อันตรายมาก ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก
![อันตรายมาก ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2016/02/EarRing050-2-1-300x188.jpg?width=700&quality=10)
อันตรายมาก ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก หากเด็กเป็นไข้หวัด 3-4 วัน ยังงไม่หายและมีอาการปวดหูร่วมด้วยควรพาไปพบคุณหมอ
หูชั้นกลางอักเสบ
![อันตรายมาก ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2017/01/เด็กเล็กติดเชื้อไรโนไวรัส-ก่อน-2-ขวบ-เสี่ยงเป็นหอบหืดหรือภูมิแพ้-498x332-1-300x200.jpg?width=700&quality=10)
ผศ.พญ.นันทิการ์ สันสุวรรณ ภาควิชา โสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงโรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็ก สรุปได้ ดังนี้
1. หูชั้นกลางอักเสบพบได้ในเด็กอายุระหว่าง 3 เดือนถึง 11 ปี และพบมากในเด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 11 เดือน
2. โรคหูชั้นกลางอักเสบสามารถเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย
3. หากเกิดจากเชื้อไวรัส ร่างกายสามารถรักษาให้หายเองได้
4. หากเกิดจากเชื้อแบคทีเรียจะทำให้หายช้า และสามารถเป็นซ้ำได้อีก หรือเป็นพร้อมกันทั้งสองข้าง และใช้เวลาในการรักษานาน
5. เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบที่พบบ่อย คือ เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส และเชื้อเอ็นทีเอชไอ ซึ่งเป็นเชื้อที่พบในลำคอและโพรงจมูกของเด็กเล็ก เป็นเชื้อที่มีความรุนแรง แฝงตัวมากับเชื้อหวัดและปอดบวม
อาการ
![อันตรายมาก ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2014/05/shutterstock_120176707-300x200.jpg?width=700&quality=10)
อาการของเด็กที่ป่วยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ คือ
1. เด็กมักมีไข้สูง ร้องกวน งอแง บางรายอาจมีอาการของไข้หวัด และภูมิแพ้ร่วมด้วย
2. เด็กอาจแสดงอาการว่าปวดหูมาก โดยใช้มือจับบริเวณหู หรือดึงใบหูของตัวเอง
3. เด็กที่ป่วยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบจะตรวจพบเยื่อแก้วหูแดง อาจพบน้ำ หรือหนองอยู่ในหูชั้นกลาง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบ
![ดนตรีและภาษาสำหรับเด็ก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2014/04/lead-1-300x149.jpg?width=700&quality=10)
1. อายุ เด็กที่อายุน้อยกว่า 7 ปี ท่อยูสเตเชี่ยนจะมีขนาดเล็ก สั้น และวางตัวในแนวราบกว่าผู้ใหญ่ จึงทำให้เกิดการติดเชื้อจากจมูกและคอได้ง่าย
2. เพศ มักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
3. กรรมพันธุ์ หากมีพ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นหูอักเสบบ่อย ๆ พบว่าเด็กมีโอกาสติดเชื้อซ้ำซ้อนมากขึ้น
4. บุหรี่ ถ้ามีคนในบ้านสูบบุหรี่จะทำให้เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และการติดเชื้อในหูชั้นกลาง
5. การดูดขวดนม โดยเฉพาะการนอนดูดนม จะทำให้เกิดการอุดตันและสำลักนมเข้าท่อยูสเตเชี่ยน ดังนั้นหากจำเป็นต้องให้นม ควรให้ในท่าที่ศีรษะเด็กสูงกว่าลำตัว
6. เด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออ่อนแอ เช่น เด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ เด็กที่ติดเชื้อ HIV เป็นต้น
7. เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูในสถานรับเลี้ยงเด็ก พบการเกิดหูชั้นกลางอักเสบมากขึ้น
8. เด็กที่มีโครงสร้างใบหน้าผิดปกติ เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ ดาวน์ซินโดรม เป็นต้น
อันตราย!! ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก
![อันตรายมาก ลูกหูชั้นกลางอักเสบหากปล่อยไว้เสี่ยงหูหนวก](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2014/04/lead-2-300x149.jpg?width=700&quality=10)
