แน่นอนว่า “วิตามิน” เป็นสารอาหาร ที่เราต้องการในแต่ละวันอยู่แล้ว แม้ร่างกายเราจะต้องการวิตามินเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายของเราก็ต้องการ และขาดไม่ได้ วิตามิน จึงทำหน้าที่เป็นปัจจัย ที่จะช่วยให้ร่างกายของเรา นำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้ วันนี้เราจะพาไปดู ชนิดของวิตามิน ว่ามีกี่ชนิด และแต่ละชนิดให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้าง?
ชนิดของวิตามิน
วิตามิน จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แบบละลายในไขมัน และ แบบละลายในน้ำ และแบ่งย่อยออกได้อีก ดังนี้
ชนิดละลายในไขมัน (Fat Soluble Vitamins)
-
วิตามินเอ (Vitamin A)
ประโยชน์ของวิตามินเอ คือ ช่วยเรื่องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ของร่างกาย ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อผิวหนัง และป้องกันการติดเชื้อ ลดการเกิดสิว รวมถึงโรคต่าง ๆ เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคมะเร็ง โรคต้อหิน เป็นต้น
วิตามินเอ พบได้มากใน ไข่แดง นม เนย และ ผักผลไม้สีเหลือง
-
วิตามินดี (Vitamin D)
วิตามินดี มีส่วนช่วยในการดูดซึมของแคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อกระดูและฟัน เป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับเด็ก และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ วิตามินดี ร่างกายของเราสร้างได้ ด้วยการถูกแสงแดดช่วงก่อน 9 โมงเช้า เวลาที่เหมาะคือ ประมาณ 10 – 15 นาที
วิตามินดี พบได้มากใน นม มาร์การีน ซีเรียล น้ำมันปลา
อ่านเพิ่มเติม >> วิตามิน D หาได้จากไหน มีอาหารหรือผลไม้ชนิดไหนที่มีวิตามินDบ้าง?
-
วิตามินอี (Vitamin E)
วิตามินอี เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่สำคัญ ที่ช่วยรักษาเยื่อหุ้มเซลล์ต่าง ๆ และช่วยบำรุงผิว และระบบประสาทของร่างกาย
วิตามินอี พบได้มากใน น้ำมัน พืช ตะกูลถั่ว และ ผักใบเขียวปนเหลือง
-
วิตามินเค (Vitamin K)
หน้าที่ของวิตามินเค คือ ช่วยให้เลือดแข็งตัว และช่วยป้องกันเลือกออกภายใน หรือ เลือดไหลไม่หยุด และยังช่วยป้องกันกระดูกเปราะ ได้อีกด้วย
วิตามินเค พบได้มากใน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันตับปลา และ น้ำมันมะกอก
ชนิดละลายในน้ำ (Water Soluble Vitamins)
-
วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซี มีประโยชน์ในเรื่องการช่วยบำรุงผิวพรรณ และมีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน ของร่างกายเรา จึงช่วยให้ผิวพรรณสดใส และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง และขับของเสียออกจากร่างกาย
วิตามินซี พบมากใน ผลไม้ตระกูลส้ม สตรอว์เบอร์รี่ มะเบือเทศ และผักใบเขียว
อ่านเพิ่มเติม >> ประโยชน์ของวิตามินซี 7 ประโยชน์เน้นๆดีต่อใจดีต่อร่างกาย
-
วิตามินบี (Vitamin B)
วิตามินมีบีมีหลายชนิด ซึ่งมีประญชน์แตกต่างกันออกไป ดังนี้
วิตามินบี 1 (ไทอะมีน) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบประสาท ทางเดินอาหาร และ หัวใจ พบมากใน ธัญพืช เนื้อสัตว์ และ มันเทศ
วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวีน) ช่วยบำรุงเส้นผม เล็บ และผิวหนัง พบมากใน อาหารประเภท นม โยเกิร์ต ชีส พืชตระกูลถั่ว และ ปลา
วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) รักษาอาการร้อนใน ลดสิวอีกเสบ และช่วยบรรเทาอาการผื่นแดงได้ พบมากใน อาหารประเภท เนื้อสัตว์ ขนมปังธัญพืช และ แอปเปิล
วิตามินบี 5 (กรดแพนโทเทนิก) ช่วยลดอาการปวดข้ออักเสบ ลดอาการนอนไม่หลับ พบมากใน ถัวลิสง งา และ แอปเปิล
วิตามินบี 6 (ไพริด็อกซิน) มีส่วนช่วยการดูดซึมโปรตีน และ ไขมันได้ดี พบมากใน อาหารประเภท เนื้อสัตว์ ข้าวโอ๊ต และ ข้าวที่ไม่ผ่านการสี
วิตามินบี 7 (ไบโอติน) ช่วยชะลอ ป้องกันผมหงอก และบำรุงรักษาเล็บที่แห้ง แถมยังแก้ผดผื่นคัน พบมากใน ไข่แดง นม แป้งถั่วเหลือง
วิตามินบี 9 (กรดโฟลิก) ช่วยบำรุงผิวพรรณ และสุขภาพ ช่วยรักษาปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ พบมากใน ผักใบเขียว แครอท และ แคนตาลูป
วิตามินบี 12 ช่วยลดอาการเหน็บชา และลดอาการซึมเศร้าได้ พบมากใน เนื้อสัตว์ ถั่วต่าง ๆ และ หน่อไม้ฝรั่ง
วิตามินเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย การใส่ใจในเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่ดี แต่การเลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน หรือ อาหารก็ตาม ควรใส่ใจในการเลือกสรรค์ และรู้เท่าทัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ที่มาข้อมูล : festforfood , si.mahidol.ac.th
บทความที่เกี่ยวข้อง :
9 วิตามินคืนความสาวหลังคลอด ทำอย่างไรให้แม่สวย แซ่บ
แร่ธาตุ วิตามิน สำหรับเด็ก วัย 6-12 ปี มีอะไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่ลองมาเช็คกันค่ะ
วิตามินซี ควรกินอย่างไร ให้ลูกรักได้ประโยชน์เต็มร้อย