X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ไนโตรเจนเหลวในอาหาร ทำเด็กอินโดนีเซีย บาดเจ็บกว่า 20 ราย

18 Jan, 2023
ไนโตรเจนเหลวในอาหาร ทำเด็กอินโดนีเซีย บาดเจ็บกว่า 20 ราย

รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ออกมาแจ้งเตือนถึงอันตรายของการใช้ ไนโตรเจนเหลวในอาหาร พร้อมรับประทาน และเรียกร้องให้เพิ่มความระมัดระวัง หลังจากมีเด็กบางคน รับประทานแล้วมีอาการแสบท้อง และมีอาหารเป็นพิษขณะรับประทานชิกิเงบุล หรือ ชิกิบูลิส ซึ่งเป็นขนมหลากสีสัน ที่ใส่ ไนโตรเจนเหลวในอาหาร ลงไปผสมด้วยเพื่อให้เกิดความแปลกใหม่

 

ไนโตรเจนเหลวในอาหาร

 

Advertisement

ไนโตรเจนเหลวในอาหาร อันตรายกว่าที่คิด

นพ.ดิกกี บูดิแมน แพทย์อินโดนีเซีย และนักวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ ได้ระบุว่า การนำขนมไปใส่ไนโตรเจนเหลว เพื่อทำให้ดูเหมือนว่า มีควันออกมาจากขนมเมื่อกินขนมเข้าไป แต่ถ้ากินขนมก่อนที่ไนโตรเจนเหลวจะระเหยไปจนหมด อาจเกิดอันตราย ทำให้ลำไส้ไหม้ และทะลุได้ ซึ่งในกรณีที่รุนแรงที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้ อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต

 

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เตือนอีกด้วยว่า ความเสี่ยงที่เกิดจากการกินขนมลักษณะนี้ ยังอาจทำให้เกิดผิวหนังไหม้ และหายใจลำบากได้ แม้ว่าจนถึงขณะนี้ จะยังไม่มีรายงานการพบผู้เสียชีวิต จากการกินขนมเคลือบไนโตรเจนเหลวนี้ แต่กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ได้ระบุว่า มีเด็กได้รับบาดเจ็บแล้วราว 25 คน โดย 2 คนในจำนวนนี้ ได้รับอันตรายถึงขั้นเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีแนวโน้มว่าจำนวนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บอาจมีเพิ่มมากกว่านี้

 

ทางกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ยังขอให้หน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น ดำเนินการตรวจสอบร้านอาหารต่าง ๆ ที่ใช้ ไนโตรเจนเหลวในอาหาร พร้อมแจ้งเตือนให้ร้านค้าเหล่านี้ แจ้งวิธีการบริโภคอย่างปลอดภัยให้กับลูกค้า ทั้งยังแนะนำว่า ร้านประเภทแผงลอยไม่ควรขายขนมรูปแบบนี้เลย และยังขอให้โรงเรียนต่าง ๆ สอนเด็ก ๆ ถึงอันตรายของขนมประเภทนี้ด้วย

 

ไนโตรเจนเหลวในอาหาร

 

ทั้งนี้ ในแอปพลิเคชันติ๊กต็อกนั้น มีหลายคลิปวิดีโอ ที่แสดงให้เห็นภาพเด็กวัยรุ่น และเด็กเล็กชาวอินโดนีเซีย แห่กันทำตามเทรนด์ ด้วยการรับประทานขนมท้องถิ่นดังกล่าวพร้อมพ่นควันสีขาวออกมาจากปาก โดยที่มีคลิปวิดีโอหนึ่งมียอดผู้เข้าชมสูงถึงเกือบ 60,000 ครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง : ก๊าซไนโตรเจน คืออะไร ชวนรู้จักก๊าซมากประโยชน์ ไร้สีไร้กลิ่น

 

อาหารอันตรายกินแล้วอาจทำให้ลูกพัฒนาการช้า

1. ขนมหวานที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก

การให้เด็กทานขนมหวานที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก นอกจากจะทำให้ลูกอ้วน มีน้ำหนักตัวมากเกินเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว น้ำตาลที่มีมากในขนมหวานยังมีส่วนทำลายสมองของลูกน้อยได้อีกด้วย ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกต จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาพบว่า หากเด็กได้รับน้ำตาลฟรุกโตสมากเกินไป อาจส่งผลต่อการหลั่งสารอินซูลิน ซึ่งจะทำให้สมองประมวลผลผิดพลาด ทำงานด้อยลง และส่งผลเสียต่ออารมณ์ของความคิดของเด็กได้

 

ไนโตรเจนเหลวในอาหาร

 