ผศ.พญ.นันทิการ์ สันสุวรรณ ได้กล่าวถึง อันตรายที่เกิดจากหูชั้นกลางอักเสบในเด็ก ไว้ว่า โรคหูชั้นกลางอักเสบ มักมาพร้อมกับโรคหวัด พ่อแม่และกุมารแพทย์มักมุ่งไปที่การรักษาอาการไข้หวัด และมองว่าอาการเจ็บหูเป็นเพียงอาการข้างเคียง และเมื่อเด็กหายจากโรคหวัดแล้ว พ่อแม่ก็มักลืมติดตามรักษาโรคหูอักเสบของเด็ก ซึ่งอันตรายมาก เพราะหากเด็กไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและอย่างจริงจัง โรคนี้จะมีโอกาสพัฒนาไปสู่โรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือโรคหูชั้นกลางอักเสบชนิดมีของเหลวขัง และโรคหูหนวกได้ในอนาคต
ข้อควรสังเกต
พ่อแม่ควรสังเกต หากลูกเล็ก โยเย ร้องกวน หรือไม่ยอมดูดนม บางครั้งอาจมีไข้ตัวร้อนร่วมด้วย หรือมีน้ำหนองไหลออกมาให้เห็น ขอให้สงสัยว่า ลูกน้อยของท่านอาจเป็นโรคนี้และควรพาไปพบคุณหมอทางด้านหู คอ จมูก หรือกุมารแพทย์ เพื่อตรวจดูว่าในรูหูมีการอักเสบ บวมแดง หรือมีน้ำหนองขังอยู่ภายในหรือไม่ จะได้รักษาอย่างทันท่วงที และถูกต้อง
การป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ
นัก วิจัยมีคำตอบ ให้ ทำ ไมเด็ก ชอบเล่น ตุ๊กตาหมี เล่นตุ๊กตา หมีมี ประโยชน์ยังไง?
พญ.ศิริเพ็ญ มุขบัณฑิตพงษ์ กุมารแพทย์ ให้คำแนะนำในการป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบนั้นทำได้โดย
1. ควบคุมภาวะภูมิแพ้ โดยการกำจักสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ ดอกไม้ เป็นต้น
2. ควรให้ทารกกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน นักวิจัยพบว่า เด็กที่กินนมแม่ในช่วง 4 เดือนแรก จะมีภาวะการติดเชื้อของหูชั้นกลาง ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ เพราะในนมแม่มีภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อได้
3. เวลาเด็กกินนมและอาหาร พยายามให้ลูกอยู่ในท่านั่งหรือศีรษะสูงกว่าลำตัว อย่าให้เด็กหลับขณะที่ขวดนมยังคาอยู่ในช่องปาก
4. งดสูบบุหรี่ภายในบ้านหรือสถานที่เลี้ยงเด็ก
5. เปลี่ยนสถานบริการรับเลี้ยงเด็กจากขนาดใหญ่ที่มีเด็กจำนวนมาก มาเป็นขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนเด็กที่น้อยกว่า
6. การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมค็อกคัส ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคหูชั้นกลางอักเสบและปอดอักเสบ พบรายงานการลดลงของการเกิดหูชั้นกลางอักเสบได้ประมาณ 32%
เรื่องน่ารู้
การอ่านอีบุ๊คเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่สำหรับเด็ก?
90 % ของเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี มีโอกาสเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบอย่างน้อย 1 ครั้ง และเนื่องจากหูชั้นกลางอยู่ใกล้กับฐานสมอง และมีช่องทางเชื่อมปอดได้ ดังนั้น หากลูกเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ เชื้อโรคจะสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ ได้
โรคหูชั้นกลางอักเสบเป็นโรคที่ป้องกันได้ เวลาที่ลูกเป็นหวัดและมีไข้ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ลูกมีอาการปวดหู เด็กเล็ก ๆ มักจะเอานิ้วแหย่เข้าไปในหู ดึงใบหูตนเอง หรืออาจมีหนองไหลออกจากหู เป็นต้น ควรรีบพาเด็กไปพบคุณหมอโดยด่วน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปเสี่ยงเป็นหูหนวกได้นะคะ
ที่มา : 1
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
https://www.rcot.org/2016/People/Detail/221
ลักษณะใบหู บอกได้ว่าพ่อแม่จะมีวาสนาหรือไม่ อนาคตลูกจะเป็นเช่นไร
ลูกไม่ได้เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา จากโรคหวัดที่พ่อแม่คิดว่าจะหาย ลูกกลับเป็นโรคร้ายแรงกว่านั้น หูลูกติดเชื้อ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!