ด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น และหน้าท้องที่ขยายตัว ทำให้ทั้งขา และหลังของคุณแม่ต้องรับบทบาทที่หนักยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกอยากที่จะไปนวดผ่อนคลาย ตามศูนย์บริการนวดเพื่อสุขภาพ แต่เมื่อไปก็มักจะถูกปฏิเสธการให้บริการเนื่องเพราะเราตั้งครรภ์อยู่ ในทางกลับกัน บางศูนย์บริการก็สามารถให้บริการนวด (Massage) นวดคนท้อง ให้คนที่ตั้งครรภ์ให้ได้เช่นกัน นั่นเป็นที่สงสัยว่า แท้ที่จริงแล้ว คนท้องนวดได้ไหม ? แล้วการนวดจะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่? อย่างไร?
คุณแม่ตั้งครรภ์ปวดเมื่อย เพราะสรีระเปลี่ยน
ในช่วงตั้งครรภ์ มดลูกที่อยู่บริเวณท้องน้อยจะขยายใหญ่ขึ้นมาก น้ำหนักจะทิ้งลงมาข้างหน้า ร่างกายจึงพยายามชดเชย โดยเลื่อนจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย มาทางด้านหลัง ทำให้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่เดินหลังแอ่น
ประกอบกับข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกายหลวมขึ้น เนื่องจากการแบ่งปันคอลลาเจนในร่างกายไปสู่ครรภ์ ทำให้ท่าทางของร่างกายเปลี่ยนไป จึงมักมีอาการปวดหลังมาก จนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเครียดสะสมสำหรับคนท้อง โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ช่วงอายุครรภ์ 7 – 9 เดือน ที่จะทำให้เกิดความเหนื่อยล้า ของกล้ามเนื้อมากยิ่งขึ้น อาจจะมีอาการปวดขา หรืออ่อนแรงบริเวณแขนร่วมด้วยได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : สรีระร่างกายตอนตั้งครรภ์ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ?
สถานบริการการนวดเพื่อสุขภาพในประเทศไทย มีมากมายไม่แพ้กับร้านสะดวกซื้อเลยก็ว่าได้ หากเป็นสมัยก่อน เราอาจจะต้องคำนึงถึงร้านนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ตัวเราเองได้รับการบริการที่ถูกต้อง และปลอดภัยกับสุขภาพของตนเอง แต่ปัจจุบัน ประเทศไทย ได้มีการตรวจสอบ และขึ้นทะเบียนร้านนวดเพื่อสุขภาพ และขึ้นตรงกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น เราจะสามารถวางใจเรื่องมาตรฐานได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อมีการขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขโดยตรง ดังนั้น ความเชื่อมั่น ในเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการก็จะถูกคัดครองมาในระดับหนึ่งแล้วเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือ การนวดสำหรับคนท้อง แท้ที่จริงสามารถนวดได้แค่ไหน แล้วจะมีผลกระทบอะไรบ้าง นี่คือสิ่งที่คุณแม่ทั้งหลายต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะบางครั้งบางสถานบริการ ก็มักจะปฏิเสธการให้บริการสำหรับคนท้อง นั่นเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่?
บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 83 คนท้องนวดได้ไหม คุณแม่นวดผ่อนคลาย
แม่ท้องสามารถเข้ารับบริการนวดเพื่อสุขภาพได้ หรือไม่?
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น สามารถเข้ารับบริการการนวดได้ค่ะ เพียงแต่การนวดนั้น จะเป็นลักษณะของการนวดผ่อนคลายเท่านั้นค่ะ เนื่องจากร่างกายของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่นั้น จำเป็นจะต้องระวังมากกว่าปกติ เพราะฉะนั้นคุณแม่จะต้องโบกมือลา การนวดไทย ที่จะต้องดัดตัว และกดตามจุดต่าง ๆ โดยเด็ดขาดค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า การนวดแบบไหน ที่จะเหมาะกับคนตั้งครรภ์อย่างเราบ้าง และแบบไหนที่ไม่เหมาะ
การนวดแบบไหนที่เหมาะกับคนตั้งครรภ์?