2. อาหารจานด่วน

อาหารจานด่วนประเภทจังก์ฟู้ด หรือที่แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวว่า อาหารขยะ หมายถึงอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการใด ๆ (Non-Nutritional Value) มักมีสารอาหารไม่ครบถ้วน นอกจากนี้ อาหารจังก์ฟู้ดบางชนิดยังใส่สารกันบูด หรือมีเกลือ ซึ่งมีโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งจะก่อให้เกิดโทษกับร่างกาย ทำให้เป็นโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจได้ ยิ่งถ้าเด็กในวัยกำลังเจริญเติบโต บริโภคอาหารประเภทจังก์ฟู้ดมากเกินไป เด็กก็จะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาสมอง ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กในระยะยาวได้

 

3. อาหารแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูป

อาหารกึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารประเภทที่แค่นำออกมาจากช่องแข็ง ก็นำมาอุ่นพร้อมรับประทานได้เลย รวมถึงอาหารกระป๋อง เป็นอาหารที่ไม่ควรให้เด็กก่อนวัยเรียนได้ทานบ่อย ๆ เพราะอาหารเหล่านี้ ต้องผ่านกระบวนการยืดอายุอาหาร เพื่อให้เก็บไว้ทานได้นานขึ้น นอกจากจะมีสารเคมีแล้ว อาหารเหล่านี้ยังไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ หากให้ลูกทานมาก ๆ จะสะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมขึ้นได้เมื่อลูกน้อยโตขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารเสริมสำเร็จรูป จำเป็นกับลูกน้อยอย่างไร รู้หรือไม่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด!

 

ไนโตรเจนเหลวในอาหาร

 

 

4. โปรตีนแปรรูป

เนื้อสัตว์ เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรได้รับจากเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการแปรรูป สำหรับเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอกบางชนิด หรือ แฮมบางชนิด เป็นโปรตีนแปรรูป ซึ่งจะมีการผสมสารเคมีที่ใช้ในการแปรรูปอาหาร อย่างสารกันบูด และโซเดียมสูง หากให้ลูกทานโปรตีนแปรรูปเหล่านี้บ่อย ๆ จนสะสมในร่างกายมาก ๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ในการประมวลผลต่าง ๆ ทำให้การเรียนรู้ และการจดจำทำได้ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

 

5. ชาและกาแฟ

โดยส่วนมากแล้ว มักจะไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหน ให้ลูกวัยก่อนเข้าเรียน ดื่มชาและกาแฟกันอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่คิดจะให้เด็กได้ลองดื่มชาและกาแฟ คาเฟอีนในชาและกาแฟจะส่งผลให้ประสาทตื่นตัว นอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก อีกทั้งยังขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กในกระแสเลือด เพื่อส่งออกซิเจนไปยังสมอง สำหรับพัฒนาการทางสมองของเด็กอีกด้วย

 

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

ไนโตรเจนเหลว

 

6. ไนโตรเจนเหลวในอาหาร

อย่างไรก็ตามไนโตรเจนเหลว นั้นสามารถใช้กับอาหารได้ค่ะ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการไม่ให้ถูกผิวหนัง หรือเนื้อเยื่ออ่อน และในการทำอาหารที่มีการเทราด หรือใส่ไนโตรเจนเหลว ควรทิ้งระยะไว้สักนิดนึง เพื่อให้ไนโตรเจนระเหยกลาย เป็นก๊าซ และต้องไม่ทานแบบซดของเหลวเข้าไปเด็ดขาด เพราะอาจเกิดการไหม้จากความเย็นจัดได้

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพัฒนาการของลูกนั้น อยู่ที่การเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญ อย่าท้อแท้ที่ในวันนี้ลูกของเราอาจจะยังไม่เก่งมากหรือยังด้อยกว่าคนอื่น เพราะหากคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูลูก ๆ ด้วยความรักและเอาใจใส่แล้ว ความฉลาดของลูกก็จะพัฒนาขึ้นมาได้ในที่สุดค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

10 อาหารอันตรายหน้าโรงเรียน ภัยอันตรายจากอาหารหน้าโรงเรียน

ชุดอาหารเด็ก สำหรับมื้ออาหารของหนูน้อย เลือกแบบไหนให้ปลอดภัยที่สุด

อาหารเด็ก ก่อนวัยเรียน เมนูอาหารก่อนวัยเรียนของลูก ๆ ที่คุณแม่ทำง่าย ๆ

ที่มา : thebangkokingsight

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanjana Thammachai

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • ไนโตรเจนเหลวในอาหาร ทำเด็กอินโดนีเซีย บาดเจ็บกว่า 20 ราย
แชร์ :
  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว