระดับวิตามินเอในเลือดในจำนวนที่มากเพียงพอนั้นสามารถลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหัดในเด็กได้
ผู้ที่ระดับวิตามินเอต่ำนั้นอาจส่งผลทำให้เกิดภาวะโลหิตจางและตาแห้งได้ อาจต้องมีการทานอาหารเสริมวิตามินเอเพื่อเพิ่มเติมระดับวิตามินเอในเลือด
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำวิตามินเอไปใช้เพื่อการรักษาโรคอื่น ๆ อาทิ มะเร็ง ต้อกระจก และเอชไอวี อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของการวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสรุป อาจต้องรอผลต่อไปในอนาคต
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคหัด คืออะไร อันตรายไหม หากลูกเป็นโรคหัดควรทำอย่างไร
วิตามินเออยู่ในอาหารประเภทใดบ้าง ?
การรับวิตามินเออย่างเพียงพอเหมาะสมนั้นเราสามารถรับได้ง่าย ๆ จากการรับประทานอาหาร โดยสามารถรับวิตามินเอได้จากแหล่งอาหาร ดังต่อไปนี้
วิตามินเอที่ได้รับจากสัตว์นั้นจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบของเรตินอล โดยสามารถรับวิตามินเอจากสัตว์ได้จากแหล่งอาหารดังต่อไปนี้ ตับ นม ไข่ และชีส เป็นต้น ถ้าหากไม่ได้รับประทานต่อเนื่องทุกวัน หรือในปริมาณที่มากจนเกินไปก็ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปอาหารเสริมหรือยา ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระวังอย่างยิ่ง เพราะถ้าได้รับมากเกินไปในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะทำให้เสี่ยงต่อภาวะแท้งหรือทารกพิการแต่กำเนิดได้ โดยเฉพาะยารักษาสิวอุดตันชนิดรุนแรงที่ใช้กันมากอย่างไอโซเตรตติโนอีน นั้น ห้ามใช้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้ทาผิว หรือทาหรือแต้มหน้าที่มีปริมาณกรดวิตามินเอน้อยกว่า ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะส่งผลต่อความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้เช่นกัน
วิตามินเอสามารถพบได้ในผักและผลไม้มากมาย โดยร่างกายของมนุษย์เรานั้นจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนที่ได้รับจากพืชเป็นวิตามินเอให้กับร่างกายของเรา โดยผักและผมไม้ที่มีสีแดง และส้มจะมีเบต้าแคโรทีนจำนวนมาก
วิตามินเอ ทำให้ทารกพิการจริงหรือไม่ ?
จากการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของการพิการของทารกเมื่อคุณแม่ได้รับปริมาณวิตามินเอจำนวนมากซึ่งมีการตีพิมพ์ในวารสารนิวอิงแลนด์เกี่ยวกับเรื่องระบาดวิทยา โดยในรายงานผลงานวิจัยนั้นได้ศึกษาเกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์จำนวน 22,748 คน ซึ่งมีการเปรียบเทียบการได้รับวิตามินเอในช่วงของเวลาตั้งครรภ์ของคุณแม่แต่ละท่าน
ซึ่งผลการวิจัยนี้พบว่า หากขณะที่ คุณแม่กำลังตั้งครรภ์มีการรับประทานวิตามินเอมากกว่า วันละ 10,000 มิลลิกรัมขึ้นไปจะเกิดความพิการต่อทารกในครรภ์มากกว่าการรับประทานของคนทั่วไปมากถึง 3.7 เท่า หรือพบภาวะความพิการของทารกในคุณแม่ 1 รายต่อ 57 ราย ทั้งนี้จากผลการวิจัยยังพบอีกว่ายิ่งคุณแม่ตั้งครรภ์มีระดับของวิตามินเอในร่างกายสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความพิการของทารกเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการวิจัยในครั้งนี้ไม่ได้พูดถึงการตรวจสุขคุณแม่ หรือเช็กความเสี่ยงจากปัจจัยอื่นเพิ่มเติม จึงอาจทำให้ข้อมูลเกิดความคลาดเคลื่อน แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานวิตามินเอในปริมาณที่มากจนเกินไปนั้นอาจส่งผลต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
วิตามินเอปริมาณเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย
คำแนะนำของวงการแพทย์ที่ยอมรับกันทั่วไปสำหรับทุกคนรวมทั้งคุณแม่ครรภ์ คือไม่ควรกินวิตามินเอเสริมเกินวันละ 4,000 – 8,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทานวิตามินเอเป็นอาหารเสริม เนื่องจากอาหารที่คุณแม่รับประทานอยู่ทุกวันก็มีปริมาณของวิตามินเอเพียงพออยู่แล้ว
โดยอาหารที่มีวิตามินเอมาก ได้แก่ ตับ นม ไข่ เนื้อ ไก่ และปลา เป็นต้น ดังนั้นหากคุณแม่รับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำทุกวันก็ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการได้รับวิตามินเอที่ไม่เพียงพอ หรือมากเกินความจำเป็นจนเป็นอันตรายนั่นเอง
คนท้องกินผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอได้ไหม ?
วิตามินเอในผักและผลไม้นั้น จะอยู่ในรูปของเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายใช้ผลิตเป็นวิตามินเอ ไม่ใช่ในรูปของเรตินเอเหมือนในเนื้อสัตว์ จึงไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ ไม่เพิ่มอุบัติการณ์เกิดทารกพิการในครรภ์ ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ไม่ต้องจำกัดผักผลไม้ซึ่งเป็นแหล่งหลักของเบต้าแคโรทีนโดยปกติเบต้าแคโรทีนจะมีมากในแครอท ผลไม้สีเหลืองส้ม อาทิ
- แคนตาลูป
- ลูกพีซ
- แอปริคอท
- มะม่วง
- มะเขือเทศ
- หัวบีท
- ผักใบเขียวต่าง ๆ เช่น บร็อคโคลี่ กะหล่ำเขียว
แม้รับประทานมากก็ไม่พบความเสี่ยงในการเกิดวิตามินเอเกินปริมาณที่กำหนด เพราะจะมีการดูดซึมและเปลี่ยนรูปเป็นวิตามินเอได้ในปริมาณที่จำกัด
ถึงแม้ว่าการทานวิตามินเอ ไม่ว่าจะจากสัตว์หรือพืชนั้นจะต้องระวังเรื่องของปริมาณของสารอาหารอื่น ๆ ที่ได้รับจากการรับประทานอาหารด้วย โดยวิตามินเอในผักและผลไม้นั้นปลอดภัย แต่สิ่งที่แม่ท้องหรือคนท้องควรระวังในการทานผักผลไม้คือน้ำตาล โดยเฉพาะผลไม้ที่มีความหวาน หากรับประทานมากเกินไป เสี่ยงต่อโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์นะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิตามินบี 1 ขาดแล้วอาจเสียชีวิตจริงไหม แล้วดีต่อแม่ท้องอย่างไร?
วิตามินอี (Vitamin E) ประโยชน์ดี ๆ ที่ได้ทั้งสุขภาพและความงาม
วิตามินบี 12 มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นสำหรับคนท้องหรือไม่?
แชร์ประสบการณ์หรือ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของวิตามินเอ ได้ที่นี่!
วิตามินเอ คนท้องกินได้ไหม ช่วยอะไรบ้างคะ
ที่มา : momjunction, 2, healthline, webmd
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!