-
การนวดเท้า (Foot Massage) นวดคนท้อง
การนวดเท้า มักจะเป็นอันดับแรก ๆ ที่บรรดาคนท้องอย่างเราต้องการไปใช้บริการมากที่สุด นั่นเป็นเพราะ ด้วยน้ำหนักที่ต้องรองรับมากขึ้นกว่าปกติอย่างรวดเร็ว ทำให้อาการปวดเมื่อยบริเวณขา บริเวณเท้า มักจะเกิดขึ้น แต่การนวดเท้านี้ จะเหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีครรภ์ช่วงไหนบ้าง
สำหรับคุณแม่ครรภ์อ่อน ที่ตั้งครรภ์ไม่ถึง 3 เดือน ไม่ควรที่จะนวดเท้า โดยเฉพาะฝ่าเท้าเด็ดขาดค่ะ เนื่องจากบริเวณเท้า และฝ่าเท้านั้น เป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาททั้งร่างกายตั้งแต่ ศีรษะ จรดปลายเท้า นั่นก็รวมถึงบริเวณมดลูกด้วยเช่นกัน ซึ่งหากผู้ที่ให้บริการนวดนั้น กดไปบริเวณที่มีเส้นประสาทสะท้อนไปยังจุดใกล้เคียงกับบริเวณท้อง หรือมดลูก ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงในการแท้งได้เช่นกัน ทั้งนี้ รวมไปถึงผู้ที่มีภาวะมดลูกอ่อนแอด้วยค่ะ
คุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 5 เดือนขึ้นไป มักจะเกิดอาการเท้าบวม จึงอยากให้มีการนวดคลึง ซึ่งควรนวดเท้ากับสถานบริการนวดแบบผ่อนคลายเท่านั้น จะดีที่สุด และการนวด ไม่สามารถหวังผลให้หายเมื่อยได้แต่อย่างใด แต่สามารถให้พนักงานนวดคลึง เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของเลือดลมบริเวณขา และหน้าเท้า เพื่อลดอาการบวมน้ำ แต่หากต้องการให้กดเพื่อคลายความเมื่อยล้าก็ยังไม่ควรเช่นกันค่ะ
หากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีความเมื่อยล้าบริเวณเท้า หรือขา สามารถบำบัดเบื้องต้นได้ ด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่น เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของเลือดบริเวณเท้า และขา และให้ใช้หมอนหนุนเท้าให้สูงขึ้นประมาณ 1 ฝ่ามือ เวลานอน เพื่อให้เลือดสามารถไหลย้อนขึ้นได้ดี ไม่เกิดการคั่งค้างบริเวณขา และฝ่าเท้า
-
นวดคนท้อง การนวดตัว (Body Massage)
โดยมากเมื่อคนตั้งครรภ์อย่างเราอยากที่จะนวดตัว ก็มักจะคิดถึงการนวดแผนไทย ที่มีการบิดตัวไป – มา ให้คลายเมื่อย มีการกดบริเวณต่าง ๆ รวมถึงหลัง ที่คุณแม่ทุกคนต่างปรารถนา แต่ขอให้อดใจเอาไว้ก่อนค่ะ เนื่องจากการนวดแผนไทยนั้น จัดว่าเป็นการนวดที่รุนแรง และเสี่ยงเกินไปสำหรับลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะบอกผู้นวดว่าให้นวดเบา ๆ แต่ก็ไม่มีอะไรที่สามารถการันตีได้ว่า เบาของเขา กับเบาของเรา ต่างกันแค่ไหนจริงไหมคะ?
การนวดที่เหมาะกับคุณแม่ ๆ แบบเรา ก็คงจะเป็นการนวดผ่อนคลาย เช่นการนวดน้ำมันค่ะ นั่นเป็นเพราะการนวดน้ำมันนั้น จะเป็นลักษณะของการนวดด้วยฝ่ามือ ซึ่งจะปลอดภัยจากการกดตามจุดต่าง ๆ แบบการนวดแผนไทยแน่นอน และการนวดน้ำมันนี้ ก็จะทำให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีทั้งตัวด้วยเช่นกัน แต่ควรต้องเลือกสถานที่ ที่ให้บริการโดยเน้นที่ เตียงนวด ที่จะมีบริเวณเตียงที่กว้าง และไม่แข็งจนเกิดไป ซึ่งบางสถานที่ ก็จะมีเตียงนวดที่เน้นเฉพาะสำหรับคนที่มีครรภ์ด้วยเช่นกัน
ก่อนที่จะนวดนั้น ตัวคุณแม่เอง จะต้องบอกสิ่งที่ต้องการ และปัญหาของคุณแม่ให้กับพนักงานรับรู้ก่อนทำการนวด เพื่อให้พนักงานนวดจะช่วยระมัดระวัง ถึงปัญหาต่าง ๆ เช่น กรณีตัวคุณแม่เอง ไม่สามารถนอนคว่ำได้ ทางพนักงานก็จะเลี่ยงให้เป็นการนอนตะแคงด้านข้างแทน หรือมีอาการบวมน้ำ บริเวณข้อเท้า พนักงานก็จะสามารถนวดแบบคลึง หรือประคบให้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการให้บริการของสถานบริการนั้น ๆ
-
การนวดคอบ่าไหล่ (Head and Shoulder Massage)
คุณแม่หลายคน อาจจะกังวลทั้งการนวดตัว และการนวดเท้า จึงเลี่ยงการนวดแบบต่าง ๆ มานวดแบบคอบ่าไหล่ แทน เพราะดูเหมือนจะเป็นการนวดที่ปลอดภัยที่สุด แต่ในความเป็นจริงนั้น การนวดคอบ่าไหล่ ก็ไม่ได้แตกต่างจากการนวดตัวเลยค่ะ เพราะโดยปกติแล้ว การนวดลักษณะนี้ ก็เน้นการกดจุด คล้ายกับการนวดแผนไทยเช่นกัน ดังนั้น นอกจากจะต้องอาศัยผู้ที่เชี่ยวชาญในการนวดสำหรับคนท้องโดยเฉพาะแล้ว ยังต้องทำใจว่า คุณแม่เองจะไม่สามารถได้รับการนวด เหมือนกับช่วงที่ตัวคุณยังไม่ได้ท้องค่ะ
-
การนวดแบบสปา (นวดเพื่อความงาม) (Aroma Therapy Massage)
ดูเหมือนจะเป็นวิธีเลี่ยงที่ดีที่สุด และน่าจะปลอดภัยที่สุดสำหรับคนท้อง กับการนวด โดยการหลีกเลี่ยงการนวดเพื่อสุขภาพ มาเป็นการนวดเพื่อความงามแทน เพราะเป็นการนวดในลักษณะของความผ่อนคลาย และยังได้ความสวยกลับบ้านไปด้วย แต่ก็ไม่วายที่การนวดแบบสปานั้น ก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับคนท้องด้วยเช่นกัน มาดูกันดีกว่า ว่าสิ่งไหนที่สามารถทำได้ และสิ่งไหนที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง
การนวดตัวเพื่อความผ่อนคลาย (การทำสปาผิว)
ส่วนมากการนวดในลักษณะนี้มักจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
-
การนวดตัวด้วยน้ำมันเพียงอย่างเดียว (Oil Massage)
การนวดตัวด้วยน้ำมันนี้ จะคล้ายกันกับการนวดน้ำมันที่ได้กล่าวมาข้างต้น แต่จะเป็นการเน้นถึงการบำรุงผิว และความผ่อนคลายเป็นหลัก ซึ่งปัจจัยหลักของการนวดลักษณะนี้ ตัวคุณแม่จะต้องระวังผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวดเป็นหลัก เนื่องจากช่วงที่ตั้งครรภ์นั้น ผิวและการได้กลิ่น จะมีความไวและเกิดผลกระทบที่รุนแรงกว่าปกติเป็นเท่าตัว
ดังนั้นตัวคุณแม่เองควรจะเลือกสถานที่ให้บริการ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติโดยตรง หรือตัวคุณแม่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตนเอง แล้วนำไปให้ผู้ให้บริการใช้นวดตนเอง เพื่อความสบายใจจะดีที่สุดค่ะ และหากตัวคุณแม่ มีความกังวลถึงเรื่องกลิ่นอโรม่า หรือกลิ่นจากน้ำมันธรรมชาติ ก็สามารถเลือกน้ำมันนวดที่ไร้กลิ่นได้เช่นกัน โดยสามารถบอกกับเจ้าหน้าที่ก่อนทำการนวดค่ะ
-
การนวดตัว และการขัดผิว (สครัปผิว) (Body Scrub and Oil Massage)
ช่วงที่ตั้งครรภ์นี้ การได้ขัดผิวเพียงนิด ๆ หน่อย ๆ ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวได้มากทีเดียว และการขัดผิว ก็ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดลมบริเวณผิวทำให้ผิวมีสุขภาพดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้จากธรรมชาติเป็นหลัก และต้องเหมาะกับตัวคุณแม่ด้วยเช่นกันนะคะ
สิ่งที่ต้องระวังในการใช้บริการขัดผิวนั้น คือช่วงที่ตัวคุณแม่ต้องทำการล้างตัว ก่อนทำการนวด ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง ช่วงล้างตัว เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์เอง หรือน้ำที่ล้างตัว หรือพื้นที่ของสถานที่ให้บริการ อาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับคนท้อง คนที่ท้องเล็กอาจจะไม่ค่อยมีผลมาก แต่สำหรับคนท้องใหญ่ การเดินไป เดินมา นั้น ควรจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ เพื่อไม่ให้เกิดการไหลลื่น ทำให้เกิดการบาดเจ็บ
-
การนวดตัว การขัดผิว (สครัปผิว) และการอบตัว (ซาวน่า) (Body Scrub, Oil Massage and Sauna)
การนวดตัว และการขัดผิว นั้นจะต้องมีความระมัดระวังเช่นเดียวกันกับ สองข้อด้านต้นที่ได้กล่าวเอาไว้แล้ว หากแต่ข้อนี้ จะเพิ่มการอบตัวขึ้นมา ซึ่งคุณแม่หลาย ๆ คน ก็มักจะเข้าใจว่า การอบตัวนั้น จะช่วยให้ระบบเลือดในร่างกาย ไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ร่างกายจะหายปวดเมื่อยได้ดีนั่นเอง
หากแต่ในความเป็นจริงนั้น การเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น ด้วยการอบไอน้ำ หรือการเข้าซาวน่านั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด และระบบส่งอาหารไปเลี้ยงทารกในครรภ์ได้ ซึ่งมีงานวิจัยได้ระบุว่า การได้รับอุณหภูมิในร่างกายที่สูงเกินกว่า 38.3 องศานั้น จะมีผลต่อความเสี่ยงภาวะการแท้งได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุครรภ์ในช่วงสามเดือนแรก
-
การทำทรีทเม้นท์หน้าระหว่างตั้งครรภ์ แม่ท้องนวดหน้าได้ไหม (Facial Treatment)
สิ่งที่ต้องระวังคือการแพ้ต่อผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ที่อาจมีโอกาสแพ้ได้มากกว่าตอนไม่ตั้งครรภ์ หากใช้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและไร้กลิ่นจะปลอดภัยที่สุด ชนิดที่ไม่มีสารเรตินอลหรือเรตินอยด์ที่เป็นประเภทหนึ่งของวิตามินเอ ซึ่งอาจมีผลกระทบกับทารกในครรภ์ได้หากใช้มากเกินไป
-
การทำเล็บระหว่างการตั้งครรภ์ (Manicure and Pedicure)
แม่ ๆ ที่ทำสปา อยากทำเล็บสวย ๆ การใช้สีทาเล็บหรือน้ำยาล้างเล็บระหว่างตั้งครรภ์สามารถใช้ได้ แต่คุณแม่ต้องทราบว่าสารเคมีบางตัวหากได้รับมากเกินไปก็อาจมีผลกระทบต่อครรภ์ได้ เพื่อความปลอดภัยคุณแม่ควรเลี่ยงการไปร้านทำเล็บในช่วงสามเดือนแรกดีกว่าค่ะ
คนท้องที่ไม่ควรนวด
สำหรับคนท้องที่มีภาวะแท้งคุกคาม ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดขอด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ควรหลีกเลี่ยงการนวด หรือควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจจะทำให้ตัวคุณเองนั้นเข้าสู่ภาวะอันตรายได้เช่นกัน
ไม่นวดก็หายเมื่อยได้
หากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มีความกังวลกับการนวด แต่ความเมื่อยไม่เคยปราณีใคร การหันมาออกกำลังกายเบา ๆ ก็จะสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของคุณแม่มีการยืดหด ขยายตัว และลดความเมื่อยล้าได้ และแถมยังได้เรื่องสุขภาพ และระบบการหายใจ ทำให้ร่างกายรู้สึกกระชุ่มกระชวย เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
กีฬาเบา ๆ ที่เหมาะกับคนท้อง และช่วยคลายเมื่อยได้
- การเล่นโยคะ สำหรับคนท้อง การเล่นโยคะนี้ นอกจากจะช่วยคลายเมื่อยระยะยาวแล้ว ยังช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือด รวมถึงสุขภาพของตัวคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
- การยกมือขึ้น – ลง (การรำมวยจีน) ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการเล่นโยคะ แต่อาจจะเบากว่า และทำได้ง่ายกว่า แต่ก็ช่วยให้เกิดการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ทำให้คลายเมื่อยได้ด้วยเช่นกัน
- การว่ายน้ำ นอกจากได้เคลื่อนไหวร่างกายทุกสัดส่วนแล้ว ยังปลอดภัยกับเด็กในครรภ์อีกด้วย ซึ่งการว่ายน้ำนี้ จำเป็นจะต้องศึกษาให้ดีว่า ควรจะว่ายแบบไหน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ออกกำลังกายในน้ำ มีประโยชน์อย่างไร 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 80
การปรับเปลี่ยนท่าทางบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นระหว่างการตั้งครรภ์ได้
- ท่านั่ง ท่านั่งสำหรับคนท้อง ควรนั่งตัวตรงให้สะโพก และหลังเหยียดตรง ถ้านั่งบนเก้าอี้ควรวางขาให้สบาย และหาเก้าอี้ตัวเล็กมาวางเท้า หรือถ้านั่งพื้น ควรขัดสมาธิหลวม ๆ จะช่วยลดอาการปวดหลังได้
- ท่ายืน ควรยืนตัวตรงเท้าแยกห่างกันเล็กน้อย และลงน้ำหนักให้เท่ากันทั้ง 2 ข้าง
- ท่าก้มหยิบของ ยืนให้ห่างจากของที่ต้องการหยิบเล็กน้อย ก้าวเท้าหนึ่งไปด้านหน้า ค่อย ๆ ย่อตัวลง และคุกเข่า ใช้ปลายเท้าอีกข้างยันพื้นไว้ ยกของลุกขึ้นหลังตรง
- ท่านอนหงาย ควรนอนโดยใช้หมอนใบหนึ่งรองศีรษะ และใช้หมอนอีกใบรองใต้เข่า ให้เข้างอเล็กน้อย ส่วนท่านอนตะแคงควรใช้หมอนรองบริเวณศีรษะ และหัวไหล่ อีกใบหนึ่งสอดรองบริเวณระหว่างขา
นวดหลังคลอดมีประโยชน์อย่างไร?
การนวดเป็นการช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวจากการอยู่ในอิริยาบถเดิมนาน ๆ หรือหลังจากการทำงานหนัก ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้มีความยืดหยุ่นดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมกล้ามเนื้อก่อนการอยู่ไฟหลังคลอดได้ดี ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังจากการดูแลทารกได้ เช่น บริเวณกล้ามเนื้อบ่า หลัง ขาและกล้ามเนื้อบริเวณสะบัก ที่ต้องใช้เวลาอุ้มลูก และให้นม การนวดจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดลม และน้ำเหลืองดีขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นน้ำนม อีกทั้งยังช่วยลดอาการบวมของกล้ามเนื้ออีกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 สุดยอด น้ำมันนวด คุณแม่ พร้อมไขข้อข้องใจ คนท้องนวดได้ไหม?
คนท้องกินยานอนหลับได้ไหม ยาคลายเครียด สำหรับคนท้อง กินได้ไหม วิธีทำให้แม่ท้องหลับง่าย
คนท้องออกกําลังกาย ช่วยพัฒนาการลูกในครรภ์ ยิ่งออกกำลังกายยิ่งดีต่อลูก
ที่มา : honestdocs , chulalongkornhospital , กระทรวงสาธารณสุข
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!